“บัดนี้เลยเวลาการปฏิรูปมาแล้ว ต้องปฏิวัติชำระล้างแผ่นดินให้สะอาด แต่ไม่ใช่การรัฐประหาร ปฏิรูปก็ขัดไม่ออกต้องล้างขนาดใหญ่ชำระล้างให้สะอาด วันนี้ประชาชนควรรวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ถ้าแตกแยกก็เสียชาติ จับมือไล่แพทองธารออกไปก่อน” เสียงปราศรัยประกาศบนเวทีของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ 1 ในแกนนำ ม็อบรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ออกมาชุมนุมใหญ่ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
น่าจะเป็นม็อบใหญ่ ใจกลางกรุงเทพมหานคร หลังเงียบหายไปนาน และอาจจะกลายเป็น “ภาพจำ” ที่กลับมาตามจองเวร “ตระกูลชินวัตร” อีกครั้งก็ว่าได้ !!
ใครจะไปเชื่อจาก ปมพิพาทไทย–กัมพูชา ช่องบก อ.น้ำ ยืน จ.อุบลราชธานี ผ่านมา 1 เดือน ได้ขยับบานปลายตามด้วย คลิปเสียงฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา ก่อนจะมาไลฟ์สดโจมตี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย เต็มไปด้วยข้อกล่าวหารุนแรง แถมร่ายยาวพาดพิงไปถึง 2 อดีตนายกฯ ตระกูลชินวัตร ทักษิณ–ยิ่งลักษณ์ เหมือนช่วย เติมเชื้อไฟ ให้การชุมนุมใหญ่ ม็อบรวมพลังแผ่นดินฯ ออกมาขับไล่ นายกฯ แพทองธาร เนืองแน่นเต็มรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ย้อนกลับไปดูบริบทและความซับซ้อนลับลวงพรางการเมืองไทย ช่วงระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา ได้เกิด รัฐประหารถึง 2 ครั้ง เหลือเชื่อตรงกับ “ตระกูลชินวัตร” นำรัฐนาวา ยิ่งลองไล่เรียงก่อนจะเกิด รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ก็มี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หรือ ม็อบเสื้อเหลือง ออกมารวมตัวชุมนุมในปี 2548 ต่อต้าน รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน แล้วยกระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ
จนนำไปสู่วิกฤติการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงทำให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน (ผบ.ทบ.ขณะนั้น) เป็น หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) หยิบยกเหตุผลเพื่อยุติความขัดแย้ง และคืนความสงบให้กับประเทศ
ถัดมาไม่ถึงทศวรรษ การเมืองไทยต้องเผชิญ รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 กลุ่มเคลื่อนไหวหลักที่มีบทบาทสำคัญ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) หรือ ม็อบนกหวีด กปปส. จากชนวนคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ยกระดับมาขับไล่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ความไม่สงบทางการเมืองมีการปะทะกัน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ผบ.ทบ.ขณะนั้น) ตัดสินใจเข้าควบคุมอำนาจ ภายใต้ชื่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อยุติความรุนแรงนำพาประเทศกลับสู่ความปรองดอง
การแก้ปัญหาด้วย การรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลประชาธิปไตยในอดีต แม้ยุติความรุนแรงบ้านเมือง แต่ไม่ได้ช่วยให้ความขัดแย้งที่แท้จริงคลี่คลายได้เลย ยังมีร่องรอยความขัดแย้งแตกแยก ฝังรากลึก ในสังคม กระทั่งก้าวสู่ ยุคAI รัฐบาลเปิดแผลใหญ่ ปมพิพาทกัมพูชาจึงถูก แกนนำกลุ่มเดิม ใช้เป็นตัวปลุกกระแสระดมมวลชนมาต่อต้าน
นายกฯ หญิงคนที่ 2 ของไทย กำลังสะดุดขาตัวเองจาก ปมคลิปเสียงฮุน เซน ถูกงัดขึ้นมาโจมตี ที่สำคัญยังเป็น ผู้นำคนที่ 3ของตระกูล ’ชินวัตร“ ต้องมาเจอวิบากกรรมจาก ม็อบหน้าเดิม ๆ ที่เคยออกมาขับไล่ ’บิดา“ และ ’ผู้เป็นอา“ ได้หวนกลับมาผนึกกำลัง ขับไล่นายกฯสกุลชินวัตร อีกครั้ง
ไม่รู้จะกลายเป็นเหมือน “งูเหลือม” กับ “เชือกกล้วย” ที่แพ้ทางกันตลอด!! สถานการณ์บ้านเมืองยามนี้ต้องเกาะติดกันแบบห้ามกะพริบตา “นายกฯหญิงเจน Y” จะฟันฝ่ามรสุมวิกฤติอันร้อนแรงสารพัดเรื่องไปได้หรือไม่?.
…………………………………..
เชิงผา