จากกรณีพบศพ นายวิศว หรือ น้องซัน (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ถูกแทงเสียชีวิต ก่อนใช้ผ้าห่มพันร่างกายจุดไฟเผาอำพราง เหตุเกิดภายในหอพักพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านพักใน ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ “น้องซัน” พบว่ามีญาติพี่น้องมาจัดสถานที่เตรียมรับร่างเพื่อทำพิธี และนำไปฝังตามพิธีศาสนาอิสลาม และเดินทางมาให้กำลังใจพ่อกับแม่ของ “น้องซัน” ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากกับการสูญเสียลูกชาย โดยแม่ของน้องซันเปิดเผยว่า แม่มีลูก 2 คน น้องซันเป็นคนโต หลังเกิดเหตุยังไม่ได้คุยอะไรกับตำรวจ แต่ลูกเป็นเด็กจิตใจดี เชื่อใจคนอื่นง่ายมาก ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เคยให้ร้ายใครเลย ลูกเรียนด้วยทำงานด้วย เป็นเสาหลักของครอบครัวก็ว่าได้ เขาทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหาร หลังจากทราบข่าวว่าลูกถูกฆาตกรรม รู้สึกช็อกมาก อยากให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“…ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วัน ลูกเพิ่งโทรฯ มาคุยกันเรื่องที่ลูกกู้เงิน กยศ. รอบใหม่ยังไม่ผ่าน โดยจะต้องจ่ายยอดเงินกู้ กยศ. เก่าที่ลูกเคยกู้ไว้ก่อน จึงจะกู้ใหม่ได้ ลูกก็บอกว่าเขามีเงินอยู่ไม่พอจะให้ทำยังไง แม่ก็เลยต้องดิ้นรนหาเงินให้ลูก แต่ก็ยังหาไม่ได้ และไม่ทันจะจ่าย ลูกมาเป็นแบบนี้เสียก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่รับไม่ได้เลย มันโหดร้ายมากเกินไป…” แม่น้องซัน กล่าวและเผยต่อว่า
ตนไม่รู้จักคนก่อเหตุ และลูกไม่เคยบอกเลยว่ามีปัญหากับใคร แต่ลูกเคยบอกว่ามีการไปยืมเงินและเป็นหนี้สิน ส่วนใหญ่จะมาจ่ายในเรื่องการเรียน การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งลูกผ่อนโทรศัพท์ ไอโฟน 12 PROMAX อยู่ ก่อนหน้านี้ทางร้านก็โทรฯ มาหาแม่ ว่าลูกขาดส่งผ่อน แต่บางเรื่องแม่ก็ไม่รู้ เพราะลูกหากมีปัญหาจะเก็บเงียบ จะสู้ด้วยตัวเองก่อน แต่หากไม่ไหวแล้วก็จะบอกกับตน เพราะลูกจะสงสารแม่มาก ที่จะต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตเพื่อลูกทั้ง 2 คน เพราะตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ยึดอาชีพทำขนมขาย เลิกรากับพ่อของลูกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่พ่อของลูกก็ยังคงช่วยเหลือทางการเงินร่วมกันอยู่ด้วย ก่อนหน้านี้ลูกก็ดร็อปเรียนไป เพราะทางบ้านไม่มีปัญญาหาเงินที่จะส่งเรียน จนเขากลับมาเรียนใหม่ ตอนนี้หากเขาไม่ดร็อปเรียนก็จะอยู่ชั้นปีที่ 4 ใกล้จะจบแล้ว
ขณะที่ น้องนัส อายุ 16 ปี น้องชายของน้องซัน กล่าวว่า พี่ชายทำงานส่งตัวเองเรียน มีแม่คอยส่งเงินให้เพิ่มอยู่บ้าง ที่ผ่านมาพี่จะไม่ค่อยบอกอะไร หรือพูดอะไรกับที่บ้านมากนัก ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่รู้จัก หรือเห็นมาก่อน แต่อาจจะเป็นเพื่อนกันหรือไม่ ส่วนมูลเหตุก็ยังบอกไม่ได้ แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน ที่ผ่านมาพี่ซันเคยบอกว่าเขามีหนี้สิน ไปกู้ยืมมา แม่ก็ช่วยชดใช้บ้าง แต่ส่วนใหญ่เพียงแค่หลักพันบาทเท่านั้น ส่วนใหญ่เขาก็เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน รู้สึกเสียใจ สะเทือนใจมาก อยากให้ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินให้ถึงที่สุด พี่รักครอบครัวมาก แต่เมื่อเขาจบ ม.6 ก็แยกกันอยู่ เพราะเขาต้องไปเรียน แต่ก็คุยกันบ้างในเรื่องชีวิตประจำวันเท่านั้น หลังเกิดเหตุ ทรัพย์สินทั้ง มือถือ iPhone, iPad, Apple Watch คนร้ายน่าจะเอาไปด้วย ซึ่งตนก็ได้เอา iCloud ของพี่มาตรวจสอบเพื่อหาพิกัด แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้ถอน iCloud ออกจากเครื่องมือถือและทุกอย่างไปแล้ว
ด้าน นายยูนุส หูเขียว อายุ 63 ปี ตาของน้องซัน ซึ่งเป็นโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดในพื้นที่ กล่าวว่า รู้สึกหดหู่เสียใจ ที่หลานถูกฆาตกรรม ถือว่าทำกันอุกอาจ รุนแรงมาก ในละแวกบ้านตนไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ทำกันโหดเหี้ยมถึงเช่นนี้ หลานเป็นเด็กดี ช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน อยากให้ทางตำรวจนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กส่วนตัวของ “น้องซัน” กลับพบว่า 1 วันที่ผ่านมา หรือในวันเกิดเหตุนั้น “น้องซัน” ได้มีการแชร์โพสต์ข้อความเศร้าจากเพจ โดยสามารถมองเห็นได้เฉพาะเพื่อน ใจความว่า “…คนเรามีภาระไม่เหมือนกัน อย่าถามว่าหาเงินมาได้เอาไปไว้ไหนหมด อย่าคิดหรือตัดสินใจแทนคนอื่น ถ้าไม่ได้ยืนอยู่ ณ จุดนั้น…”