กำลังเป็นกระแสฮือฮาสนั่นโซเชียลอยู่ในขณะนี้ หลังล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้แฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาเผยภาพเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 93 ปี มีอาการไอมาก เสมหะสีเหลือง มีไข้ต่ำๆ และมีน้ำมูก 2 วัน จึงไปเอกซเรย์ปอด กลับพบว่าเห็นฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่าง จึงได้แยงจมูกตรวจรหัสพันธุกรรมของไวรัส ก็พบเชื้อไวรัส RSV ต่อมา คนไข้รายนี้ได้รักษาตามอาการ ได้มีการให้ออกซิเจน และยารักษา พอเมื่อเอกซเรย์ปอด ปรากฏว่าฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่างลดลง ทั้งนี้ แพทย์เตือน ผู้สูงสูงอายุติดเชื้อไวรัส RSV แล้วจะทำให้หลอดลมและปอดอักเสบ แนะนำให้คนที่มีความสามารถจ่ายเงินเองได้ อายุ 75 ปีขึ้นไปทุกคน ฉีดวัคซีนป้องกัน RSV 1 เข็ม สำหรับคนอายุ 60-74 ปี ให้ฉีดเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เพื่อลดความรุนแรงของโรคได้มากกว่า 80%
โดยหมอมนูญ ระบุข้อความว่า ผู้ป่วยหญิงอายุ 93 ปี มาโรงพยาบาลวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ด้วยอาการไอมาก เสมหะสีเหลือง มีไข้ต่ำๆ มีน้ำมูก 2 วัน ไม่เหนื่อย ผู้ป่วยไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เป็นโรคไขมันสูง ไทรอยด์ต่ำ และใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว เคยติดโควิดแล้ว 2 ครั้ง ทำให้เดินเองไม่ได้ จึงต้องมีคนช่วยพยุง ตามองเห็น หูได้ยิน กินอาหารได้ ตรวจร่างกาย อุณหภูมิ 37.6 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำ 92% ฟังปอดมีเสียงผิดปกติ rhonchi ข้างขวา เจาะเลือดเม็ดเลือดขาวปกติ เอกซเรย์ปอดเห็นฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่าง แยงจมูกตรวจรหัสพันธุกรรมของไวรัส พบเชื้อไวรัส RSV
โดยหมอมนูญ ระบุข้อความอีกว่า วินิจฉัย คือ ติดเชื้อไวรัส RSV ไม่ทราบติดเชื้อจากใคร ในบ้านไม่มีใครเป็นหวัด คนไข้รายนี้อายุ 93 ปี มีโรคร่วมหลายโรค ติดเชื้อไวรัส RSV ไม่มียาเฉพาะต้านไวรัส RSV ให้การรักษาตามอาการ ให้ออกซิเจน ให้ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ ให้ singulair ไอดีขี้น ไข้ลง กินอาหารได้ ไม่เหนื่อย 4 วันต่อมาทำเอกซเรย์ปอด พบฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่างลดลง ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำ 92% ยังต้องให้ออกซิเจนต่อ ให้กลับบ้านได้หลังนอนรักษาในโรงพยาบาล 5 วัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เห็นคนสูงอายุติดเชื้อไวรัส RSV ทำให้หลอดลมและปอดอักเสบหลายคน แนะนำให้คนที่มีความสามารถจ่ายเงินเองได้ อายุ 75 ปีขึ้นไป ทุกคนควรฉีดวัคซีนป้องกัน RSV 1 เข็ม สำหรับคนอายุ 60-74 ปี ให้ฉีดเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไตเรื้อรัง โรคอ้วน โรคภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อลดความรุนแรงของโรคได้มากกว่า 80% ฉีดเข็มเดียวป้องกันได้อย่างน้อย 3 ปี ผมได้ให้วัคซีนนี้แก่คนสูงอายุ 60 รายแล้วในเวลา 1 เดือน พบผลข้างเคียงน้อยเหมือนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
ขอบคุณข้อมูล : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC