สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟนหนังแนวไดโนเสาร์ อย่าง Jurassic World : Rebirth หรือ จูราสสิค เวิลด์ : กำเนิดชีวิตใหม่ เรื่องที่ 7 ของแฟรนไชส์แนว Jurassic โดยภาคนี้ทุ่มทุนสร้างประมาณ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,500 ล้านบาท) มีการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท โชว์ท้องทะเลและทิวเขาสุดสวยงามของ 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่

“กระบี่” อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา (น้ำตกห้วยโต้ ต้นสมพง บางส่วนของ หาดไร่เลย์ และถ้ำพระนาง) “พังงา” อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา (เขาตาปู เกาะสองพี่น้อง และเกาะนาคา) “ตรัง” อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม (เกาะกระดาน และถ้ำมรกต) ตัวหนังความยาว 2 ชั่วโมง 14 นาที ฝีมือผู้กำกับมากฝีมือชาวอังกฤษ “แกเร็ท เอ็ดเวิร์ดส์” เคยมีผลงานหนังแนวไซไฟอย่าง เดอะ ครีเอเตอร์(2023), Star Wars: Episode 8: The Last Jedi(2017) และ Rogue One: A Star Wars Story (2016)

เรื่องย่อ 5 ปีต่อมา หลังจากเหตุการณ์ใน Jurassic World: Dominion ระบบนิเวศของโลกได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เหมาะสมสำหรับไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ แม้พวกมันจะอาศัยรวมกลุ่มกับมนุษย์แต่ก็ยังมีปัญหามากมายตามมา อย่างไรก็ตามการศึกษาวิจัยเลือดของไดโนเสาร์ทำให้ค้นพบกุญแจสำคัญในการช่วยชีวตมนุษยชาติ “ดร. เฮนรี่ ลูมิส” นักบรรพชีวินวิทยา (รับบทโดย โจนาธาน เบลีย์) พร้อม “มาร์ติน เครบส์” ตัวแทนด้านเภสัชกรรม (รับบทโดย รูเพิร์ต เฟรนด์) จึงรวบรวมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกำลังรบและสายลับ

นำโดย “โซรา เบนเน็ตต์” ผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติการลับ (สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน), “ดันแคน คินเคด” หัวหน้าทีมของโซรา (รับบทโดย มาเฮิร์ซชาล่าลาชบาซ อาลี) พาลูกทีมบุกเข้าไปยังพื้นที่ต้องห้าม เพื่อนำเลือดของไดโนเสาร์ 3 สายพันธุ์ไปทำการวิจัยด้านการรักษาโรค ขณะเดียวกันครอบครัวของ “ลูเบน เดลกาโด” ผู้เป็นพ่อ (รับบทโดย มานูเอล การ์เซีย-รัลโฟ) พากันไปเที่ยวทะเล แต่ก็ต้องมาติดร่างแหเพราะโดนไดโนเสาร์โจมตี ต้องเผ่นหนีขึ้นเกาะเช่นเดียวกัน ทว่าเกาะดังกล่าวเคยที่ตั้งของศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมอาศัยอยู่จำนวนมาก พวกเขาจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้หรือไม่ ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

จุดเด่น Jurassic World : Rebirth ภาคนี้แบ่งเป็น 2 เส้นเรื่องคือ กลุ่มเก็บเลือดไดโนเสาร์ และ กลุ่มครอบครัวหนีตาย อารมณ์คล้าย ๆ กับ Jurassic Park เหล่าตัวละครจะต้องผจญกับไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ทั้งเก่าและใหม่ รวมไปถึงเจ้าตัวสุดโหด ไดโนเสาร์ดัดแปลงพันธุ์กรรมสุดสยอง หน้าตาแปลกประหลาดชวนให้นึกถึง หัวโหนก ๆ ของ “ปลาฟาวเวอร์ฮอน” โลเคชั่นถ่ายทำในประเทศไทย 70% เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก สอดรับกับลูกเล่น CGI ไดโนเสาร์สมจริง เนียนกริบตามมาตรฐาน Universal Pictures จุดขายอย่างหนึ่งของภาคนี้คือ เจ้า Aquilops ไดโนเสาร์ ceratopsian กินพืชเป็นอาหาร ออกมาคอยป่วน สร้างความครื้นเครงตลอดเส้นทาง

จุดอ่อน หนังได้มือเขียน “เดวิด โคเอปป์” จากต้นฉบับ Jurassic Park ทว่ายังคงมีปัญหาการดำเนื้อเรื่อง ดูแล้วยังสะเปะสะปะในพาร์ทของกลุ่มครอบครัวหนีตาย เกิดความไม่สมเหตุสมผลมากมาย นอกจากนี้ตัวหนังได้ดาราแม่เหล็กอย่าง “สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน” กับภาพสายลับสายสุดเซ็กซี่อย่าง “แบล็ค วิโดว์” ทว่าบทบาทของ “โซรา” ในหนังเรื่องนี้ กลับดูไม่ค่อยโดดเด่น หรือ โชว์แอ๊คชั่นท่าที่ควร ที่น่าปวดหัวหนักมาก ก็คือ ความเป็น old school งัดเอามุกเก่า ๆ ของ Jurassic Park มาโชว์เคส มันกลายเป็นภาพซ้ำ ๆ ซึ่งไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ กลายเป็นเพียงเอาตัวละครใหม่มายัดใส่ภาพจำเดิม ๆ (คนที่เคยดูภาคเก่าจะรู้ได้ทันที) ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมคะแนนของนักวิจารณ์ในต่างประเทศ ถึงไม่ค่อยน่าประทับใจ

4/5 แม้ว่าหนังจะยังไม่สร้างภาพจำใหม่ ๆ กับปัญหาเส้นเรื่องที่ดูจืดชืด แต่ก็ยังถือว่าทำการบ้านมาดี การโชว์เคสงานภาพระดับเทพ โลเคชั่นภูเขาและทะเลไทยสวย ๆ CGI ไดโนเสาร์ แบบคงเส้นคงวาตลอดเรื่อง เป็นอะไรที่ดูแล้วคุ้มค่าตั๋วแน่นอน!.

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Universal Pictures