เหตุการณ์ กลุ่มโจรใต้ ลอบกัดฉวยโอกาสโจมตี ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก–ลก จ.นราธิวาส ช่วงเวลา 19.10 น. วันเสาร์ 8 มี.ค.68 ไม่ใช่เวลายามวิกาล มีประชาชนสัญจรไปมา บางส่วนยังออกกำลังกายอยู่สวนสาธารณะ จนเป็นเหตุทำให้มี สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) พลีชีพ 2 นาย บาดเจ็บ 8 นาย และชาวบ้านบาดเจ็บอีก 4 ราย
วงจรปิดจับภาพนาทีเหตุการณ์โจรใต้ ไม่ต่ำกว่า 10 คน นั่งท้ายกระบะ แต่งกายชุดดาวะสีดำ อาวุธปืนสงคราม ระเบิดขว้างครบมือ โดยมีรถเก๋ง สีบรอนซ์เงิน ขับมาประกบสมทบ ร่วมก่อเหตุอุกอาจใจกลางเมือง ไม่สนใจประชาชนผู้บริสุทธิ์คนแก่ผู้หญิงเด็กใครจะตกเป็นเหยื่อ
รูปแบบ กองโจรไร้มนุษยธรรม มีทั้ง ชุดจู่โจม นำบุกกราดยิง ที่ว่าการอำเภอ และ ศาลาประชาคม อ.สุไหงโก-ลก ปาระเบิด วางคาร์บอมบ์ อีกทั้งยังมี ชุดสนับสนุน ชุดเฝ้าระวังหลัง วางระเบิดทั้งของจริง และวัตถุระเบิดลวงอีกหลายจุด เพื่อป้องกันการติดตาม ยกระดับ ไม่รบในป่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่เหิมเกริมเน้นแผนลอบกัด บุกก่อเหตุในเมือง หาช่องโหว่วางแผนก่อวินาศกรรมหลายแห่ง แล้วแต่จะสบโอกาส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตราวใบไม้ร่วงมาต่อเนื่อง
พอได้สัญญาณ “การข่าว” ชี้เป้าหมายอ่อนแอก็พร้อมก่อเหตุทันที เริ่มพุ่งเป้ามา เจ้าหน้าที่ อส. ก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือนเพิ่งก่อเหตุช่วงหัวค่ำ เวลา 19.05 น. วันศุกร์ 14 ก.พ. 68 ขี่ จยย.พ่วงข้างทำเป็นคาร์บอมบ์ มาจอดใกล้ กองร้อย อส.อำเภอแว้ง จ.นราธิวาส แล้วจุดระเบิดเป็นเหตุให้ อส.และชาวบ้านบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุล่าสุดแม้อยู่ในช่วง เดือนรอมฎอน ถือศีลอด แนวร่วมฯ ที่ถูกบ่มเพาะการสอนที่บิดเบือนยังลงมือทำร้ายผู้บริสุทธิ์
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา เลขาฯกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ ซึ่งเกาะติดปัญหาอยู่ในพื้นที่มานานได้สะท้อนมุมมองที่รัฐบาลต้องเร่งหาทางแก้ไขเป็นการด่วน ไล่ตั้งแต่เรื่องใหญ่ 1.งานด้านการข่าว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีสารพัดหน่วย ทั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, ตำรวจภาค 9, ตำรวจสันติบาล, ฝ่ายปกครอง และ สำนักข่าวกรอง ฯลฯ มีงบประมาณสูง แต่ทุกหน่วยทำไมไม่ระแคะระคายความเคลื่อนไหว?
2.ระบบรักษาความปลอดภัย ของหน่วยที่ตั้ง การรักษาความปลอดภัยในเมืองเศรษฐกิจที่เป็น 8 เมืองหลัก ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่มีการประชุมให้มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในห้วงของ เดือนรอมฎอน และ 3.กองกำลังพิเศษ ที่ถูกส่งมาสนับสนุนภารกิจร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการช่วยติดตาม ไล่ล่าโจรใต้ ที่ก่อเหตุเคลื่อนไหวก่อเหตุยังไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างทันท่วงที
ปัญหาไฟใต้ลุกโชนมากลายเป็น เผือกร้อน อีกเรื่องใหญ่ด้านงานความมั่นคงถาโถมใส่ รัฐบาลแพทองธาร ในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ยังสวมหมวกอีกใบ เป็น ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(ผอ.กอ.รมน.) พยายามมอบหมาย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก(ตท.14/จปร.25) ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มาร่วมคณะเจรจาพูดคุยดับไฟใต้ ล่าสุด พล.อ. นิพัทธ์ ยังไปลงพื้นที่ จว.ชายแดนใต้กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เตรียมหารูปแบบของ กระบวนการพูดคุยสันติสุขแนวใหม่ ทดสอบและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน
แม้จะมีสัญญาณส่งไปยัง “กลุ่มผู้เห็นต่าง” หวังใช้ช่วงเดือนแห่งการถือศีลอด 30 วันให้เป็น “รอมฎอนสู่สันติสุข” แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อโจรใต้ย้อนเกล็ดเจ้าหน้าที่ตามตำรา “มึงมากูมุด มึงหยุดกูแหย่ มึงแย่กูตี” บุกลงมือกลางเมืองสุไหงโก–ลก ก่อเหตุแบบไม่สนอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นถ้ารัฐบาลไม่ปรับแผนมัวแต่ตั้งรับ ผู้บริสุทธิ์คงตกเป็นเหยื่อแบบใบไม้ร่วงไปเรื่อย ๆ.