ดร.เจเรมี ลอนดอน ศัลยแพทย์หัวใจชาวอเมริกันจากเมืองซาวันนาห์ รัฐจอร์เจีย โพสต์คลิปวิดีโอบนแพลตฟอร์มติ๊กต็อกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เปิดเผยถึงพฤติกรรม 4 ประการที่เขาหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพที่ดี และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามด้วยยอดเข้าชมมากกว่า 1.3 ล้านครั้ง

ดร.ลอนดอนบอกว่า เขาเป็นศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอกมาเป็นเวลา 25 ปี ซึ่งทำให้เขาเรียนรู้ว่าไม่ควรสูบบุหรี่ ซึ่งรวมทั้งการสูบบุหรี่ไฟฟ้า, ไม่ใช้ยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, ไม่กินอาหารแปรรูปและไม่ดื่มแอลกอฮอล์

ศัลยแพทย์หัวใจอธิบายว่าการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อเยื่อบุหลอดเลือดโดยตรง เพิ่มโอกาสเกิดหลอดเลือดแข็งและอุดตัน รวมทั้งทำให้เกิดโรคมะเร็ง และนี่อาจจะเป็นพฤติกรรมทำร้ายตัวเองที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์

ส่วนข้อห้ามใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมแอลกอฮอล์นั้น ดร.ลอนดอนชี้ว่า เป็นเพราะจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ของคนมาจากในปาก ดังนั้น หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ฆ่าแบคทีเรียเหล่านี้มากเกินไปก็จะทำให้ขาดความสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ได้ 

“และที่น่าสนใจก็คือ แบคทีเรียในปากช่วยผลิตไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวช่วยปรับและควบคุมความดันโลหิต” ดร.ลอนดอนอธิบายเพิ่มเติมพร้อมทั้งชี้ว่าการฆ่าแบคทีเรียเหล่านี้ อาจทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงหรือทำให้อาการของโรคนี้แย่ลงได้

นอกจากนี้ ดร.ลอนดอนยังบอกว่า จุลินทรีย์ในลำไส้ของคน ซึ่งรวมทั้งกลุ่มแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราในระบบย่อยอาหาร เป็นตัวช่วยในการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร และควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน การรบกวนสมดุลที่ละเอียดอ่อนของแบคทีเรียในลำไส้อาจนำไปสู่ปัญหาในการย่อยอาหาร เกิดความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ โรคผิวหนัง และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้

ผลจากการศึกษาวิจัยฉบับหนึ่งที่เผยแพร่ในประเทศเบลเยียมเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าแบคทีเรีย 2 สายพันธุ์ที่มีส่วนทำให้เกิดโรคเหงือก, มะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งลำไส้ใหญ่มีจำนวนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่องปากหลังจากใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน ขณะที่แบคทีเรียกลุ่มที่มีประโยชน์ต่อการควบคุมความดันโลหิตกลับลดลง

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยก็ไม่ได้แนะนำให้คนหยุดใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่เรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มเติมและแนะนำให้ไปขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพว่าควรใช้น้ำยาบ้วนปากแบบไหน อย่างไร

ส่วนพฤติกรรมการบริโภคอาหารแปรรูปแบบที่เรียกว่า Ultra-processed foods นั้น ดร.ลอนดอนชี้ว่า อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยน้ำตาล ไขมัน เกลือ (โซเดียม) และให้พลังงานสูง การรับประทานอาหารเหล่านี้บ่อยเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน, มะเร็งรวมทั้งทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้

พฤติกรรมสุดท้ายที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพที่ดีก็คือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดร.ลอนดอนชี้ว่าเมื่อคนดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มเหล่านี้จะถูกย่อยสลายกลายเป็นสารเคมีที่เรียกว่าอะซีตัลดีไฮด์และอะซิเตท 

“อะซีตัลดีไฮด์เป็นพิษโดยตรงต่อเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย” ดร.ลอนดอนให้ข้อมูล “อะซีตัลก็เป็นเพียงแคลอรีไม่มีคุณค่าทางอาหาร” 

ในงานวิจัยล่าสุดมีการกล่าวอ้างว่าแอลกอฮอล์ในปริมาณใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่ดีต่อสุขภาพ แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นจะยกย่องประโยชน์ของไวน์แดงเมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะว่ามีฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระและต่อต้านการอักเสบได้

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES