เดือนพฤษภาคมนี้ถือเป็นเดือนของค่าย Disney โดยแท้ เพราะหนังใหญ่เข้าฉายถึง 2 เรื่องด้วยกัน เริ่มจาก ธันเดอร์โบลต์ส* หรือ New Avengers เข้าฉาย 1 พ.ค. 68 ที่กวาดรายทั่วโลกได้ไปมากกว่า 326 ล้านเหรียญ พร้อมเรียกเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกอย่างล้นหลาม
และในวันที่ 22 พ.ค. 68 ก็มาถึงคิวของ “Lilo & Stitch” (ไลฟ์แอ๊คชั่น) ตัวหนังความยาว 108 นาที ฝีมือผู้กำกับ “ดีน เฟลชเชอร์ แคมป์” (ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ เบื้องหลังภาพยนตร์แอนิเมชัน “Marcel the Shell with Shoes On”) ส่วนนางเอกตัวน้อยได้ “น้องมายา คีโลฮา” มาแสดงเป็น “ลิโล่” ดูจากการถอดแบบคาแร็กเตอร์การ์ตูนแล้ว หลายเสียงยืนยันว่า..เหมือนสุด ๆ

เรื่องย่อ “Lilo & Stitch” เมื่อ “ลิโล่” เด็กสาวชาวฮาวายกำลังมีปัญหาชีวิต เพื่อน ๆ ต่างบูลี่ไม่อยากให้เธอเข้ากลุ่ม ขณะที่พี่สาว “นานี” (รับบทโดย ซิดนีย์ อากูดอง) พยายามทำตัวเป็นแม่ บังคับเธอให้อยู่ในกรอบตลอดเวลา กระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับ “น้องหมา” ขนสั้นสีฟ้าลักษณะแปลกตา ก่อนจะขอรับเลี้ยงมันเอาไว้ พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “สติทช์”
เรื่องราวดูเหมือนจะเปี่ยมไปด้วยความสุข เพราะเด็กน้อยมีเพื่อนเล่นด้วยแล้ว แต่กลับกลายเป็นหนังคนละม้วน เพราะแท้จริงแล้ว “เจ้าหมาน้อย” คือ เอเลี่ยนนักโทษต่างดาวหลบหนีมายังโลก มันพร้อมจะก่อความวุ่นวาย ทำลายข้าวของแบบไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไร ขณะที่ฝ่ายเอเลี่ยนผู้คุมนักโทษ ก็ได้ลงมายังโลก เพื่อตามไล่ล่ามันกลับไปคุมขังในยาน เรื่องราวของ “ลิโล่” และ “สติทช์” จะเป็นอย่างไรสามารถติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น


จุดแข็ง ในด้านโครงสร้างและเส้นเรื่องสามารถทำออกมาได้ตรงกับภาพยนตร์อนิเมชั่นต้นฉบับปี 2002 บทหนังแข็งแรงสามารถทำให้คำว่า “Ohana” หรือ แก่นแท้ของครอบครัวดูมีน้ำหนัก ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นชวนให้ติดตามได้เรื่อย ๆ ขณะที่นักแสดงเด็ก “มายา คีโลฮา” ฝีมือการแสดงเฉี่ยบคมมาก ถ่ายทอดความน่ารัก ความแก่นแก้ว ความรู้สึกโดดเดี่ยวของตัวละคร ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญเคมีดูเข้ากับ “สติทช์” ที่เป็น CGI ได้อย่างยอดเยี่ยม


ในส่วนของตัวเอกอีกตัวคือ “นานี” (ซิดนีย์ อากูดอง) บทถูกขยายจนมีเรื่องราวให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น โดยเน้นไปที่ความพยายามของเธอในการดูแลน้องสาว หลังจากที่สูญเสียพ่อแม่ ซึ่งทาง “ซิดนีย์” ถ่ายทอดมุมมองของพี่สาวผู้เสียสละทุกอย่าง เพื่อให้ “น้องสาว” ไม่โดดเดี่ยว และพร้อมจะเป็นที่พึ่งพิงให้ความรักแทนพ่อแม่ได้เป็นอย่างดี
แล้วก็มาถึงตัวเอกอย่าง “สติทช์” หนังได้ “คริส แซนเดอร์ส” ผู้กำกับและผู้ให้เสียง “สติทช์” ต้นฉบับ กลับมาให้เสียง “สติทช์” ไลฟ์แอ๊กชั่นนี้ด้วย ถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวละครดูมีชีวิตชีวา ทั้งยังรักษาความอลหม่านของเจ้าหมาน้อยได้จริง


จุดอ่อน ด้วยเนื้อหาของเรื่องที่พยายามทำให้เหมือนฉบับดั้งเดิม ก็เลยไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ๆ เรียกความหวือหวา นอกจากนี้ ตัวละครที่เป็น “มนุษย์ต่างดาว” แบบฉบับคนแสดง ดูจะไม่ค่อยสร้างความตลกขบขันได้เหมือนกับแบบฉบับการ์ตูน


4/5 กะโหลก ภาพรวมของหนังยังคงรักษาหัวใจของคำว่า “Ohana” เอาไว้ได้ เป็นหนังที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี สร้างความอบอุ่นหัวใจแน่นอน ยิ่งหากคุณเป็นแฟนของ “Lilo & Stitch” ต้นฉบับด้วยแล้ว ก็น่าจะไม่พลาดแบบ “ไลฟ์แอ๊คชั่น” แค่เพียงลองเปิดใจเท่านั้น

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Disney