อุณหภูมิการเมืองพุ่งปรี๊ดตามสภาพอากาศกรมอุตุวิทยา ประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ แล้วในวันที่ 28 ก.พ.68 แถมยังเจอพายุฤดูร้อนกรรโชกอย่างรุนแรง ทำเอาหลังคาบ้านเรือนประชาชนเปิดเปิงกันไปหลายหลัง

เช่นเดียวกันกับการเมืองไทยในยุค “นายกฯ เจนวาย” ที่มีแต่ความร้อนแรง เหมือนกับวัยทองมาก่อนวัยอันควร ซึ่งช่วงนี้ “นายกอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร มีภารกิจ หลบกระแสลมร้อนบินไปนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส และเดินทางต่อไปยังสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว ITB Berlin 2025 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พบหารือนักธุรกิจชั้นนำวางแพลนกลับวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม
แม้ 4 ผู้ยิ่งใหญ่ร่วมซดมาม่าที่บ้านจันทร์สองหล้าด้วยกัน เคลียร์ใจสยบรอยร้าว “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมายอมรับว่า ได้พา ครูใหญ่“เนวิน ชิดชอบ” เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าพบนายใหญ่ “ทักษิณ ชินวัตร และ แพทองธาร ชินวัตร” สองพ่อลูกจริง เคลียร์ปมนโยบายทุกเรื่อง ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งเรื่อง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาสิโน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“อนุทิน” บอกชัดว่า “พรรคภูมิใจไทย” พร้อมซับพอร์ต “นายกฯอิ๊งค์” แน่นอน และได้กำชับให้ลูกพรรคเข้าร่วมประชุมสภา ห้ามขาดห้ามลา โดยเฉพาะ 8 รัฐมนตรีของพรรคต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม ถึงแม้ฝ่ายค้านจะประกาศจอง กฐิณล็อกเป้า“นายกฯอิ๊งค์” คนเดียวหากถูกพาดพิงมาต้องช่วยนายกฯชี้แจงได้
งานนี้ฝ่ายค้านพุ่งไปที่กล่องดวงใจ “ทักษิณ –พรรคเพื่อไทย” ประกาศชัดล็อกเป้า “นายกฯอิ๊งค์” โดยเนื้อหาในการอภิปรายฯ ถึงการทำหน้าที่ของนายกฯ มีปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เกิดขึ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรง รวมถึงยังสมัครใจยินยอมให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็นบิดาชี้นำชักใยให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือน “นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด”
นอกจากนี้จะมีการเปิดประเด็นร้อน ทั้งเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กาสิโน อุยกูร์ การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงวุฒิภาวะนายกรัฐมนตรีประเด็นสำคัญ คือ ประเด็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ตีโจทย์ไม่แตก
แต่งานนี้พรรคพลังประชารัฐ ยกมือขอร่วมแจมด้วย หัวหมู่ทะลวงฟัน“ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรค เผยว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังผู้นำฝ่ายค้าน “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายฯเสร็จ

กางโจทย์ร้อนให้เห็นกันชัดๆ พุ่งเป้าไม่น้อยกว่า 4 ประเด็น มีทั้งกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอ็มโอยู 2544 กาสิโน และคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มั่นใจว่าจะทำให้ “นายกฯอิ๊งค์” หวั่นไหวแน่
แต่เจอลูกพรรคเพื่อไทย “สมคิด เชื้อคง” เย้ย “ลุงป้อม” ที่จะลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ด้วยนั้น แค่ 2 นาทีจะไหวไหม เพราะเท่าที่เคยเห็น 4 ปี อภิปรายฯได้แค่ 2 วินาที ขอให้กำลังใจ “ลุงป้อม” และขอให้ทีมรอบข้าง รวมถึงเลขาธิการพรรค พยายามให้ข้อมูล “พล.อ.ประวิตร” เยอะๆ จะได้พูดคุยกับประชาชนได้ และงานนี้ไม่ต้องห่วง “นายกฯอิ๊งค์” พร้อมตอบเชื่อว่านายกฯตอบได้
แต่ถึงอย่างไรก็ประมาทไม่ได้ เพราะระดับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร ก็เป็นผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน ถ้ามีข้อมูลเด็ดอาจเขย่าบัลลังก์รัฐบาล ก็เป็นได้เช่นกัน
เมื่อรวมกับตัวจี๊ดของพรรคประชาชน ประกาศไว้แล้ว ส่งขุนพลฝีปากกล้า กว่า 20 คน จัดหนักซักฟอกรัฐบาล มีการซักซ้อม รีวิว ตรวจสอบข้อมูลกันแล้ว จะไม่มีการพูดเรื่องเก่าๆ เดิมๆ ซ้ำซาก ขุนพลพรรค 20 กว่าคน ก็จะพูด 20 กว่าเรื่อง แต่ละคนไม่ซ้ำกันแน่ จะรักษามาตรฐานเดิม
พุ่งเป้าทิ่มเรื่อง ดิจิทัลวอลเล็ต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อุยกูย์ รัฐบาลประกาศจัดการจีนเทา ส่วนไทยเทารัฐบาลจัดการอย่างไร อีกทั้งตอนนี้ก็มีปัญหาการปล่อยเช่าคอนโดรายวันให้ชาวต่างชาติมาสร้างความเดือดร้อน
ต้องคอยดูว่าศึกซักฟอกจะจบลงอย่างไร เพราะเสียงโหวตพรรคร่วมแม้ว่า “อนุทิน” พร้อมชูจั๊กกะแร้หนุนรัฐบาลท่ามกลางรอยรักรอยร้าวยังคงคาใจอยู่ ทั้งเรื่องที่ดินเขากระโดง สนามกอล์ฟอัลไพน์ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ และลามไปถึงโรงแรมหรู บริษัท เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล ของ “นายกอิ๊งค์” ที่ยังเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องตรวจสอบที่มีว่า การได้มาถูกต้องหรือไม่ แลกกันหมัดต่อหมัด

