หมายแดงอินเตอร์โปลที่ยึกยักอยู่ไม่รู้แล้ว สื่อนอกเจอตัว ไปขอสัมภาษณ์ที่อังกฤษ แต่ทางไทยแบ๊ะๆ แล้วยังมีประเด็นเรื่องแก้ไขความเร็วรถ คราวนี้คนที่มีส่วนแก้ไขความเร็วก็โดนเล่นงานกันเป็นแถบๆ สรุปว่า คดีนี้รอให้หมดอายุความไปเถอะแล้วก็กลับเข้ามาประเทศไทยได้สบายๆ กรณีนี้ทำให้คำว่า “ไม่นิ่งนอนใจ”ของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เหมือนผายลมทิ้งไปวันๆ แบบว่า พอเป็นคนรวย เป็น elite ก็ศึกษาคดีให้ละเอียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งกรรมการกี่ชุดก็ว่าไป
คดีชั้น 14 นี่ก็น่าตลก “ตัวต้นเรื่อง”ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง แต่แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจและอดีตแพทย์ใหญ่โดนแพทยสภาสั่งพักงาน คดีนี้สอบแพทย์ 4 คน หลุดซะคนนึ่ง 2 คนที่เป็นระดับแพทย์ใหญ่โดนระงับใบอนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องเสื่อมเสียสำหรับแพทย์มาก มีอยู่รายหนึ่งบอกว่า “พูดไปแค่ตามที่มีคนรายงาน ไม่ได้ตรวจเอง” ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทยเองก็โดนจิกกัดไปพอท้วมๆ ว่า “ตกลงอีเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยนี่ตรงไหน ? ไหนว่าอาการร่อแร่” ..แบบว่า ตอนเข้าไทยก็เห็นเดินมาดีๆ พอเข้าตะรางได้แป๊บเดียวโคม่าต้องนอน รพ.ตำรวจยาวซะงั้น ..การนอน รพ.ตำรวจทำได้ เพราะเป็นโรงพยาบาลในเครือข่าย รพ.ตำรวจ เช่นเดียวกับ รพ.ธรรมศาสตร์นั่นแหละ จะนอนถึงไหนแพทย์ที่ตรวจอาการจะต้องให้ความเห็น
ปรากฏว่า มีคนร้องสอบจริยธรรมกับแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับคดีชั้น 14 ต่อแพทยสภา เมื่อสรุปได้คนที่ต้องถูกลงโทษกันแล้ว ..เกิดคำโวยวาย…เอกสารไม่ครบ…ขึ้นมาอีก คือแพทยสภาก็หน้าแหกเป็นริ้วมาแล้วจากที่เลื่อนการวินิจฉัยวันที่ 10 เม.ย.ข้ามเดือน ดังนั้นก็อารมณ์แบบ “อะไรอีกล่ะ” อยู่ๆจะมาอ้างเอกสารใหม่ แล้วไม่ส่งแต่แรกให้ครบๆ …ถ้ายอมครั้งนี้ ก็เท่ากับว่า เอกสารจะงอกอยู่ไม่รู้แล้วไม่จบสิ้น ดังนั้นทางแพทยสภาไม่รับคำร้องเรื่องเอกสารไม่ครบ
กลายเป็นว่า ทางนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ก็ยังมีข้อกังขาอีก ว่า “ถึงแม้ว่าวันที่ 28-29 พ.ค.นี้ต้องจบ ( มีมติเห็นชอบให้ลงโทษแพทย์ตามที่แพทยสภาเสนอหรือไม่ ) แต่ตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการพิจารณาของแพทยสภานั้น มีคณะกรรมการ 4 ชุด ชุดแรกเป็นชุดรับเรื่องร้องเรียน ชุดที่ 2 อนุกรรมการสอบสวน ให้ความเห็นในระดับหนึ่ง ทำงานอยู่ประมาณ 4 เดือน แล้วส่งไปชุดที่ 3 อนุกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งทำงานระยะสั้นๆ และมีการเปลี่ยนแปลงโทษแล้วเอาเข้าการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา จากวันที่ 1 เป็นในวันที่ 8 พ.ค.2568”
“ ระยะเวลาสั้นๆ โทษถูกเปลี่ยนแปลงไปจากการพิจารณาอย่างไรผมไม่ทราบ แต่โทษมีเปลี่ยนแปลงไปจากอนุกรรมการสอบสวนไปถึงอนุกรรมการกลั่นกรองไปถึงคณะกรรมการแพทยสภา จึงอยากรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพราะอะไร อย่างไร แต่ไม่ได้ข้อมูล ก็ไม่เป็นไร แต่ที่ขอไปเพราะกลัวว่าไม่ชัดเจน ถ้าได้ก็จะชัดเจน จะสมบูรณ์ ก็ไปคิดดูเมื่อไม่สมบูรณ์เป็นประโยชน์ของใคร” รัฐมนตรีตั้งแง่แล้วหนึ่ง ว่าเอกสารไม่ครบแล้วตัดสินใครได้ประโยชน์ ทางแพทย์ที่จะถูกพักใบอนุญาตก็ไปร้องศาลปกครองอีกดอก ดูมันวุ่ยวายไม่จบไม่สิ้น
มีคนเชื่อว่า เรื่องนี้น่าจะจบแบบว่า สุดท้ายอดีตนายกฯแม้วก็ลอยตัว ไม่ต้องทำอะไร แต่คนผิดเป็นหางว่าว ถามว่า ได้เข้าเรือนจำหรือยัง ทางราชทัณฑ์เขาก็บอกทำประวัติเข้าเรือนจำแล้ว แต่อยู่แป๊บนึง แล้วที่ต้องส่งต่อไป รพ.ตำรวจ เพราะ รพ.ราชทัณฑ์ไม่มีกำลังเพียงพอรักษา ก็เป็นเรื่องของแพทย์ และผู้บัญชาการเรือนจำวินิจฉัย ซึ่งเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว การดำเนินการก็เป็นเรื่องของราชทัณฑ์ไม่เกี่ยวกับศาลแล้ว
ป่วยทิพย์หรือไม่ ? ไม่รู้ ก็แพทย์เขาวินิจฉัยให้อยู่ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอดีตนายกฯแม้วไม่ได้งอแงขออยู่เอง มันต้องให้แพทย์ประเมินความเสี่ยง ประเมินอาการว่า ควรกลับเรือนจำหรือยัง ..อยากรู้ป่วยอย่างไรก็กูเกิ้ลเอา ที่คนพรรคเพื่อไทยดาหน้ากันออกมาพูด ฟังเอาแล้วจะเชื่อหรือจะขำก็แล้วแต่คน …ไอ้ที่นอนนานคือ หมอ ราชทัณฑ์ ดู ไม่ใช่อดีตนายกฯแม้ววินิจฉัยตัวเอง ถ้าจะผิดก็ที่คนวินิจฉัย“ประมาทเลินเล่อ”..ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทางหนึ่งในการทำนายคดี ไม่รู้ว่า วันที่ 13 มิ.ย.ที่ศาลนัดจะมีอะไรออกมาเป็นพิเศษให้อดีตนายกฯตกใจหรือไม่ แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่า “จะมีการตั้งเรื่องสอบเพิ่ม” ซึ่งคงจะสอบผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการควบคุมตัว เผลอๆ อดีตนายกฯแม้วเป็นประธาน
ช่วงนี้พ่อแม้วก็ทำตัวแบบช่วยลูกสาว“นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร ทำงาน วันที่ 27 พ.ค.ยังไปปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ที่ ป.ป.ส. ประเด็นหลักๆ น่าสนใจที่อดีตนายกฯ พูด คือ วันนี้การผลิต 100% อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน พวกเรารู้อยู่แล้ว แต่เฉยไม่ได้ ทุกวันนี้มันไม่เหมือนกัน นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ส่วนมากหลบหนีหมายไปข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในไทย ซึ่งแม้มีพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ฝังตัวอยู่ในชุมชนหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครไม่รู้หรอกว่า คนนั้นคือพ่อค้ารายใหญ่ในชุมชน เว้นแต่เจ้าหน้าที่จะไม่รู้เรื่อง เพราะไม่รู้เรื่องจริง ๆ หรือเพราะแกล้งไม่รู้เรื่อง ตลาดใหญ่สุดตอนนี้ของยาเสพติด คือ ประเทศไทย

ทุกวันนี้ยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง เข้าตามบริเวณชายแดน หรือบ้างเข้าผ่านทางตู้คอนเทนเนอร์ โดยทราบสถิติว่าศุลกากรมีตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาประมาณ 6 ล้านตู้ต่อปี ซึ่งเครื่องเอกซเรย์อาจไม่พอ แล้วก็มีการเปิดตู้บ้างไม่เปิดตู้บ้าง ตั้งใจไม่เปิดตู้ก็มี วันนี้เราก็เดือดร้อนเรื่องสินค้าจีน บ้างเข้ามาก็ไม่เปิดตู้ เคมีภัณฑ์ก็ไม่เปิดตู้ ไม่รู้มันฟลุ๊คไม่เปิดตู้ หรือตั้งใจไม่เปิดตู้ก็ไม่รู้ ระบบราชการมีลักษณะต่างคนต่างอยู่ ไม่มีเจ้าภาพ ขาด KPI ประเมินผล วันนี้เราต้องกลับมาในยุคการบริหารองค์กร เพราะที่ผ่านมา เราไม่ค่อยได้ทำเรื่องการบริหาร เราทำธุรการ คือ การทำให้เสร็จไปวัน ๆ
แหล่งผลิตยาเสพติด มันอยู่ในว้าแดง เขตติดต่อสามเหลี่ยมทองคำกับรัฐฉาน วันนี้ผมกับความสัมพันธ์ประเทศอื่น ๆ ยังค่อนข้างดี แต่เสียดายแค่ตอนนี้ตนไปไหนไม่ได้ ดังนั้น ถึงเวลาที่เราต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเรื่องแหล่งผลิต ถ้าพม่าจัดการไม่ได้ เพราะอ้างว่าเป็นชนกลุ่มน้อย ถ้าอย่างนั้น เราคงต้องขออนุญาตจัดการเอง มันเป็นศัตรูเรา หากมันอยู่ในพื้นที่ใด ถ้าเขาทำไม่ได้ เราก็ต้องขออนุญาต แต่ต้องเป็นวิธีจัดการที่สากลรับได้ และก็ต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิตโดยด่วน รมว.ต่างประเทศ จะต้องเดินทางไปพบปะประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดเพื่อผนึกกำลังให้ว้าแดงเลิกผลิตยาเสพติด ส่วนเรื่องการลำเลียง พบว่ามีการขนลำเลียงจากชายแดนไปทาง สปป.ลาว โดยใช้แม่น้ำโขง ซึ่งอันนี้ต้องมาผนึกกำลังกันใหม่ วางแผนให้ชัด ต้องมี KPI ชัดเจน ตำรวจและฝ่ายปกครองต้องเป็นปาท่องโก๋ไปด้วยกัน
ผมจะขออนุญาตนายกฯ เพราะช่วงนี้ว่างงาน แก่แล้ว อยากแวะดูชุมชนหมู่บ้านว่ามีที่ไหนมีพ่อค้ายาบ้าง มีบ้านหลังใหญ่ไหม อยู่สบายไหม ถ้าเจอ จะได้ฟ้อง รมว.มหาดไทย และ ผบ.ตร. ให้รู้ว่าพ่อค้ายาอยู่สบายแค่ไหน มีบ้านหลังใหญ่ไหม เจ้าหน้าที่จะได้ไปยึดทรัพย์ สืบทรัพย์ต่อได้ ผมค่อนข้างเป็นคนขี้ฟ้องหน่อย ส่วนเจ้าหน้าที่รับรู้แล้วจะปฏิบัติหรือไม่ก็แล้วแต่ และงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน.) คือ งานเกี่ยวกับภาคใต้และเรื่องยาเสพติด ต้องปราบปรามบำบัดอย่างเข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นมันจะพูดได้ว่างบ 7,000 กว่าล้านบาทแบบนี้ ช่วยยุบไปเสียเถอะ ปัจจุบันนี้มีจำนวนคนกว่า 300,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด แต่ติดคุกอยู่ในเรือนจำกว่า 200,000 คน ยังไม่นับรวมคนที่อยู่ข้างนอกที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการอีกกว่า 400,000 คน นี่คืออนาคตของเด็กไทยหรือ
กระแสต่อต้านอดีตนายกฯแม้ว ก็ตีเรื่องสงครามปราบปรามยาเสพติดทำให้เกิดการฆ่าตัดตอนขึ้นมาอีก…แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่า “ถ้าไม่ทำให้เด็ดขาด เห็นทีปัญหาจะไปไกลจนเกินควบคุม” แต่ดูเหมือนอดีตนายกฯจะทำตัว “สทร.”ตามที่เจ้าตัวเคยบอก พูดไปถึงว่า น่าจะกันงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ( ที่เคยจะใช้แจกหมื่น แต่ตอนนี้ผันมาทำอย่างอื่นก่อน ) ส่วนหนึ่งมาใช้ปราบปรามยาเสพติด และแหล่งสารตั้งต้นอยู่ในเขตว้าแดง พร้อมกดดัน “ทูตปู”มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศเสร็จสรรพ ว่า ต้องไปผนึกกำลังประเทศเพื่อนบ้านกดดันให้ว้าเลิกผลิตยา
พูดไปพูดมาเหมือนจะลงพื้นที่เองซะด้วย มีขู่ยุบหน่วยงานที่ไม่ทำงาน พร้อมชี้ว่า แต่ละหน่วยงานต้องมีตัวชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจนหรือตัว KPI ..คนรักอดีตนายกฯแม้วก็ชื่นชม แต่คนชังก็หัวเราะขำ ว่า สุดท้ายนายกฯอิ๊งค์ก็แก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดไม่ได้ ( โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแหล่งผลิตในพื้นที่เมียนมา ) ขนาดเรื่องต้องมีการแสกนพื้นที่หรือสร้าง KPI ยังให้พ่อแม้วมาบอก เรื่องกดดันว้า ก็ต้องให้พ่อแม้วสั่งอดีตทูตคนสนิทที่ตอนนี้เป็นรัฐมนตรีแล้ว ..ฝ่ายคนชื่นชมเขาว่า ถ้ายังมีสองมือและสองแขนที่แข็งแรง ก็อยากให้อดีตนายกฯ แม้วได้ช่วยงานบ้านเมือง ในฐานะอดีตนายกฯ ก็แล้วแต่มุมคนจะมอง แต่ต้องระวังอย่าให้ไปแทรกแซงในพรรคเพื่อไทย
เรื่องเจรจาภาษีสินค้าส่งออกไปอเมริกา ก็พ่อแม้วอีกนั่นแหละที่จะไปช่วย ไปเจอทรัมป์ที่กาตาร์ แต่ศาลไม่ให้ไป สุดท้ายมีแค่ “เสี่ยกลาง”สารัชต์ รัตนาวะดี เจ้าพ่อ gulf ได้ไป ..กรณีนายกฯ2 คน ถ้ามองอย่างเป็นกลาง ก็เห็นว่า “เขาพ่อลูกกัน” ไม่คุยกันสิแปลก แต่ดูท่าทางพ่อกลับมาเที่ยวนี้หลังจากเงียบไปสักพัก จะแย่งซีนลูกซะอย่างนั้น ดีที่ไม่สั่งข้าราชการเอง
ไม่รู้อารมณ์อดีตนายกฯแม้วเป็นอย่างไร อยากกลับมาบริหารราชการเอง อยากให้ใครรู้ว่า“ตัวจริง”คือใคร ก็ฯลฯ อย่างไรก็ตาม อดีตนายกฯแม้วเป็นคนที่มีสีสันมาก เป็นทั้งผู้ตกเป็นขี้ปากว่า ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองจนต้อง รปห.สองรอบ เป็นนักการเมืองที่สร้างประเด็นพูดคุย ถกเถียงตลอด 20 ปี เป็นนักการเมืองที่ประกาศวางมือบ่อยที่สุดในโลก พอกลับไทยได้ก็เป็น สทร. แล้วแต่คนชอบคนเกลียดจะให้คำเต็มว่าอย่างไร
คงจะจริงอย่างที่เขาว่า หลายประเทศการเมืองก็ผูกขาดอยู่กับบางตระกูล ซึ่งมันก็ไม่มีกฎหมายห้าม วัดกันที่การทำงาน ทำให้ประชาชนอยากให้กลับมาอีกหรือไม่.
………………………………………………………
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”