ศึกฟุตซอลโลก 2024 มีพลิกล็อกสนั่น ระดับที่ ฟีฟ่า เรียกว่าเป็นหนึ่งในแมตช์ช็อกที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกฟุตซอลโลก เมื่อ เวเนซูเอลา เขี่ย “กระทิงดุ” สเปน ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่ ปารากวัย เข้าไปรอเจอ ทีมชาติไทย หรือ ฝรั่งเศส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
การแข่งขันที่อุซเบกิสถาน รอบ 16 ทีมสุดท้าย สเปน แชมป์ 2 สมัย และเป็นเต็ง 3 ของการแข่งขัน ต้องหยุดเส้นทางเพียงเท่านี้ เมื่อแพ้แก่ เซเนซูเอลา 1-2 โดย เวเน ยิงนำก่อน จาก วีญาโลบอส นาทีที่ 13 จากนั้น สเปน ตีเสมอจาก โกเมซ นาทีที่ 24 แต่ เวเนซูเอลา ยิงประตูชัยจาก คาร์เรโน นาทีที่ 39
สำหรับ เวเนซูเอลา นั้น มาแข่งฟุตซอลโลก เป็นครั้งที่ 2 เท่านั้น ต่อจากเมื่อปี 2021 ก่อนหน้านี้ถูกวางเป็นเต็ง 12 เท่ากับไทย (อัตรา 66/1) ส่วนผลงานรอบแรกนั้น มาเป็นอันดับ 3 จากกลุ่ม F จากการแพ้ อิหร่าน 1-7, แพ้ ฝรั่งเศส 3-7 และมาชนะ กัวเตมาลา 7-3 และเข้ารอบเป็นอันดับ 3 ที่ดีสุดเป้นลำดับสุดท้าย ลำดับที่ 4 มี 3 แต้ม ผลต่างประตูได้เสีย -6 ดีกว่าปานามา อันดับ 5 แค่ลูกเดียว และจากทีมที่เริ่ม 2 นัดแรก ด้วยการโดนยิง 14 ลูก กลับสมมารถเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลได้แล้ว เป็นการเข้าถึงรอบนี้ครั้งแรก ต่อจากหนก่อนที่เข้ารอบ 16 ทีม
ส่วนสเปน ต้องผิดหวังตกรอบ หลังจากรอบแรก มาเป็นอันดับ 1 กลุ่ม D เสมอคาซักสถาน 1-1, ชนะ นิวซีแลนด์ 7-1, ชนะ ลิเบีย 8-0 การตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายครั้งนี้ เป็นผลงานแย่สุด ใน 35 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1989 ในฟุตซอลโลก ครั้งแรก และตกรอบแรก จากนั้น 6 ครั้งต่อมา เข้ารอบรองฯ ทุกครั้ง มี 2 แชมป์โลก ปี 2000 กับ 2004 ส่วนฟุตซอลโลก 2 ครั้งหลัง ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย
การตกรอบของ สเปนนั้น ทำให้ ฟีฟ่า ถึงขนาดพาดหัวข่าวว่า เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ช็อกที่สุดในฟุตซอลโลก เลยทีเดียว
ราอูล กัมโปส นักเตะสเปน กล่าวว่า “เราขาดความเด็ดขาด เราไม่รู้ว่าเรากำลังเล่นไปเพื่ออะไร ขาดความแม่นยำ ขาดความแข็งแกร่ง ความผิดพลาดประการใดสามารถส่งคุณกลับบ้านได้ ถ้าเราต้องการที่จะชนะเราต้องมีความเด็ดขาดมากขึ้น เราผิดหวัง เสียใจ และเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับทุกคนที่คอยเชียร์เราจากสเปน”
ส่วน โรบินสัน โรเมโร โค้ชสเปน กล่าวว่า “เราชนะสเปน มหาอำนาจโลก, อันดับ 3 ของโลกได้ เราได้ทำงานหนัก ประตูในช่วงเวลาสุดท้ายนำมาซึ่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่สำหรับเราและประเทศชาติ” โดยในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เวเนซูเอลา ที่เข้ารอบมาเป็นอันดับ 3 โซนลาติน ไปพบ ยูเครน
ด้าน ปารากวัย ทีมอันดับ 4 หรืออันดับสุดท้ายจากโซนละติน ต่อเวลาชนะ อัฟกานิสถาน 3-1 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 ทำให้ ปารากวัย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย วันที่ 30 ก.ย. ไปรอพบ ไทย หรือ ฝรั่งเศส ที่จะเตะกันวันที่ 27 ก.ย.เวลาไทย 19.30 น.
