เจอแผ่นดินไหวเขย่าปฐพีไทยเล่นเอาอลหม่าน “นายกอิ๊งค์”น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนพร้อมแถลง สั่งทุกหน่วยงานระดมความช่วยเหลือ โดยเฉพาะกรุงเทพฯให้เป็นพื้นที่ฉุกเฉิน

หลังเพิ่งผ่านศึกซักฟอก ซึ่งผลโหวตเป็นไปตามคาด สส.ลงมติให้ความไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยผลคะแนน 319 เสียง ทำเอา“นายกฯอิ๊งค์” หน้าบานโชว์เสียงแน่นปึก ปักหมุดจับมือพรรคร่วมเดินหน้าต่อ พร้อมกับอาการแข็งข้อยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะยังทำงานต่อเนื่องได้ดี เตือนนักวิ่ง “ถ้าจะวิ่งก็ดูกันเองว่าวิ่งทางไหนแล้วเป็นผลแล้วกัน”

เมื่อคลี่ 319 เสียงก็จะเห็นว่าในสภามีงูเห่าโผล่ขึ้นมาให้จับ 7 ตัว แม้จะยังไม่ถึง 10 เสียง ตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศไว้ แต่อีก 3 เสียงแฝงอยู่ในพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว จึงเป็นตัวแสดงศักยภาพเบ่งกล้ามได้ ที่จะทำให้พรรคกล้าธรรมขยับเขย่าเก้าอี้ครม.หลังจากนี้

ขณะที่อยู่ๆ  นายกฤช ศิลปชัย สส.ระยอง พรรคประชาชน ออกมาแฉ มีคนเสนอให้เงิน 10 ล้านบาท เป็นงูเห่า ให้โหวตเห็นชอบให้นายกรัฐมนตรี และให้เงินเป็น 20 ล้านบาท ถ้าย้ายพรรคแล้วมีคนพ่วงมาด้วย 10 คน พร้อมจะมีตำแหน่งและเงินเดือนด้วย

ท่ามกลายการปฏิเสธของบรรดาแกนนำพรรครัฐบาล โดยเฉพาะ “นายกฯอิ๊งค” ออกลูกเย้ย “จะซื้อทำไมให้เปลืองตังค์ทั้งที่เสียงท่วมท้นอยู่แล้ว”

งานนี้ต้องรอดูว่า “นายกฯอิ๊งค์” จะแข็งข้อได้นานแค่ไหนท่ามกลางเสียงอวยยศจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  , “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ  ต่างก็ชูนิ้วโป้งชื่นชมพูดเป็นคีย์เดียวกัน  “นายกฯอิ๊งค์” เก่ง มีวุฒิภาวะ พัฒนาความเป็นผู้นำขึ้นทุกวัน ได้ทำงานร่วมกันก็เห็น ทำให้การทำงานสะดวก มีอะไรก็พูดคุยสามารถหาข้อยุติและตกลงกันได้ เชื่อว่าภายใต้การนำของ “น.ส.แพทองธาร” จะได้รับการแก้ไข ขอให้มั่นใจ

ถึงพรรคร่วมจะจับมือกันทำงานกันต่อไป ก็ต้องไม่ลืมว่า แม้ผ่านศึกซักฟอกไปแล้ว ฝ่าศึก“ดีลปีศาจ”ของพรรคประชาชนไปได้ แต่ยังคงมี “ปีศาจ”ตัวเดิมเป็นเงาหลอนสร้างรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลที่ลากยาวไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร หากเจรจาผลประโยชน์ไม่ลงตัวโอกาส เกิดขบเหลี่ยมปีนเกลียวทำรัฐบาลพลิกคว่ำพลิกหงายก็เป็นได้

อีกทั้งยังมีสัญญาณจากศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องปมบุคคลต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ชี้ ว่าการแต่งตั้งครม. เป็นหน้าที่และอำนาจของนายกฯ

 ดังนั้นการจะพิจารณาแต่งตั้งใครเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ ใครมีปัญหาอาจจะต้องร้องเพลงรอไปก่อน เพราะมีตัวอย่างกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสอย “เศรษฐา ทวีสิน” ให้ตกจากสวรรค์มาแล้ว

ที่สำคัญล่าสุดครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตามข้อเสนอของกฤษฎีกา เน้นลงทุนเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยให้มี “กาสิโน” ไม่เกิน 10%

ปลุกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (ครป.) ร่วมกับ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกลุ่มกองทัพธรรม ประกาศขับไล่รัฐบาลทันที เพราะเป็นการมอมเมาประชาชนไม่ให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ ซึ่งจะเป็นเชื้อไฟ จุดติดให้ม็อบลงถนนเร็วขึ้น เพราะตอนนี้แกนนำต่างซอยเท้าพร้อมรบ

อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าแม้ครม.จะผ่านพ.ร.บ.กาสิโนไปแล้ว ก็ยังต้องไปเจอด่านหินที่ครม.ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ถ้าการตกลงผลประโยชน์แบ่งปันสัดส่วนไม่ลงตัวก็อาจจะทำให้พรรคภูมิใจไทยเล่นบทเฮี๊ยว จนร่างพ.ร.บ.กาสิโน ถูกตีตก จะกลายเป็นจุดจบ “รัฐบาลแพทองธาร” เพราะเกิดความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง

ขณะเดียวกันเจอ ปีศาจตัวใหม่ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เดินหน้ายุทธการโรยเกลือ เร่งเครื่องขยี้แผลรัฐบาล นำข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่งต่อให้องค์กรอิสระตรวจสอบ  ตอนนี้กำลังดูรายละเอียดจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เตรียมเช็คบิลเจ้าหน้า ข้าราชการ ที่เอื้อประโยชน์นักโทษเทวดา ชั้น 14 ด้วย

งานนี้หัวหมู่ทะลวงฟัน “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เดินเกมเร็วยื่นเรื่องต่อกรมสรรพกรทันทีให้ตรวจสอบ กรณีการใช้ “ตั๋ว PN” ในการซื้อหุ้นหรือทรัพย์สินอื่นใด เข้าข่ายการหลีกเลี่ยงการชำระภาษีการรับให้ และในกรณีที่เจ้าของกิจการต้องการโอนหุ้นบริษัทของตนเองหรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการโอนที่ดินของตนเองให้กับลูกหลาน พ่อแม่ หรือคู่สมรส หากให้ผู้รับออกตั๋ว PN มาแลกกับการรับหุ้น หรือการรับทรัพย์สินอื่นใด กรมสรรพากรจะไม่พิจารณาว่าเป็นพฤติกรรมที่หลีกเลี่ยงภาษีการรับให้ในทุกกรณีใช่หรือไม่ และมีหลักเกณฑ์ใดบ้างที่กรมสรรพากรจะพิจารณาว่าเป็นพฤติกรรมทำนิติกรรม

ถึงแม้จะมีการอ้างว่าใครๆก็ทำกันได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนรวย แต่“น.ส.แพทองธาร”อย่าลืมว่าตัวเองเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ต้องมี “จริยธรรม” สูงกว่าคนทั่วไป ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักธุรกิจ

นอกจากนี้ฝ่ายค้านยัง เปิดหลักฐานโรงแรม “เทมส์ วัลลีย์” เขาใหญ่ เป็นของครอบครัวตระกูลชินวัตร ตั้งอยู่ข้าง “แรนโช” ชาญวีร์ ของ อนุทิน อยู่ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเอง-ต้นน้ำลำธาร ห้ามออกโฉนด-ทำธุรกิจ รวมถึงที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ดินเขากระโดง ที่สังคมยังคงคาใจ ซึ่งจะเป็นชวนร้อน “รัฐบาลแพทองธาร”

ยังไม่รวมกับที่ต้องมาเจอนิติสงครามหนังยาวเกมร้อนเปลี่ยนดุลอำนาจ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องกรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ สว. ที่เข้าชื่อกันขอให้วินิจฉัย “นายภูมิธรรม เวชชัย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี จากกรณีการแทรกแซง ครอบงำ กกต. โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว.ไว้พิจารณาแล้ว

เมื่อผ่านศึก “ดีลปีศาจ” มาได้แต่ยังต้องมาเจอทั้ง “ปีศาจ” ตัวเก่ารวมตัวใหม่ รอรุมถล่มใส่ “รัฐบาลแพทองธาร” ที่สำคัญประชาชนยังต้องถูก “ปีศาจ” ตามหลอกหลอนคนไทยทั้งประเทศอีก เพราะจนบัดนี้ล้วงมือลงไปในกระเป๋ายังไม่เจอแม้เศษสตางค์  

ระหว่างที่ รัฐบาลโชว์ซีนแน่นปึกหลังจบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกิดซีนดราม่า ปรากฏรูป “หัวหน้าเท้ง ณัฐพงษ์” จูงมือ “ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคประชาชน ไปร่วมซีนถ่ายภาพกับพรรคร่วมรัฐบาล โดนด้อมส้มถล่ม ศึกอภิปรายฯครั้งนี้เป็นละครการเมือง จน “หัวหน้าเท้ง” ต้องออกมาชี้แจงว่า ต้องการไปถามนายกฯโดยตรงในสิ่งที่ “นายกฯอิ๊งค์” ยังไม่ได้ตอบ ซึ่งถ้าเป็นจริงซีนนี้แสดงว่าศึกจบแต่เด็กเฮี้ยวยังไม่ยอมจบ

การเมืองหลังจากนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า สุดท้ายแล้วประชาชนจะพึ่งใครได้ ประชาชนจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้กันกี่โมง.