ในยุคที่การทำงานของคนเมืองแต่ละวันนั้นแสนจะวุ่นวาย หลายๆคนนั่งทำงานทั้งวันแทบไม่ได้ลุกจากเก้าอี้ จนมีอาการปวดหลังตามมา จนอาจจะนำไปสู่ “หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท” ที่มีความอันตรายมากโดยไม่รู้ตัว!

โดยในวันนี้ ผศ.นพ.ปิลันธน์ ใจปัญญาศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและการผ่าตัดส่องกล้อง ศูนย์กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ โรงพยาบาลนวเวช เผยผ่าน Healthy Clean ว่า อาการปวดหลังหรือปวดคอ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แต่รู้หรือไม่ว่าอาการเหล่านี้อาจซ่อนภัยร้ายที่หลายคนมองข้าม เช่น “ภาวะหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท” ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เป็นอัมพาตได้

หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทคืออะไร?

หมอนรองกระดูกเป็นแผ่นเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ มีหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกและช่วยให้กระดูกเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่น แต่เมื่อหมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวหรือเสื่อมสภาพจนปลิ้นออกไปกดทับเส้นประสาท ก็จะทำให้เกิดอาการปวด ชา หรืออ่อนแรงในบริเวณแขน ขา หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการกดทับ

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดภาวะหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท

-อายุที่เพิ่มขึ้น: หมอนรองกระดูกสูญเสียความยืดหยุ่นและเสื่อมลงตามวัย
-น้ำหนักเกินมาตรฐาน: ทำให้กระดูกสันหลังต้องรับภาระมากขึ้น
-ท่าทางในการใช้งานร่างกายไม่ถูกต้อง: เช่น ก้มเงยนาน ๆ หรือยกของหนักผิดวิธี
-สูบบุหรี่: ลดการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหมอนรองกระดูก ทำให้เสื่อมเร็วขึ้น
-กรรมพันธุ์: หากคนในครอบครัวมีประวัติโรคนี้ ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นตาม

อาการที่ควรสังเกต

-ปวดคอหรือปวดหลังเรื้อรัง ไม่ทุเลาแม้พักผ่อน
-ปวดร้าวลงแขนหรือขา อาจมีอาการชา
-กล้ามเนื้ออ่อนแรง ขยับมือหรือเท้าไม่สะดวก
-ในรายที่รุนแรง อาจมีปัญหาเรื่องการควบคุมปัสสาวะหรืออุจจาระ

แนวทางการวินิจฉัยและการรักษาหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท

การวินิจฉัย
-ซักประวัติและตรวจร่างกาย
-การเอกซเรย์ เพื่อดูแนวกระดูกและความผิดปกติ
-การตรวจ MRI ช่วยให้เห็นภาพเส้นประสาทและหมอนรองกระดูกได้ละเอียด
การรักษา (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ)
-ระยะเริ่มต้น: ปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงท่าทางที่กระตุ้นอาการ
-ระยะปานกลาง: ใช้ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ พร้อมทำกายภาพบำบัด
-ระยะรุนแรง: อาจต้องฉีดยาลดการอักเสบเฉพาะจุด หรือพิจารณาผ่าตัดในกรณีที่อาการรบกวนการใช้ชีวิต

การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดหรือกลับมาเป็นซ้ำ

-จัดท่าทางในการนั่ง ทำงาน และยกของให้ถูกหลัก
-หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ก้มคอนาน ๆ เช่น การเล่นมือถือ
-ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สม่ำเสมอ โดยเน้นกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว
-ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
-งดสูบบุหรี่

“แม้ว่าอาการจะดูเล็กน้อยในตอนเริ่มต้น แต่หากละเลยการดูแล อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้ หากคุณสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวอาจมีภาวะนี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินอาการและเริ่มการรักษาอย่างเหมาะสมโดยเร็วที่สุดครับ” ผศ.นพ.ปิลันธน์ กล่าวทิ้งท้าย..

……………………………………………
คอลัมน์ : Healthy Clean
โดย “พรรณรวี พิศาภาคย์”
อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…คลิก…