สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า นพ.เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องการสิทธิในการเดินทางอย่างเสรีภายในฉนวนกาซา เพื่อแจกจ่ายวัคซีน พร้อมกับเสริมว่า การหยุดยิง หรือ “ช่วงเวลาสงบสุข” อย่างน้อย 2-3 วัน เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องเด็กในฉนวนกาซา ด้วยการฉีดวัคซีนตามปกติ

“ดับเบิลยูเอชโอ กำลังส่งวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอมากกว่า 1 ล้านโด๊ส ซึ่งจะกระจายให้กับประชาชนในฉนวนกาซา ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” นพ.เทดรอส กล่าวในการแถลงข่าว “การตรวจพบเชื้อไวรัสโปลิโอจากน้ำเสียในฉนวนกาซา เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เชื้อไวรัสนี้กำลังแพร่ระบาดในชุมชน ส่งผลให้เด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ตกอยู่ในความเสี่ยง”

ด้านนางแอนเดรีย คิง จากทีมคลัสเตอร์สุขภาพระดับโลกของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า แคมเปญการฉีดวัคซีนครั้งนี้จะเป็น “ความท้าทายด้านโลจิสติกส์ครั้งใหญ่” เนื่องจากวัคซีนของดับเบิลยูเอชโอ รวมถึงห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง ในการเคลื่อนย้ายสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ จำเป็นต้องเข้าไปในฉนวนกาซา เช่นเดียวกับการวางแผนระดับจุลภาคภายในฉนวนกาซา

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา ประกาศให้ดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้เป็น “เขตแพร่ระบาดของโรคโปลิโอ” โดยกล่าวโทษกองทัพอิสราเอลว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อไวรัสกลับมาแพร่กระจายอีกครั้ง และทำลายสถานพยาบาลในฉนวนกาซาหลายแห่ง

แม้ขณะนี้ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วย แต่ฉนวนกาซามีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโปลิโอ เนื่องจากน้ำเสียไหลผ่านระหว่างเต็นท์ในค่ายผู้พลัดถิ่นหลายแห่ง และเกิดการขาดแคลนน้ำจืดมากขึ้นเรื่อย ๆ.

เครดิตภาพ : AFP