หลังจบศึกซักฟอกก็ต้องมาดูการปรับครม.ของพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการปรับกันอย่างไร เพราะที่แน่นๆ พรรคกล้าธรรม “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ประกาศชัดคำโต การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ เสียงพรรคกล้าธรรมจะไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด 34 เสียง ซึ่งเป็นทางการของพรรค 24 เสียง และเสียงที่ไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 เสียง ต้องรอดูว่าจะสามารถกระชากโควตาเพิ่มจากเดิมที่มีได้หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีเกมช่วงชิงเสียงสภาสูง ด้วยการเปิดศึกเกมรุกเด็ดปีก “ค่ายน้ำเงิน” ด้วยคดี “ฮั้วสว.” ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับกรณีการทุจริตในการเลือกตั้ง สว.เป็นคดีพิเศษ ที่ดูแล้วจะเป็นหนังม้วนยาว
ถึงแม้ล่าสุดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)ของดีเอสไอ มีมติด้วยคะแนนเสียง 11 ต่อ 4 และงดออกเสียง 3 เสียง ชี้ว่า มีความผิดฐานฟอกเงิน รอขยายผลไปยังข้อหา “อั้งยี่ ซ่องโจร” แต่เรื่องนี้เป็นเกมพันธนาการต้องใช้เวลาอีกยาวนานในการตรวจสอบ เพราะกว่าเรื่องจะไปสู่ศาลใช้เวลาเป็นปี และเป็นยุทธการที่เด็ดที่ละหัวไม่ตัดทั้งพวงโยนระเบิดเรื่อง “ฮั้วสว.” กลับไปให้กกต.ดำเนินการให้สังคมไปจับตาดูการทำหน้าที่ของกกต.จะออกมาอย่างไร

จึงเห็นสว.สีน้ำเงิน ออกอาการดิ้นสู้ ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบจริยธรรม “ทวี” พ.ต.อ.สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ” อธิบดีดีเอสไอ แบบเร่งด่วน อ้างหลักฐานเอาผิดอย่างเลื่อนลอย เชื่อวุฒิสภาถูกกลั่นแกล้ง มองเป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ
ถือเป็นศึกชิงเกมสภาสูงพลิกเกม “เปลี่ยนดุลอำนาจ” จึงเห็นเกมการออกแรงเคลื่อนอย่างเผ็ดร้อนทั้ง “ค่ายแดง-ค่ายน้ำเงิน”
เพราะสว.เป็นหนึ่งในกลไกลการคัดเลือกตัวบุคคลให้เข้าไปอยู่ในองค์กรอิสระ ทั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่มีหลายคนในหลายองค์กรอิสระ หมดวาระและต้องคัดเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งเป็นช่วงของการผลัดใย
จึงเป็นโอกาสถ้าใครสามารถคุมเสียงในสภาสูงได้ ก็ย่อมถือแต้มต่อส่งผลไปถึง “ดุลอำนาจการเมือง”ทั้งหมดในอนาคต
ช่วงนี้จึงต้องช่วงชิงตัดเกม บีบ พร้อมเขย่าขวัญกันหนักหน่วง เพื่อให้มีการย้ายขั้วเปลี่ยนข้าง จึงได้เห็นความเคลื่อนไหวของสว.จำนวนหนึ่งที่ได้ออกมารวมตัวกันถึง 138 คน
ดังนั้นหากต้องการขยายฐานดุลอำนาจคุมองค์กรอิสระ รวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอื่นๆได้ตามที่ใจปรารถนา จึงต้องอาศัยเสียง 1ใน 3 คือ 66 เสียงจากสว.ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 198 คน ซึ่งเป็นขุมอำนาจที่ ทรงพลังที่ “นายใหญ่ทักษิณ” ต้องการอยู่ในอำนาจด้วยเช่นกัน
แต่สุดท้ายบทสรุปจะออกมาอย่างไร เพราะเห็นได้ชัดว่าแต่ละฝ่ายมีคดีพันคอพันเท้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งคดีดีที่ดินอัลไพน์ ที่ดินเขากระโดง รวมถึงคดีฟอกเงินที่ดีเอสไอรับมาเป็นคดีพิเศษ กรณีคดีฮั้วสว. ที่ต้องการทาสีเทาให้กับสว. สีน้ำเงินด้วยเช่นกัน
จึงถือว่าเป็นการห้ำหั่นกลุ่ม ก๊วนอำนาจจนมองข้ามหัวประ ชาชนไปแล้ว สุดท้ายผลประโยชน์ทั้งหมดตกอยู่ที่ใคร ประชาชนจะได้อะไรกับเกมเหล่านี้