สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เผยแพร่รายงานฉบับแก้ไข เกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นภาษียานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของจีน เพื่อให้สมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ลงมติอย่างช้าที่สุด ภายในสิ้นเดือน ต.ค. นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปี จากเดิมที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 37.6% สำหรับเอสเอไอซี ให้ลงมาอยู่ที่ 36.3%


ขณะที่บีวายดีจะเผชิญกับอัตราภาษี 17% ลดลงจาก 17.4% จีลีจะเผชิญกับอัตราภาษี 19.3% ลดลงจาก 19.9% ส่วนบริษัทอีวีของจีนแห่งใดก็ตาม “ที่ให้ความร่วมมือ” กับอียู จะเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้า 21.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดิม ซึ่งมีการกำหนดไว้ที่ 20.8%


นอกจากนี้ แถลงการณ์ของอีซีระบุถึงเทสลา ผู้ผลิตอีวีรายใหญ่ของโลกจากสหรัฐ ภายใต้การบริหารของนายอีลอน มัสก์ ว่าหากเทสลานำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนเข้ามาจำหน่ายในตลาด สินค้าของเทสลาอาจต้องเผชิญกับอัตราภาษี 9% ซึ่งต่ำกว่าบริษัทสัญชาติจีนอย่างเห็นได้ชัด โดยอีซีให้เหตุผลว่า เป็นเพราะรัฐบาลปักกิ่งให้งบประมาณอุดหนุนกับผู้ประกอบการต่างชาติ ต่ำกว่าบริษัทในท้องถิ่นอยู่แล้ว


ทั้งนี้ ฝ่ายยุโรปยังคงกล่าวถึงการที่รัฐบาลปักกิ่ง “ใช้มาตรการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรม” ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ประณาม อียูเป็นฝ่ายจุดชนวนและกระตุ้นความตึงเครียดให้กับสงครามการค้าครั้งใหม่


อนึ่ง ข้อมูลจากสภาแอตแลนติกระบุว่า ยอดขายอีวีของจีนในตลาดต่างประเทศ ขยายตัวมากถึง 70% เมื่อปี 2566 โดยมีมูลค่าสูงถึง 34,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.16 ล้านล้านบาท) และราว 40% ของสินค้าทั้งหมด เป็นการส่งออกไปยังตลาดยุโรป.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES