เดินหน้าศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการทางพิเศษ(ทางด่วน) เชื่อมเกาะช้าง จ.ตราด ระยะทางรวม 5. 90 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท หลังจากเคลียร์ใจประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จากความไม่สบายใจและแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวเส้นทางโครงการ
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) และที่ปรึกษาโครงการฯ ได้ลงพื้นที่จ.ตราด จัดประชุมเพื่อพิจารณา และทำความเข้าใจผลการคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสม โดยนำเสนอผลการศึกษาเพิ่มเติมตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (ผลการคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสม) มารายงาน และทำความเข้าใจกับประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เนื่องจากยังมีเสียงบางส่วนไม่เห็นด้วยกับแนวเส้นทางจากผลการศึกษาฯ ที่ได้รับคัดเลือก
เมื่อทุกฝ่ายได้รับฟังข้อมูลคำชี้แจง และทำความเข้าใจในทุกข้อเสนอแนะแล้ว ก็ไม่มีใครคัดค้าน ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องกับแนวเส้นทางที่ กทพ. คัดเลือก
ขั้นตอนต่อไปกทพ. จะสำรวจทางเทคนิค ธรณีวิทยา สมุทรศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ออกแบบรายละเอียดโครงการฯ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ขณะเดียวกันต้องศึกษา และวิเคราะห์ความเหมาะสมการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการในรูปแบบร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน(PPP) จัดทำเอกสารข้อเสนอชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุน ร่างขอบเขตของโครงการ และร่างสัญญาการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการฯ. ต่อไป ซึ่งใช้งบประมาณจ้างที่ปรึกษาประมาณ 72 ล้านบาท
เบื้องต้นคาดว่าการศึกษาฯจะแล้วเสร็จวันที่ 19 พ.ค. 2569 จากนั้นจะเสนอขออนุมัติEIA ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ปลายปี 2568 รวมทั้งขออนุมัติโครงการจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใช้เวลาดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ รวมถึงการเปิดประมูลปี 2570-2571 โดยยังคงแผนงานก่อสร้างปี 2572 เปิดบริการปี 2576
กทพ. คัดเลือกแนวเส้นทางเลือกที่ 3 จากทั้งหมด 4 แนว มีจุดเริ่มต้นบนทางหลวงชนบทหมายเลข ตร.4006 กม.2+840 บ้านธรรมชาติล่าง ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ตรงไปทางทิศใต้ผ่านพื้นที่เกษตรกรรม และเข้าพื้นที่ทะเล จากบริเวณด้านทิศตะวันตกของท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้านธรรมชาติล่าง
จากนั้นแนวเส้นทางตรงไปเกาะช้าง ตัดผ่านเส้นทางการเดินเรือ แล้วไปเชื่อมถนน อบจ.ตร.10026 บริเวณ กม.5+300 พื้นที่บ้านด่านใหม่ ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ระยะทางรวม 5.90 กม. บริเวณจุดเริ่มต้นที่บ้านธรรมชาติล่างจะตัดผ่านพื้นที่อยู่อาศัยบ้างเล็กน้อย ส่วนในทะเลที่ตัดผ่านเส้นทางเดินเรือต่างๆ แนวเส้นทางจะยกสูง เพื่อให้เรือชนิดต่างๆ ลอดผ่านได้ ส่วนบริเวณชายฝั่งของเกาะช้าง แนวเส้นทางจะยกข้ามพื้นที่ปะการัง กว้าง 100-150 เมตร จุดสิ้นสุดของแนวเส้นทางที่เกาะช้างจะตัดผ่านพื้นที่นันทนาการ และมีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยประปรายไม่หนาแน่น
เบื้องต้นโครงการ มี 2 รูปแบบ
1.รูปแบบถนนระดับดินแบ่งเป็นถนนเส้นทางหลัก ออกแบบเป็นทางพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจร (ทิศทางละ 2 ช่อง) แบ่งทิศทางด้วยกำแพงกันชนคอนกรีต (Concrete Barrier) กว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.00 เมตร ไหล่นอกกว้าง 2.50 เมตร พร้อมรั้วกั้นแบ่งระหว่างถนนหลักและถนนบริการ ช่องจราจรกว้าง 3.50 เมตร ไหล่ในกว้าง 1.00 เมตร ไหล่นอกกว้าง 1.0 เมตร
2.รูปแบบโครงสร้างสะพานข้ามทะเล แบ่งเป็น 2 ช่วงความยาว
1.โครงสร้างสะพานช่วงความยาวพิเศษ ออกแบบให้มีความยาวช่วงเสาประมาณ 200 เมตร รองรับเรือขนาดใหญ่ลอดผ่าน รูปแบบโครงสร้างสะพานที่มีความเหมาะสม 2 รูปแบบ สะพานคานขึง (Extradosed Bridge) และสะพานคานยื่นสมดุล (Balanced Cantilever Bridge)
2.โครงสร้างสะพานช่วงความยาวทั่วไป มีความยาวช่วงเสา50 – 60 เมตร มี 2 รูปแบบ โครงสร้างสะพานคานรูปกล่อง (Box Girder Bridge) และสะพานคานสมดุล (Balanced Cantilever Bridge)
ปัจจุบันการเดินทางไปเกาะช้างใช้ทางน้ำเท่านั้น ไม่สะดวกต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องรอลงเรือเฟอร์รี่นานถึง 2-3 ชม.ทั้งขาไปขากลับ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสำคัญ
อีกทั้งการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่เพียงวิธีเดียว มีข้อจำกัดหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชนบนเกาะ อาทิ การส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินในเวลากลางคืน ความลำบากในการขนส่งสินค้า ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงกว่าพื้นที่อื่น ทางด่วนเชื่อมเกาะช้าง จะเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ลดปัญหาการรอคิวลงเรือ รวมทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและระบบเศรษฐกิจ
อดใจรอทางด่วนเชื่อมเกาะช้าง….จะเป็นทางด่วนสายแรกที่ข้ามทะเลอ่าวไทย….หรือยกให้ทางด่วนเชื่อมเกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี เป็นสายแรก?? เนื่องจาก….กำลังศึกษาโครงการและมีแผนก่อสร้างปี 2572 เช่นกัน.
……………………………………………….
นายสปีด
***ห้ามคัดลอกเนื้อหาและภาพในบทความนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
