โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นปัญหาทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยพอควร ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อลาย เช่น กล้ามเนื้อหนังตาทำให้หนังตาตก มองเห็นเป็นสองภาพ กล้ามเนื้อแขนขา ทำให้แขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อกระบังลมและกล้ามเนื้อช่วยการหายใจทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก และอาจมีอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ ทำให้กลืนลำบาก มีอาการสำลัก เป็นโรคที่อันตรายอาจทำให้เกิดการหายใจวายและเสียชีวิตได้
สาเหตุของโรคนี้เกิดจากการสร้างภูมิต้านทานต่อ acetyl choline ที่เป็นสารเคมีที่นำสัญญาณจากเส้นประสาทมาที่กล้ามเนื้อลายเพื่อให้กล้ามเนื้อลายหดตัว โรคนี้มักพบในคนอายุ 20-30 ปี โดยที่คนไข้ 85% จะไม่มีเนื้องอกของต่อมธัยมัส คนไข้ที่มีเนื้องอกของต่อมธัยมัสพบว่า 50% จะมีอาการอ่อนแรงจากโรค myasthenia gravis คนไข้จะมาด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยมากเป็นอาการที่ตา แขน ขา และอาจมีอาการของลำคอ การพูด และการหายใจ
การวินิจฉัยต้องตรวจร่างกายพบว่าไม่มีการสูญเสียการรับความรู้สึกของผิวหนัง และกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงมักเป็นกล้ามเนื้อที่ใกล้กับลำตัวมากกว่ากล้ามเนื้อที่ปลายแขนและขา อาการนำมักมีอาการหนังตาตก โดยเฉพาะตอนสาย ๆ เมื่อพัก อาการหนังตาตกจะดีขึ้น ลืมตาได้

การตรวจพิเศษ ได้แก่ การเจาะเลือดเพื่อหา acetyl choline receptor antibody การตรวจ nerve conduction study , electromyography จะปกติ ในคนไข้กลุ่ม myasthenia gravis การถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอกเพื่อค้นหาก้อนของต่อมธัยมัส และยืนยันโดยการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอก ก้อนของต่อมธัยมัสมักเป็นเนื้องอกซึ่งเรียกว่า thymoma ซึ่งอาจเป็นเนื้องอกไม่รุนแรง โตช้า ไม่แพร่กระจาย แต่ในคนไข้บางคน thymoma อาจมีลักษณะค่อนข้างเป็นมะเร็ง เรียกว่า thymic carcinoma ซึ่งจะเติบโตเร็ว กดและลุกลามอวัยวะข้างเคียงเช่นปอด หัวใจ หลอดเลือดดำ หลอดลมจนมีอาการและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
การที่จะรู้ว่าเนื้องอกต่อมธัยมัสมีความรุนแรงเพียงใดต้องนำเนื้อมาตรวจทางพยาธิวิทยา การเจาะนำเซลล์หรือชิ้นเนื้อเล็ก ๆ มาตรวจอาจได้ข้อมูลได้ไม่ครบ การผ่าตัดต่อมธัยมัสพร้อมทั้งก้อนเนื้องอกออกเป็นการวินิจฉัยและการรักษาไปพร้อมกัน ในคนไข้ที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วยจำเป็นต้องรักษาอาการอ่อนแรงด้วยยาในกลุ่มต้านเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสที่ทำหน้าที่ทำลาย enzyme acetyl cholinesterase ที่ทำหน้าที่สลายสาร acetyl choline ทำให้มี acetyl choline ผ่านรอยต่อของเส้นประสาทและตัวรับที่กล้ามเนื้อมากขึ้น อาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อลายก็จะลดลง เช่น ยา mestinon ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยากลุ่มกดภูมิต้านทาน เพราะโรคนี้เกิดจากภูมิต้านทานต่อ acetyl choline ที่สร้างขึ้นในร่างกายเรียกว่า autoimmune disease

วิธีการลด antibody ก่อนผ่าตัดได้แก่ immunoglobulin และการทำ plasmaphoresis เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น หายใจไม่เพียงพอ การให้ยากลุ่ม cholinesterase inhibitor เช่น mestinon ทำให้มีเสมหะมาก ทำให้หายใจลำบากหลังผ่าตัดได้
การรักษาด้วยยาเป็นการเริ่มต้น เพราะเนื้องอกของต่อมธัยมัสการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือการรักษาแบบผสมผสาน โดยเริ่มที่การผ่าตัดเอาเนื้องอกและต่อมธัยมัสออกให้หมด (maximal thymectomy) แล้วรอผลชิ้นเนื้อ ถ้าหากเป็นมะเร็งก็อาจต้องรักษาต่อเนื่องด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การให้ยาเคมีบำบัดและการฉายแสง วิธีการผ่าตัดทำได้สองวิธีการผ่าตัดแบบเปิด ซึ่งอาจผ่านตรงกลางหน้าอกที่เรียกว่า median sternotomy หรือการผ่าตัดโดยการส่องกล้อง VATS thymectomy โดยผ่านแผลเล็กหลายแผลทางทรวงอก มักเป็นทรวงอกด้านขวาหรือทั้งสองข้าง การผ่าตัดโดยการส่องกล้องสามารถตัดเนื้องอกและต่อมธัยมัสออกได้ใกล้เคียงกับการผ่าตัดแบบเปิด แต่คนไข้จะปวดแผลน้อยกว่าทำให้ฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วกว่า
ข้อมูลจาก รศ.นพ.กิตติชัย เหลืองทวีบุญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทรวงอก หลอดเลือดและหัวใจ โรงพยาบาลพญาไท 1 และ 2 / www.phyathai.com
นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์