โลดแล่นอยู่ในวงการเพลงมาอย่างยาวนานสำหรับนักร้องสาวสวยเสียงดี โอ่ง สลักจิต ดวงจันทร์ น้องสาวของราชินีลูกทุ่งในใจคนไทย ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็มีแฟนๆรักในผลงานเพลงของเธอและความเป็นตัวตนของเธอเสมอ จนหลายคนในยุคนี้ยกให้เธอเป็นเสมือนครูสอนเรื่องการร้องเพลงกันเลยทีเดียว

ล่าสุด yimyim มีโอกาสเจอตัวสาวโอ่งในงานครบรอบ 33 ปีพุ่มพวง ดวงจันทร์ที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี เลยไม่พลาดต้องคว้าตัวมาอัพเดทมุมมองในวงการบันเทิงและคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่าเคยคิดเปิดค่ายปั้นเด็กไหม

สำหรับบรรยากาศงานครบรอบ 33 ปีของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ผ่านมา เป็นยังไงบ้าง?

”บรรยากาศก็เหมือนเดิม ความคึกคักของเราก็มีศิลปินทุกวัน ก็ขอขอบคุณศิลปินและขอบคุณร้านค้า ขอบคุณคณะกรรมการ ขอบคุณสื่อต่างๆ ที่ยังรำลึกนึกถึงพี่ผึ้งนะคะ คือคึกคักทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเป็นต้นไป แล้วศิลปินคือมาเยอะมาก มาระลึกถึงพี่ผึ้ง มาบอกกล่าวเพลงของพี่ผึ้งออกไป”

เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ “ยายฉิมเก็บเห็ด” ออกมาฟีดแบ็กดีมากๆ เป็นอย่างไรบ้าง?

” หลายคนก็บอกว่าเอาเนื้อเพลงออกจากหัวฉันหน่อย (หัวเราะ) พอเจอศิลปินพี่ๆ น้องๆ พอบอกว่าให้เต้นยายฉิมหน่อย หลายคนก็ให้ความร่วมมือเต้นด้วย สนุกสนานมากๆ ขอบคุณที่ชอบเพลงนะคะ”

ถูกใจไหมที่มีคนชอบมุมนี้ของเราด้วย ปกติร้องแต่เพลงสไตล์หวานๆ?

” หลายคนก็รู้สึกว่าแม่แปลกดีนะ เพราะไม่ค่อยได้เห็นลุคหวานๆ(ยิ้ม) พอมาเจอแนวลูกทุ่งก็สนุกดีนะ ได้เป็นเราด้วย และความทะเล้นของเราก็มีอยู่ในตรงนั้นอยู่แล้ว”

จะมีซิงเกิ้ลต่อไปเลยไหม?

“ ก็วางโครงการไว้แล้วว่า จะเอายังไงกันต่อ แต่คิดว่าน่าจะมีแหละ แต่ความสนุกสนานจะเป็นแบบไหนก็ค่อยว่ากัน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ค่ะ”

จนถึงตอนนี้โอ่งเป็นนักร้องมากี่ปีแล้ว?

” ก็ประมาณ 40 กว่าปีแล้วค่ะ รุ่นศาลพระภูมิแล้ว ใครเจอก็ไหว้(หัวเราะ)”

ตลอดที่ผ่านมา ได้รับความรักตลอดรู้สึกอย่างไรบ้าง?

“ ต้องบอกว่าเป็นเพราะคำว่าดวงจันทร์ ซึ่งคำว่าดวงจันทร์พี่ผึ้งสร้างไว้ มันทำให้เราได้มีโอกาสได้เดินทางตามดวงจันทร์ได้ และเราไม่ต้องแนะนำตัวอะไรมาก พอมีคำว่าดวงจันทร์ เราเป็นน้องดวงจันทร์มันก็จะเป็นอะไรที่ง่ายมาก แล้วก็อีกอย่างนึงอยู่ที่ตัวเราด้วย ว่าเราจะสร้างงานให้มีคุณภาพ หรือการกระทำที่มีคุณภาพกับแฟนเพลงหรือเปล่า”

ผลงานเพลงที่ผ่านมาที่เราชอบมากที่สุด รู้สึกว่าเป็นมาสเตอร์พีคของเราคือเพลงไหน?

“ยากมากนะ(ยิ้ม) เพราะว่าเราเป็นคนที่รักเพลงลูกทุ่ง คือแนวสองแง่สองงามเราไม่ได้ทำ เราจะเป็นแนวลูกทุ่งจ๋ามาตลอด ก็อย่างที่บอกทุกคนพูดว่าทำไมเราถึงไม่ฉีกแนว นี่แหละคือสาเหตุที่ความฉีกแนวของเราก็คือดึงเพลงยายฉิมมา ทุกคนจะพูดว่าทำไมไม่เอาเพลงพุ่มพวงมาร้อง แต่ถ้าเป็นเพลงของพี่ผึ้งมาร้องคนก็จะเปรียบเทียบว่า ร้องสู้พี่ผึ้งไม่ได้ ทางที่ดีก็ลองดูซักตั้ง ลองดูสักครั้ง เอาความทะเล้นของตัวเองใส่เข้าไป เราเลยรู้สึกว่าจะได้ไม่มีข้อเปรียบเทียบ แต่วันนึงข้างหน้าก็ไม่แน่หรอกอาจจะเอาเพลงพี่ผึ้งมาร้อง”

อาชีพหลักจริงๆคือเป็นอาชีพนักร้องหรือว่ามีทำอย่างอื่นด้วย?

“ ชีวิตจริงก็คือทำอาชีพนักร้องเป็นหลัก คือทุกคนให้เราทำหน้าที่แทนคือการสืบสานอนุรักษ์เพลงของพี่ผึ้ง พอนึกถึงเพลงพุ่มพวงก็จะนึกถึงเรา เราก็เลยมีงานอยู่เรื่อยๆ อีกอย่างเคยจะหยุดแล้ว แต่มันหยุดไม่ได้เพราะเขาจ้างก็ต้องไปเนอะ อีกอย่างหนึ่งคือการได้ร้องเพลงแล้วมันเป็นความสุข อย่างเพียงพี่ผึ้งเป็นหมื่นๆ เพลง หมื่นเพลงมันอยู่ในหัวเราหมดนะ ถึงแม้ว่าอายุจะเยอะแต่เราก็ยังจำได้อยู่ บางครั้งไปร้องเพลงสลับหน้าสลับหลังบ้างก็มีลืมบ้าง“

ภาคภูมิใจขนาดไหนกับการเป็น ” สลักจิต ดวงจันทร์“ ในวันนี้ ?

” ภูมิใจค่ะ เพราะชื่อนี้พี่ผึ้งเป็นคนช่วยตั้ง เพราะว่าสมัยก่อนชื่อ “สลักจิต ดวงจันทร์” เมื่อก่อนเราจะต้องให้แฟนเพลงตั้งชื่อ และวันนึงพี่ผึ้งก็บอกว่าชื่อนี้มันได้ มันน่าสนใจ เขาก็เลยบอกว่าให้ใช้ชื่อนี้ แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้ชื่อนี้ ซึ่งพี่ผึ้งบอกว่ามันอยู่ในใจ มันสลักอยู่ในนี้ เราก็เลยเอาชื่อนี้ ก็เลยใช้ชื่อนี้มาตลอด และมีความรู้สึกว่าพุ่มพวงและสลักจิตเป็นชื่อที่คู่กันมาเลย“

เป้าหมายต่อไปในปีนี้คืออะไร?

”อยากจะทำเพลง 1-2 อัลบั้มเลยไหม คือมันเยอะไป คือการทำงานมันอยู่ประมาณสามเดือนนิดๆ และห้าเดือนออก แต่ถ้าออกบ่อยๆ คนดูก็จะเลือกฟัง เลือกบริโภคและเราเป็นนักร้องรุ่นใหญ่ จะทำงานอะไรก็ตามต้องได้คุณภาพ คือทำแล้วมันต้องเอ๊ะ ถ้าไม่เอ๊ะแล้วมันก็เหมือนเดิม แต่ถ้าเราทำงานอย่างหลากหลายคนก็จะสนใจมากขึ้น คือเข้าใจว่าเด็กรุ่นใหม่การทำงานเขาก็จะมีความคิดใหม่ๆ เราก็ต้องสอดแทรกความใหม่ๆ เข้าไป จะเป็นลูกทุ่งจ๋าอย่างเดียวก็ไม่ได้“

เคยมีความคิดที่จะเปิดค่ายปั้นเด็กไหม?

“ เมื่อก่อนเคยคิดอยากจะทำนะ แต่การที่เราจะดูแลคนรุ่นใหม่ก็ยากเหมือนกัน เพราะเด็กรุ่นใหม่เป็นตัวของตัวเองเยอะ อีกอย่างถ้าเราจะเป็นเจ้าของบริษัทหรือเป็นนายห้าง เราจะต้องเป็นเพื่อนเขาก่อนเราจะมาเป็นผู้บริหารเลยไม่ได้คือเราอยู่ในอาชีพนี้มาก่อนเราจะรู้ว่าการทำงานเป็นยังไงการดำเนินชีวิตเป็นยังไงในการทำงานความเก็บกด ความกดดัน และสิ่งที่เด็กต้องการจะเป็นยังไงเรารู้ แต่อย่างถ้าเด็กรุ่นใหม่เค้าแรงมาแล้วเราเป็นผู้บริหารเราแรงกลับมันก็ไม่ได้ เพราะเด็กสมัยนี้มีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องบอกว่าเรากลัวเขา”

สาเหตุที่ไม่อยากทำค่ายคืออะไร ?

“ไม่ได้เลยเพราะว่าเราเป็นคนจริงจังในเรื่องของการทำงาน คำว่าดวงจันทร์มันค้ำอยู่ ถ้ามีคนมาเอ่ยปากว่าเด็กเราไม่มีคุณภาพ ถ้าเราจะทำเราก็ต้องขัดเกลาให้ดี เพราะคนร้องเพลงเขาจะต้องมีพรสวรรค์มาก่อน มีดวง มีแวว และมีราศี เพราะถ้าเราเห็นทุกอย่างแล้วเราก็จะปั่นได้ แต่กับเด็กบางคนอาจจะไม่ดื้อรั้น แต่พ่อแม่ดื้อรั้น หรือคนรอบข้างดื้อรั้น มันจะทำให้เด็กไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็เลยไม่เอาดีกว่า แต่หลายคนเขามั่นใจในสิ่งที่เราเป็นเขามั่นใจว่าเราเป็นได้ คือการปั้นคน มันปั้นได้ แต่จะทำให้เขาอยู่กับเรายาวๆ มันยาก เราอยู่ในสมาคมลูกทุ่งแห่งประเทศไทย เขาก็จะสอนร้องเพลง แล้วเขาก็มีให้เราไปสอน แต่อย่างถ้าให้ไปสอนแบบ โด เร มี ฟา ซอน เราก็ไม่รู้ เพราะเราฝึกมาจากประสบการณ์ ถ้าให้มาทำเป็นขั้นเป็นตอนเราก็ทำไม่ได้ ก็รอก่อนดีกว่า แต่ว่าสอนได้“

ตอนนี้สามารถติดตามโอ่งได้ตามช่องทางไหนบ้าง?

”ทุกแพลตฟอร์มเลยทั้ง Facebook TikTok และทาง Instagram ใช้คำว่าว่า “โอ่ง สลักจิต ดวงจันทร์” ฝากติดตามกันด้วยนะคะ“


คอลัมน์ 1 Day With ซุปตาร์

โดย yimyim