สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ต่ออายุขัยของมนุษย์ คือกรรมพันธุ์ พฤติกรรมสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และระบบบริการสุขภาพ 

                การวิเคราะห์พบว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือพฤติกรรมสุขภาพ (การออกกำลังกาย อาหาร สุรา ยาสูบและสิ่งทำลายสุขภาพอื่น) สิ่งแวดล้อม (มลพิษในอากาศ น้ำที่กิน สารพิษอื่นๆ ที่อยู่อาศัย)

                ส่วนกรรมพันธุ์ เราทำอะไรไม่ค่อยได้ และระบบบริการสุขภาพ รวมกันแล้วส่งผลต่อสุขภาพ ไม่เกิน 25-35 %

                การที่ท่านจากไปด้วยอายุ 99 ปี ผมเปิดดูในกูเกิล โอกาสที่คนจะอยู่ถึง 100 ปี มีเพียง 1 ใน 2,200 คน 

                สิ่งที่เป็นบทเรียนจากท่านอาจารย์เฉกสำหรับทุกคนคือ ความพยายามรักษาสุขภาพของท่านที่อยากจะมีชีวิตอยู่ให้ถึง 120 ปี ทำให้ท่านมีชีวิตอยู่ได้จนถึงอายุ 99 ปี ความพยายามของท่านไม่ได้เสียเปล่า

                ในข่าวไม่ได้บอกว่าท่านอาจารย์เฉกเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร แต่ไม่มีข่าวว่าท่านเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรมาก่อนหน้านี้ 

                ผมจึงไปค้นในยูทูปว่า คนสูงอายุที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไร

                พบคลิปวิดีโอหนึ่งที่ตอบคำถามเรื่องนี้ว่า 5 สาเหตุหลักของการเสียชีวิตในคนสูงอายุคือ

                1.  โรคหัวใจทั้งชนิดเฉียบพลันและที่เป็นเรื้อรัง

                2.  มะเร็งที่ตรวจพบช้า

                3. โรคปอดเรื้อรังและปอดเสื่อมสรรถภาพ

                4.  โรคเส้นเลือดสมอง สโตรก และ

                5.  โรคอัลไซเมอร์และสมองเสื่อม

                หากเราดูให้ลึกอีกนิด จะพบว่า 3 ใน 5 สาเหตุนี้ เป็นผลจากการเสื่อมของเส้นเลือด ทั้งโรคหัวใจ สโตรก และสมองเสื่อม ซึ่งเป็นผลจากความดันสูง เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี การสูบบุหรี่และไขมันในเลือดสูง

                การเสื่อมของเส้นเลือดเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ผมจำได้ว่า เมื่อ 40-50 ปีก่อนการตรวจศพทหารอเมริกาที่เสียชีวิตในสงครามเวียดนาม พบว่าทหารหนุ่มๆจำนวนมากเส้นเลือดมีไขมัน-ตะกรันเกาะ ทำให้รูหลอดเลือดเล็กลงไป 20-25 %แล้ว แต่ไม่มีอาการอะไร

                ส่วนปอดนั้น ปกติถุงลมปอดก็ค่อยๆเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้นอยู่แล้ว จากมลพิษ สารเคมีต่างๆในอากาศที่หายใจเข้าไป และโดยเฉพาะการสูบบุหรี่ทุกชนิด ที่เร่งให้ปอดเสื่อมเร็วขึ้น ปอดในคนสูงอายุจึงติดเชื้อโรคง่ายและเชื้อโรคลุกลามรุนแรงจนเสียชีวิตได้ง่าย

                ส่วนมะเร็ง สารก่อมะเร็งเข้าสู่ร่างกายจาก 2 ทางคือ  หายใจเข้าไป หรือกินเข้าไป ที่หายใจเข้าไปก็จากควันบุหรี่ทุกชนิด มลพิษในอากาศ ที่กินเข้าไปคืออาหารที่มีเชื้อรา อาหารหมักดอง อาหารปิ้งย่าง และ สุรา 

                การที่จะอยู่ได้ถึง 120 ปี ต้องป้องกันสิ่งที่ค่อยๆทำลายเส้นเลือด หลีกเลี่ยงการได้รับสารก่อมะเร็งทั้งที่กินเข้าไปและสูบเข้าไปตั้งแต่อายุน้อยๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะบั่นทอนอายุของชีวิตลงไปทีละน้อยทีละน้อย จึงมีน้อยคนที่จะมีอายุอยู่ถึง 100 ปี และยิ่งน้อยมากๆที่จะอยู่ถึง 120 ปี

                คลิปวิดีโอเน้นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการป้องกัน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ที่นำไปสู่ โรคต่างๆที่กล่าวแล้ว แม้ในคนที่อายุมากแล้ว 

                รวมทั้งการไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คหากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับหัวใจ ทางเดินหายใจและสมอง-ประสาท คนที่มีโรคความดันสูง เบาหวานก็ต้องรักษาให้ดีที่สุด

                คลิปที่ส่งมาน่าสนใจ เพียงแต่เป็นภาษาอังกฤษ และผมไม่มีเวลาที่จะแปลรายละเอียดมาแชร์กัน

                ภาษาแพทย์มีคำว่า สุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด สุขภาพของปอด และสุขภาพจิต ซึ่งคนไทยทั่วไปยังไม่ได้ให้ความสำคัญในการถนอมอวัยวะ ที่เป็นตัวกำหนดสุขภาพทั้งร่างกาย และอายุไขของแต่ละคน

                ผมขอฝากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพตั้งแต่อายุน้อย การตรวจพบโรคแต่เนิ่น ๆ การรักษาโรคที่มีอย่างจริงจัง

                เพื่อจะมีอายุยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต อย่างที่ท่านอาจารย์เฉก ท่านพยายามที่จะทำ

                ขอให้ทุกคนโชคดีปีใหม่ไทยครับ

                ข้อมูลจาก ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

                อ้างอิง https://youtu.be/8Pcr0O05BlY?si=bVKCOZtq02X_Rh74

 นายแพทย์สุรพงศ์  อำพันวงษ์

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่