ศึกยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม มิวนิค ฟุตบอล อารีนา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทีมชาติสเปน อดีตแชมป์ 3 สมัย โชว์ฟอร์มสมราคาเต็ง 1 หลังเชือด ฝรั่งเศส รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ลงได้หวุดหวิด 2-1 ทำสถิติคว้าชัย 6 นัดรวด พร้อมคว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ หรือ เนเธอร์แลนด์ เป็นด่านต่อไป
ครึ่งแรก ฝรั่งเศส ออกตัวแรง เมื่อได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากการโหม่งของ ร็องดาล โกโล มูอานี ในนาทีที่ 9 หลังเสียประตู สเปน ก็โหมหนัก และตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้จากลูกปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยมสุดสวยของ ลามีน ยามาล ในนาทีที่ 21
จากนั้นนาทีที่ 25 “กระทิงดุ” แซงนำ 2-1 จากการกดเต็มข้อของ ดานี โอลโม ซึ่งส่งให้เจ้าตัวขึ้นนำเป็นดาวยิงสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ร่วมกับ จอร์จส์ มิเคนตัดเซ ของจอร์เจีย, จามาล มูเซียลา ของเยอรมนี, โคดี กัคโป ของเนเธอร์แลนด์ และ อิวาน ชรานซ์ ของสโลวาเกีย ด้วยผลงาน 3 ประตูอีกด้วย
เข้าสู่ครึ่งหลัง สเปน ยังครองเกมได้เหนือกว่า ขณะที่ ฝรั่งเศส ก็เปิดหน้าแลก แต่สุดท้ายก็ทวงประตูคืนไม่สำเร็จ จบเกม สเปน เฉือน ฝรั่งเศส หวุดหวิด 2-1 คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงดำได้เป็นสมัยที่ 5.
ภาพ AFP, gettyimages