เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา วงการบันเทิงไทยได้สูญเสียการเสียบุคทรงคุณค่า นักแสดงชื่อดังอย่าง “เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร” ซึ่งเป็นที่รักของแฟน ๆ หลายคน สาเหตุที่เกิดขึ้นคือ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน หรือภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพหัวใจและการสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ วันนี้เรามาหาคำตอบเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เรื่องเศร้านี้ต้อวเกิดขึ้นกับคนที่รักกันค่ะ

โดยในวันนี้ Healthy Clean ได้รับข้อมูลจาก พญ.ณหทัย ฉัตรสิงห์ อายุรศาสตร์โรคหัวใจ ศูนย์โรคหัวใจ และทรวงอก โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายถึงคุณลักษณะที่น่ากังวลของกลุ่มเสี่ยง มีอาการที่ควรระวังแบบไหนบ้าง เพื่อจะได้นำไปสังเกตอาการและเป็นแนวทางในการป้องกัน จะได้รักษาโรคหัวใจได้อย่างทันท่วงที
หัวใจขาดเลือดเฉียบพลันคืออะไร?
ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute coronary syndrome) เกิดจากการที่หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน ทำให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ทันที โดยคนไข้เดิมอาจจะสบายดี ไม่มีอาการผิดปรกติมาก่อน และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายและเสียชีวิตได้

สำหรับอาการที่ควรระวัง มีดังนี้
-เจ็บแน่นหน้าอกทันที รู้สึกเหมือนมีของหนักกดทับ
-อาการเจ็บอาจร้าวไปที่แขน คอ หรือกราม หรือบางครั้งจุกที่ลิ้นปี่คล้ายโรคกระเพาะ
-หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายแม้ทำกิจกรรมเล็กน้อย
-เหงื่อออกมาก หน้ามืด หรือหมดสติ
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์โดยทันที เนื่องจากมีโอกาสเสียชีวิตสูงถ้าไม่ทำการรักษาอย่างทันท่วงที
การป้องกัน
-ตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ
-ควบคุมอาหาร ลดไขมันและน้ำตาล
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
-จัดการความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ
ถ้าแพทย์ซักประวัติและสงสัยว่าคนไข้มีภาวะนี้ แพทย์จะทำการตรวจ
-คลื่นไฟฟ้าหัวใจ(EKG)
-เจาะเลือดเพื่อดูค่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือ
-อัลตราซาวน์หัวใจ(echocardiogram)
-การตรวจสมรรถภาพด้วยการเดินสายพาน (exercise stress test),การตรวจหัวใจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์(Multidetector CT scan) หรือการตรวจหัวใจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (cardiac MRI) มักจะทำถ้าการตรวจขั้นต้นยังไม่ชัด แต่มีอาการผิดปรกติที่สงสัยภาวะนี้
การรักษาที่สำคัญของภาวะนี้คือการฉีดสีและการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจตีบอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก (World Health Organization-WHO) ระบุว่า “โรคหัวใจขาดเลือดถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก” โดยคิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา โรคนี้ถือเป็นโรคที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.7 ล้านคนเป็น 9.1 ล้านคนในปี 2564
นอกจากการป้องกันและคอยตรวจดูความเสี่ยงแล้ว สิ่งสำคัญคือเราทุกคนควรเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น (Basic Life Support) ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันซึ่งสามารถเกิดกับใครก็ได้
“การดูแลสุขภาพหัวใจเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะภาวะหัวใจขาดเลือดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน การตระหนักรู้และป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงและรักษาชีวิตของเราและคนที่เรารักได้ เพราะทุกวินาทีคือชีวิตนะคะ“ พญ.ณหทัย กล่าวทิ้งท้าย..
……………………………………………
คอลัมน์ : Healthy Clean
โดย “พรรณรวี พิศาภาคย์”
อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…คลิก…