ประเด็นที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย “คุมง่าย” กว่าการห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า เรื่องนี้ต้องขอชี้แจง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
องค์การอนามัยโลกได้ออกข้อแนะนำให้ประเทศที่ห้าม หรือไม่ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า ว่าต้องทำอะไรบ้าง เมื่อเดือน ธันวาคม พ.ศ.2566 ตามอินโฟ
สิ่งที่ต้องทำสำหรับประเทศที่ห้ามขาย มี 4-5 ข้อ

สิ่งที่ต้องทำสำหรับประเทศที่ให้ขายได้ถูกกฎหมาย มี 14 ข้อ โดยมีสิ่งที่ต้องทำ 4-5 ข้อเหมือนกับที่ต้องทำในประเทศที่ห้ามขาย
และมีอีก 8 ข้อสำหรับการควบคุมผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความเย้ายวนและอันตรายต่อเด็กและเยาวชน
ขนาดบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ประเทศไทยยังทำ 4-5 ข้อที่ต้องทำได้ยากอยู่แล้ว จากหลากหลายปัญหา ตั้งแต่ระบบการเฝ้าระวัง การขาดแคลนบุคลากร งบประมาณ และปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย
ทีนี้มาดูว่า หากให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย บุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นหอม ที่มีรูปลักษณ์ที่เย้ายวนเด็ก จะถูกห้ามขาย ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กและเยาวชน (บุหรี่ไฟฟ้าที่ปราบปรามจับได้ทั้งหมดเป็นประเภทนี้) ก็จะถูกลักลอบนำเข้ามาขายอย่างเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน

เมื่อให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกฎหมาย นอกจากภาระในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนแล้ว ความพร้อมในการควบคุมมาตรฐานบุหรี่ไฟฟ้าที่จะให้ขายถูกกฎหมายได้ ผมขอยืนยันว่าเราไม่มีความพร้อมเลย ตั้งแต่บุคลากร อุปกรณ์ตรวจสอบ งบประมาณสนับสนุน
เอาแค่บุหรี่มวนที่ถูกกฎหมายอยู่ในขณะนี้ เราก็มีปัญหาเรื่องการควบคุมบุหรี่มวนเถื่อน ขาดเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ขาดงบประมาณสนับสนุน ขาดทั้งงบประมาณและบุคลากรในการสำรวจ/เฝ้าระวังสถิติต่างๆ
ข้ออ้างที่บอกว่า บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายดีกว่า “คุมง่าย” ผมต้องขออภัย ที่ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ท่านที่พูด ไม่รู้สภาพความเป็นจริงสำหรับประเทศไทย ที่มีความแตกต่างในด้านความพร้อมในการควบคุมยาสูบทุกๆด้าน จากประเทศอังกฤษ นิวซีแลนด์ และกลุ่มประเทศอียู ที่วงเสวนานำมากล่าวอ้าง
การห้ามขายและทำตามข้อแนะนำองค์การอนามัยโลกสำหรับประเทศที่ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยครับ
ข้อมูลจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
อ้างอิง https://vt.tiktok.com/ZSkJMALRv/
https://www.who.int/publications/m/item/electronic-cigarettes—call-to-action
นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์