เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงคำแถลงปิดสำนวนของนายเศรษฐา ทวีสิน ในการต่อสู้คดีของกลุ่ม 40 อดีต สว.ที่ยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ว่า อย่าตอบเลย เพราะอีก 24 ชั่วโมง ศาลฯ ก็จะตัดสินอยู่แล้ว ตนจึงไม่อยากวิจารณ์อะไรตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้านายกฯ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า หากไม่รอด นายกฯ ก็จะถูกถอดถอนและพ้นจากตำแหน่ง รวมถึง ครม.จะสิ้นสุดลง แต่นายเศรษฐายังสามารถรักษาการนายกฯ ได้จนกว่านายกฯ คนใหม่จะนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลานานพอสมควรเป็นสัปดาห์ ทั้งนี้ นายเศรษฐาสามารถมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกฯ ได้ตามลำดับ
เมื่อถามอีกว่าหากนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง และยังมีชื่อเป็นผู้เสนอตัวชิงนายกฯ ได้อีกครั้งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนเห็นว่าได้ แต่ก็ยังไม่ถูกตัดสินจึงยังตอบไม่ได้ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำพิพากษาว่าคำวินิจฉัยเขียนว่าอย่างไร พ้นจากตำแหน่งไปด้วยเหตุตามมาตราใด ซึ่งจะมีช่องให้เห็นอยู่ ถ้าไม่มีช่องอะไรอยู่ ก็เป็นไม่ได้
ต่อข้อถามว่าอำนาจของรักษาการนายกฯ สามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง รวมถึงยุบสภาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดทุกยุคทุกสมัยแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าสามารถสั่งยุบสภาได้ และระหว่างในรักษาการก็ถือว่ามีอำนาจเต็ม
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า หากนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง ขั้นตอนต่อไปการเลือกนายกฯ ก็ต้องใช้รายชื่อผู้เสนอตัวชิงนายกฯ ของพรรคที่อยู่ในบัญชี และต้องมีเสียง สส.สนับสนุนของพรรคนั้นเกิน 25 เสียง ขณะที่กระบวนการเลือกนายกฯ คนนอก หมดไปแล้วพร้อมกับอำนาจที่ สว.สามารถเลือกนายกฯ ได้ ตามช่องทางของรัฐธรรมนูญ มาตรา 272
เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหาตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้ ก็จะต้องตกเป็นของพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า พรรคไหนต้องไปตกลงกันเอง โดยขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก