เรียกได้ว่ายังเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หลายคนรอลุ้นข่าวดีอย่างมาก สำหรับคู่คนดังอย่าง “น้ำตาล พิจักขณา” และแฟนหนุ่ม “ไผ่ พาทิศ” หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานหลายปี แต่ยังไม่มีข่าวดีสักที แถมช่วงนี้ทั้งคู่ยังเจอแต่เรื่องราวหนักหน่วงมาก เพราะน้ำตาลได้เจอมิจฉาชีพเข้าเต็มๆ เนื่องจากได้เข้าไปจองที่พักในเพจ แต่กลายเป็นเพจปลอม ทำให้เกิดความสูญเสียเงินไปเกือบ 3 หมื่น รวมถึงหนุ่มไผ่ ที่ได้เปิดกิจการร้านตู้ปลา ก็โดนมิจฉาชีพหลอกเช่นเดียวกัน

ล่าสุดน้ำตาล ได้มาร่วมงานประกาศรางวัล MAYA TV AWARDS 2024 ซึ่งเธอก็ได้มาเปิดใจเล่าเหตุการณ์ตอนโดนมิจฉาชีพหลอกเงิน พร้อมทั้งอัปเดตเรื่องของหัวใจและสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือ โดยสาวน้ำตาลได้เผยว่า

“สำหรับปีนี้น้ำท่วมภาคเหนือหนักมากๆ ตั้งแต่ตาลเกิดมาจนขึ้นตอนนี้ ตาลมีความรู้สึกว่าพายุลูกนี้ผ่านไป พายุลูกใหม่ก็กลับมาซ้ำอีกมันเหมือนว่าสถานการณ์กำลังจะเริ่มดีแต่ว่าก็มีฝนตกมาซ้ำอีก ครั้งนี้ก็เลยขอเป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวเหนือด้วยนะคะ รวมถึงทุกจังหวัดที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ตอนนี้นะคะ ก็ขอให้สถานการณ์นี้ผ่านไปได้ด้วยดี ในส่วนของจังหวัดแพร่บ้านตาลก็น้ำท่วมนะคะ แต่ว่าตัวของบ้านตาลนั้นไม่ท่วม แต่ว่าหนักๆ เลยก็จะเป็นบ้านเพื่อนๆ ยิ่งเพื่อนที่อยู่จังหวัดเชียงรายตอนนี้ก็หนักมากๆ ค่ะ เพื่อนเพิ่งลงรูปเก็บข้าวของทำความสะอาดโคลนต่างๆ ทำได้แค่วันเดียวน้ำไหลมาอีกแล้ว และครั้งนี้มันหนักด้วยเพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ ทั้งแม่สายก็หนักมากๆ ค่ะ คือถามว่ากังวลมากไหมถ้าน้ำมาถึงบ้านเรา คือตอนเด็กประมาณปี 39 หรือ 40 ที่จังหวัดแพร่ก็เคยน้ำท่วมแบบนี้ แต่ว่าตอนนั้นน้ำมันค่อยๆ มาแล้วก็น้ำใส แต่ว่าครั้งนี้ค่อนข้างที่จะหนักหน่วงเพราะว่ามีปัญหาในเรื่องของดินโคลนสไลด์ด้วย แล้วก็มีผู้เสียชีวิตเยอะด้วยในครั้งนี้ ก็เลยมีความรู้สึกว่า ค่อนข้างหนักและก็เป็นห่วง และมันก็ยังมีบางคนที่ฉวยโอกาสตรงนี้มาขโมยอีก ซึ่งตาลมองว่ามันเป็นการซ้ำเติมกันมากๆ เลย”


“ในส่วนของเรื่องที่โดนมิจฉาชีพโกงนะคะ อยากจะบอกว่าเจ็บปวดใจมาก เท่าที่ได้ข่าวมาคือเขาโดนจับแล้ว คือตาลโดนมิจฉาชีพโกงที่แม่ฮ่องสอน ตอนนั้นมีงานแต่งงานเพื่อนที่แม่ฮ่องสอน แล้วเราก็ขึ้นไปบนปางอุ๋ง เลยขึ้นไปอีก ที่หมู่บ้านรักไทย ก็ไปโดนโกงที่นั่นเป็นเงินประมาณเกือบ 3 หมื่นบาท แต่พอไปถึงที่นั่นบ่าย 3-4 โมงเย็นไม่มีที่พักแล้ว เพราะว่าเราไปจองเพจปลอม เราก็เลยถามเจ้าของรีสอร์ทว่าเราจะรู้ได้ไงว่าอันไหนเพจจริง เพจปลอม เขาบอกว่าเพจจริงโดนรีพอร์ต และเพจปลอมที่ตาลจองเขามีการไลฟ์ด้วย เพราะตัวเขาเองไปเช่า แล้วไลฟ์สด เหมือนเป็นเจ้าของกิจการ เราก็เลยหลงเชื่อ มันแยบยลมากตอนนี้ อย่างมูลค่าความเสียหายเท่าที่ผ่านมามันหลายล้านมากๆ หลอกหลายคนมาก ถึงขั้นเจ้าของรีสอร์ทเขารู้จักกับที่พักเล็กๆ ที่ราคาไม่แรงมาก เอาไว้สำหรับคนที่โดนหลอกโดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นกลุ่มตาลเองที่ต้องไปนอน แล้ววันนั้นตาลร้องไห้เลยเพราะเหมือนกับว่าเราผ่านกันหลายโค้งมากจากเชียงใหม่เพื่อขึ้นไปถึงแม่ฮ่องสอนแล้วเพื่อนทุกคนไว้ใจให้ตาลเป็นคนจอง เพื่อนประมาณ 10 คนคือโดนหลอกหมดเลย ถามว่าเสียใจไหม เสียใจ เพื่อนทุกคนบอกว่าไม่เป็นไรได้ประสบการณ์ร่วมกัน แต่ว่าความรู้สึกของเรา ณ เวลานั้นมันเจ็บใจ เพราะเราก็อ่านมาเยอะและเราก็โดนเตือนมาเยอะ แล้วเราก็โทรฯไปฟ้องพ่อที่เป็นตำรวจ คือเราโทรฯไปบอกพ่อเรา ตอนนั้นเรากะว่าเราจะแจ้งความที่นั่น แต่ปรากฏว่าถ้าเกิดเราแจ้งความที่นั่นแล้วเกิดเรียกเรามาสอบปากคำเพิ่มเราก็ต้องบินไปที่แม่ฮ่องสอนอีก ก็เลยมาแจ้งความที่กรุงเทพฯ แล้วมันไม่ได้แจ้งความสักทีอันนี้คือข้อผิดพลาดนะคะ ดังนั้นใครที่โดนมิจฉาชีพหลอกต้องไปแจ้งความ เพราะถ้าเขาถูกจับได้เราอาจจะได้อะไรคืนมาบ้าง แต่ว่าตาลเองไม่ได้ไปแจ้งความที่กรุงเทพฯ ก็เลยไม่ได้อะไร เพราะว่าทางเจ้าของรีสอร์ทเขาโทรฯมาบอกว่าตอนนี้จับได้แล้วนะ แล้วเป็นยังไงบ้าง แจ้งความหรือยัง เราก็บอกว่าเอ้า เสียดายมากๆ ถามว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่เจ็บใจที่สุดเลยไหม เจ็บใจที่สุด แล้วคุณไผ่ พาทิศ เปิดร้านตู้ปลาก็เพิ่งโดนโกงเรื่องกล่องไป แล้วอันนี้คือเราจับตัวมิจฉาชีพได้เองด้วย ที่จังหวัดสุโขทัย ถามว่าเสียหายเยอะไหม ของคุณไผ่ก็หลักหมื่นเหมือนกันค่ะ อันนี้ก็แนบเนียนมาก เราก็ตามมาจนได้บัญชีมาได้อะไรหลายๆ อย่างมา เป็นนาตาซา โรมานอฟ ถ้าถามว่าทำไมเก่งแบบนี้ คือน่ากลัวมาก กลัวผู้ชายแล้วตอนนี้ ก็คือนางก็ไล่ตามไปเรื่อยๆ เอาชื่อไปเสิร์ช แล้วก็ตามหา เอาเบอร์ไปเสิร์ช ดูกูเกิลแม็พแล้วก็ขยายทุกอย่าง ก็คือเรื่องไปถึงตำรวจ ก็มีข้อมูลเรียบร้อยหมดแล้ว คือมันมาในทุกกลโกงมากๆ เลย และตาลก็รู้สึกว่าเราพยายามหาช่องทางปิดรูโหว่เวลามิจฉาชีพโกงเรา แต่มิจฉาชีพก็พยายามหาช่องทางมาโกงเราอีก มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ตาลก็เข้าใจว่าตำรวจเขาก็มีหลายเคสที่เขาต้องตาม ดังนั้นอะไรที่เราตามได้ เราก็เอาข้อมูลไปยัดให้เขา แล้วให้เขาไปจับเลยง่ายดี สะใจดี(หัวเราะ)”

“ในเรื่องของหัวใจ นั่นน่ะสิ มันยังไง ก็รอเหมือนที่ทุกคนรอนี่แหละค่ะ ก็รอฟัง (โชว์นิ้วว่าง) เขานึกว่าเราชิลมากเหรอ ก็ไม่น่านะ ชิลมากเกินไป พี่นั่นแหละชิลมากเกินไปหรือเปล่า คือเราเริ่มมีเซนส์บ้างแล้ว เพื่อนเราก็พอที่จะเริ่มถามแล้วว่ามีไปทริปไหนยังไง เราก็เริ่มกลัวว่าทริปไหนเพื่อนเยอะวะ แล้วตัวพี่ไผ่เองเขาก็มีมาถามบ้างว่าเราชอบแบบไหน เราก็บอกว่าไม่รู้ไปถามเพื่อนเราดู เพราะว่าเราสั่งไว้หมดแล้ว เตรียมกับเพื่อนไว้หมดแล้วเพราะกลัวเราไม่สวย กลัวเขาไปขอเราใต้น้ำใต้ป่า มันไม่ได้ไง มันครั้งเดียวในชีวิตเนาะ มันคงไม่ใช่ว่างานนี้พอแค่นี้ งานหน้าว่ากันใหม่ มันไม่ได้ ถามว่าเตี๊ยมกับเพื่อนไว้ยังไงบ้าง คือเพื่อนรอบๆ ตัวตาลและเพื่อนเขา เหมือนเรารักกันมาก่อนใช่ไหม แต่ที่ตามหลังเรามาเขามีลูกกันไปหมดแล้ว เขาก็เลยบอกว่าช่วงนี้ฉันมีลูกนะ แต่งงานกันไปหมดแล้ว ขอให้เป็นที่ประเทศไทยได้ไหม พอเราเริ่มรู้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ต่างประเทศแล้ว เราก็เอฟชุดรอ เราก็เริ่มกลัวเพราะมันเป็นประเทศไทยมันมีหลายทริปด้วยไง คือเราก็กลัวก็เลยกระซิบบอกเพื่อนแต่ละครั้ง ยังไงก็ได้ให้สวยไว้ก่อน จะโซนทะเลหรือภูเขา นั่นสินะ ขอแบบไม่เปียกน้ำก็พอค่ะ ไม่ค่อยถูกกับน้ำเท่าไหร่”