ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลเคียฟอธิบายว่าเป็น “ข้อตกลงที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง” และรัฐบาลวอชิงตันเรียกว่าเป็น “ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์” มีขึ้นหลังเกิดความตึงเครียดนานหลายสัปดาห์ สืบเนื่องจากการปะทะคารมเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน

เซเลนสกีแสดงความยินดีกับสิ่งที่เขาเรียกว่า “ข้อตกลงที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง” ซึ่งสร้างโอกาสสำหรับการลงทุนที่สำคัญมากในยูเครน ส่วนนายเดนิส ชไมฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดี เท่าเทียม และมีประโยชน์

อีกด้านหนึ่ง นายสกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลังสหรัฐ กล่าวว่า ข้อตกลงแร่ธาตุฉบับนี้ทำให้ทั้งสองประเทศได้รับผลประโยชน์ และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงผู้นำรัสเซีย

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงแร่ธาตุ ยูเครนและสหรัฐจะจัดตั้งกองทุนร่วมระหว่างสองประเทศที่มีชื่อว่า “กองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟู” ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า กองทุนดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทที่มีตัวแทนคณะกรรมการจากยูเครนและสหรัฐ ฝ่ายละ 3 คนเท่ากัน

ข้อตกลงข้างต้นครอบคลุมทรัพยากร 57 ประเภท รวมถึงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งหากสหรัฐตัดสินใจซื้อทรัพยากรเหล่านี้ ก็จะได้รับสิทธิในการเลือกก่อนว่าจะเป็นผู้ซื้อเอง หรือจะกำหนดผู้ซื้อตามที่ต้องการ

กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า กองทุนใหม่จะได้รับส่วนแบ่งค่าสิทธิ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน 50% จากโครงการทรัพยากรธรรมชาติในยูเครน ขณะที่รัฐบาลเคียฟระบุเสริมว่า กำไรของกองทุนจะถูกนำไปลงทุนในยูเครนโดยเฉพาะ ในช่วงสิบปีแรก โดยหลังจากนั้นกำไรอาจถูกแบ่งระหว่างหุ้นส่วน

อนึ่ง ยูเครนมีทรัพยากรแร่ธาตุและแร่ธาตุหายากของโลกประมาณ 5% แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินงานเพื่อดึงทรัพยากรเหล่านี้ออกมาใช้ อีกทั้งแหล่งทรัพยากรหลายแห่งก็อยู่ในดินแดนที่ถูกควบคุมโดยกองกำลังรัสเซียในปัจจุบัน

แม้ทรัมป์เรียกร้องค่าชดเชยสำหรับความช่วยเหลือที่สหรัฐมอบให้กับยูเครน ในสมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงที่ลงนามเมื่อไม่นานมานี้ ยูเครนจะไม่ถูกขอให้จ่ายเงินคืนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับจากรัฐบาลวอชิงตัน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อเดือน ก.พ. 2565

นอกจากนี้ ความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่จากรัฐบาลวอชิงตันของทรัมป์ จะถูกนับรวมเป็นเงินสนับสนุนของกองทุน ซึ่งทางการยูเครนระบุว่า มันจะช่วยรักษาการควบคุมอย่างเต็มที่ต่อพื้นที่ใต้ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรธรรมชาติของประเทศตลอดกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงไม่ได้ระบุถึงพันธกรณีด้านความมั่นคงที่ชัดเจนใด ๆ ของสหรัฐ และมีเพียงข้อความที่ระบุว่า สหรัฐสนับสนุนความพยายามของยูเครน ในการขอหลักประกันด้านความมั่นคงที่จำเป็นต่อการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP