จากกรณี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ผู้กำกับ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในบ้านพักย่านปทุมธานี โดยญาติได้รีบนำ พ.ต.อ.วชิรา ส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตระหว่างทาง ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากความเครียด จากประเด็นมีภาพปรากฏไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน “กำนันนก” ก่อน พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.2 บก.ทล. หรือสารวัตรแบงค์ ถูกยิงเสียชีวิต นั้น
เปิดภาพ ‘หัวกระสุนมรณะ’ ปลิดชีพ ‘ผกก.เบิ้ม’ ที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น พบคราบเลือดติดอยู่
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 ที่ ร้าน “ปันรักษ์ เจียงฮาย” ซึ่งเป็นร้านสวัสดิการ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สาขาที่ 5 ของ ตร. ตั้งอยู่สี่แยกสถานีสถานีตำรวจ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพัก ย่านคูคต จ.ปทุมธานี ภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะเข้าใจกันว่าเป็นการฆาตกรรมหรือฆ่าตัดตอน
ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.1 ไปดูสถานที่เกิดเหตุและรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างขัดเจน มีการตรวจชันสูตรหลักฐานจากแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พนักงานสอบสวนและพนักงานสืบสวน ทั้งจากตำรวจในพื้นที่และระดับ ภ.1 รวมทั้งได้ตรวจช่วงเวลาหรือไทม์ไลน์ของ พ.ต.อ.วชิรา จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว
โดยไทม์ไลน์ พ.ต.อ.วชิรา ได้เริ่มจากการรับประทานอาหารกับเพื่อน โดยจากการสอบถามเพื่อนๆ ทราบว่ามีความเครียดและทานอาหารไม่ลง เนื่องจากกรณี พ.ต.ต.ศิวกร ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้เสียชีวิต และยังมีข่าวสารอื่นๆ อีก ทำให้เพื่อนๆ ชักชวนให้พักที่โรงแรมที่ทานอาหารด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน แต่เจ้าตัวก็ออกจากโรงแรมตอนประมาณ 04.00 น. โดยนั่งรถแท็กซี่ส่วนบุคคลไปถึงบ้านพักที่เกิดเหตุในเวลา 04.51 น. จากนั้นคาดว่าลืมกุญแจไว้ในรถ จึงปีนรั้วเข้าไปในบ้านพัก ก่อนที่ในอีก 4 นาที จะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และช่วงบ่ายทางผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนๆ ติดต่อไม่ได้ จึงไปดูที่บ้านพักก็พบว่าเสียชีวิตแล้วดังกล่าว
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจากหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าว ไม่มีร่องรอยใดๆ ไม่มีคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบด้านเขม่าดินปืนด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยจาก พฐ. พบคราบเขม่าดินปืนในมือของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ข้าง จึงได้จำลองเหตุการณ์ว่าได้ว่ามีการใช้มือขวาถือปืนของตัวเองยิงโดยใช้มือซ้ายประคอง ด้วยหลักฐานทั้งหมดดังกล่าว จึงสรุปได้ว่าน่าเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยการยืนยันจากหลักฐานในที่เกิดเหตุและทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีความสอดคล้องกัน ก่อนเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.วชิรา ได้บ่นอีกว่าเขารู้สึกเสียใจที่ พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต และขณะเกิดเหตุที่ จ.นครปฐม ก็ไม่ได้เอาปืนลงไปด้วย เพราะเป็นงานเลี้ยง แต่หลังมีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร แล้ว เขาเองเป็นคนพาคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และจากคำให้การของ พ.ต.อ.วชิรา หลังจากนั้นก็ยืนยันว่าคนที่ยิงคือนายหน่อง
“สำหรับความคืบหน้าในคดี ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ดำเนินการ แต่ในขั้นนี้ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับใครเพิ่มเติม และกรณีเครื่องเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดในบ้านหรือเซิร์ฟเวอร์นั้น ยืนยันว่าเปิดได้แล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจสอบ แต่จะเปิดภาพให้ดูได้หรือไม่ จะต้องดูในรายละเอียดก่อนต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 รายนั้น ผมรู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ข่มขู่เจ้าหน้าที่นั้น ได้สั่งการให้ ภ.7 ตรวจสอบพบว่าเป็นพวกอวตาร แต่ก็จะได้ตรวจสอบต่อไป หากพบตัวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย” ผบ.ตร. กล่าว