“ทีมข่าวอาชญากรรม” ย้อนต้นตอเรื่องราวเครือข่ายยาเสพติดครั้งนี้เริ่มจากช่วงกลางปี 67 (22 ก.ค.67) ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจีน จับกุมชายไทย 2 คน พร้อมของกลางยาไอซ์ได้ที่สนามบินหนานจิง ก่อนประสานป.ป.ส.ขยายผลหาเครือข่ายในไทย กระทั่งต่อมาจีนออกหมายจับหญิงไทยเพิ่มอีก 1 ราย หลังพบพฤติการณ์เป็นผู้จัดหา ลำเลียงยาเสพติดจากไทยไปจีน
และวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ป.ป.ส.เข้าจับกุมหญิงไทยตามหมายจับที่คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน กทม. ระหว่างเข้าจับกุมมีหญิงไทยอีกรายมีพฤติกรรมร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดอยู่ด้วย
จากการตรวจสอบห้องพักพบของกลางอุปกรณ์การบรรจุ ถุงซีล เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิทัล ยาบ้า และผลึกไอซ์สีสันแปลกตา ทราบต่อมาว่ามีการใส่สีผสมอาหารและทองคำเปลว ทำให้ผลึกไอซ์มีทั้ง“สีพิงค์โกล”และ“สีทอง” เพื่อเพิ่มมูลค่าการขายได้มากกว่ากรัมละ 3,000 บาท แต่ฤทธิ์ไม่แตกต่างจาก“สีออริจินัล” นอกจากนี้ ยังพบเอ็กซ์ตาซี และคีตามีน ซุกซ่อนในกล่องเครื่องสำอาง เตรียมจัดส่งลูกค้า โดยทั้งคู่มีเส้นทางกระจายยาเสพติดไปยังลูกค้าตามสถานบันเทิงย่านสุทธิสาร และย่านรัชดา
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการครั้งนี้มี“เซอร์ไพรส์” เมื่อระหว่างตรวจค้นได้มีเสียงเตือนข้อความแอปพลิเคชันไลน์ สั่งซื้อยาไอซ์ 2 กรัม ดังเข้ามา เรียกว่า“ผิดที่ผิดเวลา”
เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้ 1 ในผู้ต้องหาชื่อเล่น“โอปอล”นำยาไอซ์ของกลาง ซึ่งบรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาลลงไปส่งมอบใต้คอนโด หวังซ้อนแผนจับ จากนั้นปรากฎมีชายคนหนึ่งมาถึงจุดนัดหมาย ลักษณะสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยมารอรับยาเสพติด เมื่อส่งมอบกันแล้วเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมแจ้งข้อหาครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1
ตามกระบวนการมีการสอบถามชื่อ-สกุล เดิมทีชายดังกล่าวระบุชื่อแซ็ค พัชรพล ปานพุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอดีตนักร้องดัง กระทั่งขยายผลสอบเพิ่มเติม จนทราบว่าเป็นนักร้องนำวง I-ZAX วัย 47 ปี
ในชั้นสอบปากคำ“แซ็ค” รับสารภาพสั่งซื้อไอซ์ผ่านกรุ๊ปไลน์ผู้ต้องหาหญิงรายดังกล่าวเกือบทุกวัน วันละ 1-2 กรัม มานาน 2 ปี โดยจะนำมาเสพบิ้วด์อารมณ์ก่อนขึ้นเล่นดนตรี
สิ่งที่น่าตกใจคือ หลังตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหาหญิง ไม่ได้มีเพียงแซ็ค แต่บรรดาลูกค้าของเธอ ยังมีศิลปิน ดารา และบุคคลในแวดวงไฮโซกว่าร้อยคนเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากผู้ต้องหาเคยทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิง อาจเคยเป็นพี่เลี้ยงของนักร้อง หรือผู้จัดการส่วนตัวศิลปิน ทำให้รู้จักคนเยอะ และคุ้นเคยกับ“แซ็ค” จนมีธุรกรรมการซื้อขายยาเสพติดระหว่างกัน
ส่วน“แซ็ค”จะซื้อไอซ์ไว้เพื่อเสพเองอย่างเดียว หรือขายต่อใครในวงการบันเทิงอีกหรือไม่ เบื้องต้นป.ป.ส. และตำรวจปส. ยังต้องขยายผล หากพบพยานหลักฐานชัดเจนก็สามารถดำเนินการเป็นรายต่อไปได้
เรียกว่าเขย่าวงการบันเทิงอีกระลอกใหญ่ เพราะงานนี้หากเข้าไปพัวพันไม่เพียงต้องรับโทษตามกฎหมาย แต่ภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และเส้นทางในอาชีพได้รับกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
จากนี้จับตาการขยายผลลูกค้าวงการบันเทิงในกรุ๊ปไลน์เครือข่ายนี้ จะมีใครเปลี่ยนสถานะเป็นผู้เสพ ผู้ครอบครอง หรือครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกหรือไม่.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน
