เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ดร.เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 14 ซม. ระดับน้ำแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) อยู่ที่ 3.82 เมตร ต่ำกว่าระดับถนนพระพันวษา 1.78 เมตร ประตูน้ำพลเทพรับน้ำเข้า 130 ลบ.ม./วินาที ลดลง 10 ลบ.ม./วินาที สภาพอากาศแปรปรวน พายุซิมานอน สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อทิศทางเคลื่อนลงมาอยู่ทะเล แต่มีดีเปรสชันใหม่อีก 1 ลูก ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดครับ กรมอุตุนิยมวิทยายังแจ้งเตือนมีฝนตก 60% ในภาคกลาง เทศบาลเมืองสุพรรณบุรียังคงเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำและฝนที่อาจตกหนักเพื่อช่วยสูบน้ำในที่ลุ่มต่ำอย่างต่อเนื่องครับ จุดใดที่มีปัญหาแจ้งได้ที่งานป้องกันฯ เบอร์โทร. 035-511555

ดร.เอกพันธุ์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้รับแจ้งจากทาง ปภ.จังหวัดสุพรรณบุรี และจากการติดตามในส่วนของกรมชลประทาน และกรมอุตุฯ สภาพอากาศแปรปรวนมาก จึงต้องระมัดระวังอย่างมาก และมวลน้ำภาคเหนือตอนบนจะลงมาที่เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งขณะมีการระบาย 1,700-1,800 ลบ.ม./วินาที และประตูน้ำพลเทพรับน้ำมากขึ้น จาก 35 คิว เป็น 80 คิว และ 140 คิว ในส่วนของแม่น้ำสุพรรณบุรี ในเขตเทศบาลยังต่ำกว่าถนนอยู่ประมาณ 1.70 เมตร ช่วงค่ำวันนี้จะขึ้นอีก ประมาณ 30-40 เซนติเมตร ในส่วนของเทศบาลฯ คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีมวลน้ำมาอีก คาดว่ายังสามารถรับสถานการณ์ได้เพราะในเขตเมืองยังมีพนังกั้นน้ำ และสั่งปิดประตูน้ำที่เชื่อมกับแม่น้ำสุพรรณทั้งหมด ถ้ามีฝนตกหรือพายุมาอีกต้องเร่งสูบน้ำออก ซึ่งขณะนี้เตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำสุพรรณ นอกพนังกั้นน้ำในพื้นที่ อ.เมือง อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง ขอให้เก็บของได้ตั้งแต่ตอนนี้เพราะได้รับผลกระทบแน่นอน ภายในไม่เกิน 2-3 วัน น้ำจะล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน

นายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ได้เร่งเตรียมความพร้อมในการช่วยพี่น้องชาวสุพรรณบุรี หากเกิดน้ำท่วมหรือเหตุฉุกเฉิน โดยประชุมหารือกับทาง พม.จังหวัดสุพรรณบุรี (One Home) เกี่ยวกับแผนสนับสนุนภัยพิบัติ/ภาวะฉุกเฉิน หากเกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะการช่วยเหลือพี่น้องในกลุ่มเปราะบางหรือการเตรียมตัวสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีบ้านอยู่ติดริมแม่น้ำ ซึ่งเบื้องต้นเรามีแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติไว้หลายขั้นตอน ตั้งแต่การเฝ้าระวัง ติดตาม การบรรเทาทุกข์ หากเกิดเหตุ ไปจนถึงการฟื้นฟูและเยียวยาต่างๆ ทั้งหมดนี้ เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อให้สามารถดูแลพี่น้องได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน