เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

ผมอายุ 79 ปี ป่วยเป็นเบาหวานมา 7 กว่าปีแล้วรักษาด้วยการกินยาควบคุมน้ำตาลมาตลอด  ผมเป็นผู้ป่วยเบาหวานคนหนึ่งที่มีอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ จนไม่สามารถสอดใส่ได้ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เริ่มรู้ว่าเป็นเบาหวาน แต่อาการช่วงแรกเป็น ๆ หาย ๆ แต่พอนานวันเข้าก็เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ จนตอนนี้อวัยวะเพศเงียบสงบ กระตุ้นเล้าโลมยังไงก็ไม่กระดิก เป็นทุกข์ใจมากเลยเวลามีอารมณ์ทางเพศแล้วอวัยวะเพศไม่แข็งตัว มีความสนใจเกี่ยวกับการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่ต่ำในกลุ่มที่เป็นเบาหวานแล้วมีอาการอีดี อยากทราบว่าอาการอีดีที่เป็นจะสามารถฟื้นฟูได้ด้วยวิธีนี้ได้ผลหรือเปล่า เพราะมักจะแพ้ยาง่ายมากจึงไม่ชอบการกินยา การรักษาด้วยวิธีนี้จะอยู่ได้นานไหม และต้องกลับไปรักษาต่อเนื่องหรือเปล่า

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

ทวี

ตอบ ทวี

การเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (อีดี) ในผู้ชายนั้นบางรายจะมีอาการอีดีก่อนที่จะรู้ว่ามีโรคแอบแฝง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น บางรายจะมีอาการหลังจากที่ได้รับการรักษาอาการดังกล่าวมาได้สักระยะเวลาหนึ่ง อาการเริ่มแรกอาจจะเป็นอีดีระดับอ่อน ๆ หากไม่ได้รับการรักษาก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น ด้วยการเกิดอาการอีดีระดับอ่อน ๆส่งผลให้ผู้ชายส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาทางเพศ

การเกิดอาการอีดีระดับอ่อน ๆ ที่มากกว่า 6 เดือน สามารถบ่งบอกให้ทราบว่าตัวคุณนั้นมีปัญหาทางเพศ หรือเป็นโรคอีดีที่จะต้องทำการฟื้นฟูรักษาต่อไป การรักษาด้วยคลื่นความถี่ต่ำหรือที่เรียกว่าช็อกเวฟนั้นจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดที่องคชาตและช่วยให้เกิดการสร้างหลอดเลือดขึ้นใหม่ (angiogenesis) ในองคชาต ได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่เกิดจากปัญหาของหลอดเลือด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น 

มีการศึกษาว่าในคนไข้ 191 ราย ซึ่งเป็นคนไข้อีดีที่ได้รับการรักษาอาการอีดีด้วยวิธีช็อกเวฟ ได้ศึกษาผลการรักษาหลังการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าว 6 เดือนเปรียบเทียบกับก่อนได้รับการรักษา ซึ่งกลุ่มที่ศึกษามีอายุเฉลี่ยคือ 59±10 ปี เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน เมื่อวัดด้วยคะแนนจากแบบสอบถามสมรรถภาพทางเพศ (IIEF) มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น 6 เดือนหลังการรักษา การรักษาด้วยวิธีช็อกเวฟทำให้องคชาตแข็งตัวได้ดีขึ้น ทั้งในคนไข้อีดีที่ความรุนแรงของโรคทุกระดับ ในคนไข้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน รวมทั้งในคนไข้ที่ใช้ยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์การอ่อนตัว แล้วได้ผลและไม่ได้ผล ดังนั้นแม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 6 เดือนหลังจากการรักษาวิธีช็อกเวฟ ก็ยังทำให้องคชาตแข็งตัวได้ดีอยู่ การรักษาอาการอีดีโดยไม่พึ่งยายังมีอีกวิธีที่สามารถทำได้ควบคู่กับวิธีช็อกเวฟนั่นคือการใช้บริหารกล้ามเนื้อเพศร่วมด้วยยิ่งทำให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น อย่าได้กังวลใจไปก่อนที่ยังไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์.

ดร.โอ สุขุมวิท 51

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่