เกรซเบย์ หมู่เกาะเติกส์และเคคอส (Grace Bay in the Turks and Caicos Islands) คว้าอันดับ 1 ในการจัดอันดับครั้งนี้ ด้วยคะแนนรวม 96 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ส่วนชายหาดสีชมพู (Pink Sands Beach) เกาะฮาร์เบอร์ ประเทศบาฮามาส คว้าอันดับที่ 2 ด้วยคะแนนรวม 91 คะแนน โดยทั้งสองหาดได้คะแนนดิบเต็มจากนักท่องเที่ยว แต่ชายหาดสีชมพู มีวันที่แดดออกเฉลี่ย 223 วัน นับว่าน้อยกว่าเกรซเบย์ ที่มีวันแดดออก 319 วัน

หาดแอนซี ซอร์ส ดาร์เจนท์ (Anse Source D’Argent) ประเทศเซเชลส์ คว้าอันดับที่ 3 ด้วยคะแนนรวม 88 คะแนน เนื่องจากอากาศดีและมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตามมาด้วย หาดมาติรา (Matira Beach) เฟรนช์โปลินีเซีย, หาดมัลม็อก (Malmok Beach) อารูบา, Praia do Sancho บราซิล, หาดบาราเดโร (Varadero Beach) คิวบา, อ่าวลาซิโอ (Anse Lazio) เซเชลส์ และหาดเซเว่นไมล์ (Seven Mile Beach) หมู่เกาะเคย์แมน รั้งอันดับที่ 9

หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ คว้าอันดับที่ 10 ด้วยคะแนนรวม 84.47 คะแนน เนื่องจากเป็นชายหาดที่มีกิจกรรมหลากหลายถึง 11 อย่าง นอกจากนี้หากต้องการกิจกรรมให้ความบันเทิงเพิ่มเติมสามารถเดินทางไปยังอ่าวมาหยา ซึ่งคว้าอันดับที่ 14 ได้ ด้วยคะแนนรวม 82.37 คะแนน เพราะมีกิจกรรมมากมายและเป็นชายหาดที่อากาศดีที่สุดในการจัดอันดับครั้งนี้อีกด้วย

ด้านนายอุทิศ ลิ่มสกุล ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า ถือเป็นความโชคดีของหาดไร่เลย์ และอ่าวมาหยา ของ จ.กระบี่ เพราะล่าสุดนี้ทาง Alpha Travel Insurance บริษัทประกันภัยการเดินทางสัญชาติอังกฤษ จัดอันดับชายหาดที่ดีที่สุดในโลกโดยวัดจากการให้คะแนนของนักท่องเที่ยว อุณหภูมิของน้ำและอากาศโดยเฉลี่ย จำนวนวันที่มีแดดออก รวมถึงจำนวนร้านอาหาร โรมแรม และบาร์ ซึ่งหาดไร่เลย์และอ่าวมาหยาของไทย ติด Top 15 ทะเลดีที่สุดในโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว