East Coast USA.#1..@@@………. เมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 ได้มีพิธีสมโภชน์สมณศักดิ์ และ อายุวัฒนะมงมล 88 ปี พระวชิรวิสิฐ- เจ้าอาวาสวัดโปรดเกศเชษฐาราม โดยพระพรหมวัชรวิมลมุนี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีพระสงฆ์จากวัดวาอารามต่าง ๆทั่วกรุงเทพฯ หลายวัด และ พระสงฆ์สายพระธรรมทูตจากสหรัฐอเมริกาหลายรูปเดินทางมาร่วมในพิธีครั้งนี้ อาทิ พระมหาอุดม ปภงฺกโร เจ้าอาวาสวัดป่าสันติธรรม เมืองแคร์รอลตัน รัฐเวอร์จิเนีย,พระมหาปิยะ อุตฺตมปญฺโญ.ดร. เจ้าอาวาสวัดโปรดเกศเชษฐาราม เมืองไนแองการา รัฐนิวยอร์ก และพระมหาคำตัล พุทฺธงฺกุโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น ภาพขวาบน -พระวชิรวิสิฐ- เจ้าอาวาสวัดโปรดเกศเชษฐาราม (ซ้าย) ถ่ายภาพกับ พระพรหมวัชรวิมลมุนี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-ประธานฝ่ายสงฆ์ และ ภาพล่างขวา-ส่วนหนึ่งของญาติโยมวัดโปรดเกศเชษฐาราม อเมริกา ที่เดินทางมาร่วมงานและทำโรงทานถวาย ในงานสมโภชน์สมณศักดิ์ และ อายุวัฒนะมงมลพระวชิรวิสิฐ

East Coast USA #2..@@@………. ..เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 ออท.ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้พบหารือกับนายคิม ฮอนซอง ผู้อำนวยการศูนย์ Ulsan Center for Creative Economy & Innovation (Ulsan CCEI) และรับทราบถึงภารกิจและบทบาทของศูนย์ Ulsan CCEI ในการสนับสนุนสตาร์ทอัพในนครอุลซัน รวมทั้งได้เยี่ยมชมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของศูนย์ฯ เพื่อรับทราบภาพรวมเกี่ยวกับแนวทางในการส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัพในนครอุลซัน ออท.ธานีฯ ได้หารือกับผู้อำนวยการศูนย์ฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อให้การสนับสนุนและพัฒนานโยบายการส่งเสริมสตาร์ทอัพของทั้งสองประเทศ และการพัฒนาระบบนิเวศน์ที่เหมาะสมสำหรับสตาร์ทอัพไทย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญผู้อำนวยการศูนย์ฯ และผู้แทนศูนย์ Ulsan CCEI เข้าร่วมงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum ระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย. 2568 ด้วย และในวันเดียว ( 27 กพ. นี้ ) ออท.ธานีฯ ได้หารือกับนายคิม ดู-คย็อม นายกเทศมนตรีนครอุลซัน เรื่องแนวทางการยกระดับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน การพัฒนาความสัมพันธ์เมืองพี่-เมืองน้องระหว่างนครอุลซันและจังหวัดในไทย การเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานไทย รวมถึงโอกาสในการมาทำงานที่นครอุลซัน ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน อาทิ การพัฒนาพลังงาน hydrogen ในโอกาสนี้ ออท.ธานีได้เชิญนายกเทศมนตรีฯ นำคณะนักธุรกิจจากนครอุลซันเยือนไทยเพื่อต่อยอดความร่วมมือและแสวงหาโอกาสด้านการลงทุนในประเทศไทยด้วย

East Coast USA #3…@@@………. เดินทางเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโคเปนเฮเกนนางสุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ออท.สุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง เข้าพบนาง Anne Dorte Riggelsen อธิบดีกรมพิธีการทูต เพื่อยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้งและพระราชสาส์นถอน ณ กระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์ก ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับเดนมาร์กให้แน่นแฟ้นและขอบคุณกรมพิธีการทูตสำหรับข้อมูลและการเตรียมการในการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 เพื่อถวายพระราชสาส์นตราตั้งต่อไป ( ภาพบน ) ส่วนภาพล่าง -ก่อนที่ออท.สุพรรณวษา จะเดินทางมารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 นายภูวิศ วิสารทสกุล อุปทูตฯ พร้อมด้วยภริยาคุณอภิชญา วิสารทสกุล ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อให้กำลังใจทีมนักศึกษาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขัน CBS Case Competition ครั้งที่23 ซึ่งจัดโดย Copenhagen Business School โดยมีทีมนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติในปีนี้การแข่งขัน CBS Case Competition เป็นกิจกรรมประจำปีที่จัดขึ้นโดย Copenhagen Business School เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาในระดับปริญญาตรีจากทั่วโลกได้มีโอกาสแสดงทักษะในการแก้ไขกรณีศึกษาจริงจากบริษัทธุรกิจชั้นนำ ซึ่งปีนี้ 2568 มีทีมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 12 แห่งจากทั่วโลกเข้าร่วม เช่น สหรัฐฯ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ เลบานอน จีน และไทย การแข่งขันเน้นที่การพัฒนาทักษะด้านการแก้ปัญหาในบริบททางธุรกิจระดับโลก เป็นการแสดงให้เห็นถึงการยกระดับการศึกษาและการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในอนาคตในการเป็นผู้นำที่มีความสามารถและมีความเข้าใจในแนวคิดระดับโลก ทีมนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์ ฯ 4 คน ได้แก่ นส.นันท์นภัส แย้มสวน,นายธัชพล เฮงอนุพันธ์ นายธนาธร ตันติพิริยะกิจ และ นส.ณัชชา ทรัพย์สุวรรณ โดยมี รศ. ดร.จักรกฤษณ์ ดวงพัสตรา ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) / อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ เป็นผู้นำคณะเดินทางมาแข่งขันและเป็นที่ปรึกษาที่คอยให้คำแนะนำทีม นักศึกษาทั้งสี่คนได้แสดงทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์และการแก้ปัญหาที่โดดเด่น จนสามารถผ่านเข้ารอบ3 ทีมสุดท้ายจาก12 ประเทศ การเข้ารอบสุดท้ายของทีมไทยถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจและยืนยันถึงความสามารถของนักศึกษาจากประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก อุปทูตฯ ได้กล่าวชื่นชมในความสามารถและให้กำลังใจแก่ทีมนักศึกษาไทยที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในครั้งนี้ และจัดเลี้ยงให้กำลัง

East Coast USA#4…@@@…………เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 นายภูวิศ วิสารทสกุล อุปทูตฯ และนางอภิชญา วิสารทสกุล ภริยา ได้เดินทางไปกราบนมัสการพระสุทธิชัย ขันติโก เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมชาติ ณ เมือง Randers พร้อมทั้งได้ถวายเครื่องสังฆทานแด่พระสงฆ์ และได้ใช้โอกาสนี้เยี่ยมเยียนพบปะพูดคุยกับชุมชนไทยในละแวกเมือง Randers และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสอบถามทุกข์สุขสภาพความเป็นอยู่ด้วย วัดป่าธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล Favrskov ใกล้กับเมือง Randers ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และได้รับการรับรองให้เป็นวัดของนิกายธรรมยุตในปีเดียวกัน วัดแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมให้กับทั้งชาวไทยในเดนมาร์กและผู้ที่สนใจจากชาติอื่น ๆ ด้วย ถ่ายภาพกับพระสงฆ์เป็นที่ระลึก ภาพล่าง-เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์2568 อุปทูตภูวิศ วิสารทสกุล พร้อมภริยาคุณอภิชญา วิสารทสกุล ได้เยี่ยมชมบูธประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยที่งาน Danish Travel Show (Ferie for Alle Fair) 2568 ณ MCH Messecenter เมือง Herning ซึ่งเป็นงานแฟร์ด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคสแกนดิเนเวีย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสตอกโฮล์มได้เดินทางมาออกบูธประชาสัมพันธ์ นำโดย นางอร ดวงจันทร์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสตอกโฮล์ม พร้อมด้วยนักแสดงนาฏศิลป์จากประเทศไทย บริษัท การบินไทย สำนักงานโคเปนเฮเกน และผู้ประกอบการไทยและเดนมาร์กมาร่วมประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรายการนำเที่ยวประเทศไทยในโซนบูธของไทยด้วย ภายในบูธของไทยมีการแสดงรำไทยและการสาธิตศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การสาธิตเพ้นท์ถุงผ้าลายไทย การประดิษฐ์ตุง ฯลฯ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานสนใจเข้ามาเยี่ยมชมและสอบถามข้อมูลแพ็คเกจทัวร์ไปประเทศไทยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ อุปทูตฯ และภริยา ยังได้ร่วมรับชมการแสดงของนักแสดงนาฏศิลป์ไทยบนเวทีใหญ่ภายในงานซึ่งได้รับความสนใจจากผู้รับชมเป็นอย่างยิ่งเช่นกันในปี 2567 ซีง มีนักท่องเที่ยวชาวเดนมาร์กเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวน138,278คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งมีจำนวน115,224 คน หรือประมาณร้อยละ ๒๐ โดยประเทศไทยยังเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวเดนมาร์กอย่างต่อเนื่อง

East Coast USA#5..@@@………. สดุดี-ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงวันดี วราวิทย์ อายุ 85 ปี “โรคประหลาด” เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1993 ( พศ.2536 ) ณ เมืองพิษณุโลก เด็กทารกชายคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่แข็งแรงนัก เมื่อย่างเข้าอายุได้เพียง 4 เดือน ร่างกายทารกน้อยเริ่มป่วยออด ๆ แอด ๆ แม้ว่าจะเข้าโรงพยาบาลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง แต่ก็ไม่มีท่าทีจะดีขึ้น จนเมื่อย่างเข้าเดือนกันยายน ค.ศ.1993 อาการเด็กน้อยแย่ลงจนเข้าขั้นวิกฤติ เนื้อตัวลีบ ถ่ายไม่หยุด 2 กุมารแพทย์ที่เก่งที่สุดในเมืองพิษณุโลกในเวลานั้น ได้พยายามช่วยชีวิตทารกน้อยด้วยการให้น้ำเกลือ ทางขา ทางแขน แต่ก็ไม่สามารถส่งสารอาหารเข้าร่างกายทารกน้อยได้ เพราะเส้นเลือดในร่างกายได้ตีบหมดแล้ว จนต้องตัดสินใจ “เจาะหน้าผาก” ให้น้ำเกลือผ่านทางกะโหลกเป็นทางสุดท้าย กว่า 1 เดือนที่พยายามช่วยชีวิตทารกน้อยรายนี้แต่อาการก็กลับแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะโรคร้ายพิสดารที่ไม่มีใครไขคำตอบได้ในเวลานั้น
“ครึ่งเป็นครึ่งตาย” ค่ำคืนวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 ค่ำคืนที่คล้ายจะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตทารกน้อย กุมารแพทย์แห่งเมืองพิษณุโลกกล่าวกับพ่อของทารกอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เราก็สุดความสามารถแล้วคุณพ่อ” ประโยคสะท้านทรวงสุดจะบีบหัวใจพ่อ ก่อนจะมองไปที่ร่างทารกน้อย ตัวผอมลีบร่างกายไร้เรี่ยวแรง ใกล้จะไปโลกหน้า ความคิดกรีดร้องใครจะยอมให้ลูกตาย พ่อรีบวิ่งกลับไปถามหมออีกครั้งว่า “ยังมีทางไหนที่จะช่วยลูกผมได้บ้าง” จนได้คำตอบจากหมอว่า “มีหมอคนหนึ่ง ที่วิจัยเกี่ยวกับทารกอยู่ แต่ต้องไปขอร้องเขา เพราะเค้าเป็นหมออยู่ที่กรุงเทพ ชื่อวันดี กุมารเวช โรงพยาบาลรามามหิดล” หลังสิ้นคำตอบพ่อสั่งให้แม่เฝ้าทารกน้อย ก่อนที่ตัวเองจะคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ขับตระเวนรอบเมืองพิษณุโลกเพื่อหา “สมุดหน้าเหลือง” ด้วยยุค 90’s สมัยที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์มือถือ สมุดหน้าเหลืองจึงเป็นหนทางเดียวในสมัยนั้นที่จะหาช่องทางติดต่อกับโรงพยาบาลในกรุงเทพได้ แต่เจ้ากรรมเมื่อเวลานั้นร้านค้าในตัวเมืองได้ปิดหมดแล้ว ต้องตระเวนเคาะเรียกทีละร้านจนกระทั่งโชคเข้าข้าง เมื่อมีอาแปะร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งยังไม่นอน ได้เปิดมาขายสมุดหน้าเหลืองให้ ก่อนจะรีบหาโบกรถรับจ้างเหมาไปยังที่ทำงาน แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ จ.กำแพงเพชร เพื่อจะเข้าไปใช้โทรศัพท์ที่มีอยู่เครื่องเดียวในไซส์งาน กว่าจะถึงก็เป็นเวลาดึกสงัดเสียแล้ว ห้วงคืนนั้นพ่อของทารกน้อยต่อสายหาโรงพยาบาลรามามหิดลจากสมุดหน้าเหลือง ผ่านไปหลายสายหลายแผนกหลายต่อหลายทอด จนได้เบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศแพทย์หญิงวันดี ทารกน้อยจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พ่อก็ไม่ทราบทำได้เพียงกระหน่ำเฝ้าโทรศัพท์กดโทรไปเรื่อย ๆจนกว่าคุณหมอวันดีจะมาทำงานที่ออฟฟิศ ช่างเป็นห้วงเวลาที่บีบคั้นหัวใจเหลือเกิน
ในที่สุด “เสียงสวรรค์” ช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ย. ค.ศ.1993 แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากกระหน่ำโทรไปตลอดคืน พ่อของทารกน้อยรีบแนะนำตัวก่อนจะแจ้งอาการของทารกน้อยให้ฟังด้วยความร้อนรน แพทย์หญิงวันดี ได้ถามกลับว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” พ่อรีบตอบกลับไปว่า “ผมโทรมาจากกำแพงเพชร ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพจะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมง จากกำแพงเพชรเข้าไปที่ จ.พิษณุโลก เพื่อรับลูกและจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยวถึงจะไปถึงกรุงเทพ” แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า “คุณไม่ต้องมาเด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงาน ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก” จากนั้นได้เริ่มบอก “สูตรอาหารผสม” และวิธีการรักษาเบื้องต้น ให้กับพ่อของทารกน้อยจดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน๊ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋าอย่างประณีต ก่อนจะโดดงาน รีบออกจากไซส์งานขึ้นรถเมล์มุ่งหน้ากลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที
“ปาฏิหาริย์ยามบ่าย” เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ รีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดี แกะออกก่อนนำใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอในทันที แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกยังคงสภาพไม่สิ้นใจ “เหมือนจะได้ผล” พ่อจดทุกอากับกริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซส์งานเพื่อโทรศัพท์หาหมอ การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัดเพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้นทุก 7 โมงเช้า ของทุกวัน “ตลอด 3 เดือน”แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างาน รอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อตามติดรักษาอาการและปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนเด็กทารกน้อย “ฟื้นชีพ” ดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง หายเป็นปกติในที่สุด
“สายสุดท้าย” ปลายเดือนมกราคม ค.ศ.1994 พ่อรายงานอาการของทารกน้อยให้หมอวันดีฟังอย่างเช่นทุกๆวัน ก่อนเสียงปลายสายของหมอตอบกลับ “ยินดีด้วยนะลูกคุณหายแล้ว” ภาพไซส์งานเบื้องหน้าพ่อของทารกน้อยขาวโพลนทันใด เสียงเงียบก็เข้าครอบคลุมสายโทรศัพท์ทั้งสองฝ่าย เข้าสู่อารมณ์เอ่อล้นที่ยากจะพรรณนา แม้สัมผัสได้แต่เพียงเสียงปลายสาย แต่ภาพมรสุมกว่า 3 เดือนไล่ย้อนไปเป็นฉากๆ จนปากพูดอะไรไม่ออก “ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไง” ไม่เพียงไม่รู้จัก ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า และหมอท่านนี้ก็ไม่ได้แม้แต่ผลตอบแทนใดๆ แล้วจากไปด้วยคำทิ้งท้ายสั้นๆ “ดูแลลูกให้ดี ขอให้โตมาเป็นเด็กดีนะ ขอให้โชคดี”และสายก็ถูกตัดไป แต่เสียงยังตราตรึงใจ ไม่รู้ลืมไปตลอดกาล “กระดาษโน้ตความทรงจำ” รายละเอียดการรักษาพ่อยังคงเก็บไว้ในกล่องเป็นอย่างดีจนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน จนเด็กทารกน้อยคนนั้นเติบโตขึ้นย่างเข้าวัย 32 ปี ระหว่างกลับไปเยี่ยมพ่อของเขาในช่วงวันหยุด ก่อนจะสะดุดสายตากับกล่องพิลึกพิลั่นในห้องของพ่อ เปิดออกมาดูพบกระดาษโน้ตเก่าๆหลายแผ่นชวนฉงนใจ “พ่อ..พวกนี่คืออะไร” หลังพ่อได้เห็นกระดาษโน้ตเก่าความทรงจำในอดีตพรั่งพรูก่อนเริ่มเล่าเรื่องราวอันสุดมหัศจรรย์กับการชุบชีวิตทารกน้อย ผ่านสายโทรศัพท์ของหมอเทวดาท่านหนึ่ง “หมอวันดี โรงพยาบาลรามา” พ่อเอ่ยชื่อก่อนทิ้งท้าย “ตอนนี้อยู่ไหนแล้วพ่อไม่รู้นะ น่าจะอายุมากแล้ว” จะทันไหมนะ ทารกน้อยในวัยหนุ่มครุ่นคิดในใจ
“ตามหาผู้มีพระคุณ” ทารกน้อยในวัยหนุ่มออกตามหาหมอวันดีที่โรงพยาบาลรามาฯ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าท่านได้เกษียณไม่ได้มาทำงานเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว
….“ตามหาผู้มีพระคุณ” ทารกน้อยในวัยหนุ่มออกตามหาหมอวันดีที่โรงพยาบาลรามาฯ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าท่านได้เกษียณไม่ได้มาทำงานเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว จนต้องออกตระเวนถามหาบ้าน จนได้มาถึงหน้าบ้านเก่าๆสุดสมถะ บรรยากาศสุดเงียบสงบ “มีใครอยู่ไหมครับ” หลังสิ้นเสียงเรียก เงาหญิงชราเคลื่อนไหวรางๆเป็นเงาสะท้อนออกมาจากประตูบ้าน ก่อนเปิดออกมาด้วยใบหน้าอันสงสัย “มาหาใครคะ” น้ำเสียงหญิงชราอันแสนเมตตาขยับเข้ามาใกล้ๆ ครั้งได้สบตาอากับกริยาสุดแสนใจดีทำให้ทารกน้อยวัยหนุ่มเข่าทรุดติดพื้นก้มลงกราบโดยอัตโนมัติก่อนบอกกับหมอที่อยู่ในอาการงุนงงว่า “ไม่รู้หมอจะจำผมได้มั้ย ผมคือเด็กที่หมอช่วยชีวิตผ่านโทรศัพท์เมื่อ 32 ปี ก่อน พ่อผมเล่าให้ฟังตอนผมไปเจอกระดาษโน้ตอันนี้ ที่ท่านบอกสูตรผสมกับวิธีการรักษาให้พ่อผม ทำให้ผมรอดตาย” หมอวันดีหยิบกระดาษโน๊ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจก่อนกล่าวว่า “นี่มันสูตรของชั้นจริงๆด้วย….ขอให้มีความสุขความเจริญนะ แล้วตอนนี้หนูเป็นอะไร” ทารกน้อยวัยหนุ่มกล่าวตอบ “ผมเป็นตำรวจอยู่นครบาลครับ” ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสืบนครบาลตัวเก่งให้กับหมอวันดีโดยไม่ลังเล “เสื้อนี้มีค่าสำหรับผมมากครับ ผมขอให้หมอไว้นะครับ ถ้าไม่มีหมอผมคงตายไปแล้ว” หมอวันดีคลีเสื้อดูก่อนบรรจงอ่านตัวอักษรบนเสื้อก่อนกล่าวว่า “ขอมอบให้ 9 ชีวิตเลยนะ ขอให้ปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นคนดีช่วยเหลือคนอื่นๆนะลูก ขอบใจนะที่คิดถึงกัน” หมอเทวดาในร่างหญิงชราค่อยหันหลังและเดินกลับเข้าบ้านไปพร้อมๆสายลมที่พัดเบาๆ พาใบเอาไม้ปลิวว่อน ภาพเบื้องหน้าความรู้สึกชวนให้ทารกน้อยวัยหนุ่มน้ำตาคลอ เสมือนเวลาได้ถูกหยุดลงที่หน้าบ้านของหมอวันดี “ทารกน้อยจากแดนไกล” ปัจจุบันคือ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือสารวัตรแจ๊ะ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. เกิดมาพร้อมอาการป่วยออด ๆแอดๆและแพทย์ในจังหวัดพิษณุโลกได้วินิจฉัยว่าเป็นโรค “โลต้าไวรัส” แต่การรักษาไม่ดีขึ้นจนสภาพร่างกายลีบแห่งใกล้เสียชีวิต เพราะแท้จริงเป็น โรคอุจจาระร่วงจากสารอาหารที่เข้มข้นในลำไส้ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยนั้น แต่ได้รับการรักษาจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงวันดี วราวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคนี้โดยตรง “ผ่านทางโทรศัพท์” ซึ่งได้รักษาด้วยการให้สูตรอาหารผสมที่มีส่วนผสมของเกลือแกงและน้ำตาลทรายทำให้สารวัตรแจ๊ะจนรอดตายอย่างปาฏิหารเมื่อปี ค.ศ.1993 ต่อมา แพทย์หญิงวันดีฯ ได้วิจัยพัฒนาจนกลายเป็น “ผงวันดี” หรือ “วันดีรามา ORS” หรือที่เรียกว่า ผงน้ำตาลเกลือแร่ สารช่วยทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ ใช้รักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลัน ซึ่งคิดค้นมาจากการสังเกตุว่าคนไข้โรคอุจจาระร่วงจำนวนมากมักชักและตายอย่างรวดเร็วเพราะการที่ได้สารน้ำที่เข้มข้นเกินไป ซึ่งการคิดค้นสูตรของ แพทย์หญิงวันดีฯ ผลออกมาเป็นที่ยอมรับและใช้ได้ผล มีการนำเสนอผลงานนี้ทางเวทีวิจัยระดับนานาชาติจนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และที่สำคัญท่านได้ช่วยชีวิตคนมามากมาย “นับไม่ถ้วน” ขอสดุดีจิตวิญญาณ “หมอเทวดา” แพทย์หญิงวันดี วราวิทย์ แอดมินฟันหนู เรียบเรียง/พิมพ์- เครดิต พญ.นิลวรรณ ยงสมิทธ์ ที่นำมาเสนอคุณความดีของ ศ.พญ.วันดี วราวิทย์ ในกลุ่มไลน์ Social tpaa.us

East Coast USA#6..@@@……….บินเดี่ยว คุณจุฑามาศ อรรถเศรษฐ เดินทางกลับมาท่องเที่ยวเมืองไทยคราวมาตามคำเรียกร้องของเพื่อน ๆ ร่วมงานที่บอกว่าอยากจะมาเที่ยวเมืองไทยแต่ไม่ไม่สะดวกขณะทำงาน ตอนนี้เกษียณกันแล้วเลยถือโอกาสลุยเมืองไทยด้วยกัน โดยคุณจุฑามาศ รับเป็นมัคคุเทศก์ นำท่องเที่ยวเมืองไทยไปหลายจังหวัด ภาพแรกขณะไปเที่ยว จ.กาญจนบุรี ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกริมฝั่งแม่น้ำ และ ภาพถัดไป เที่ยวชมน้ำตกเอราวัณ และล่องใต้ไปเที่ยวเกาะ สเม็ดนางชี ที่ จ.พังงา. ในภาพที่น้ำตกเอราวัณจากซ้าย คุณจุฑามาศ อรรถเศรษฐ,คุณ Lisa Kennedy.คุณDixie Gauss และคุณ Bonie. Greggerson

East Coast USA#7..@@@………. โพสต์เตอร์ประชาสัมพันธ์ จากสถานเอกอัครราชทูตไทย(สอท.) ณ กรุงวอชิงตัน,ดีซี. แจ้งภัยจากมิจฉาชีพ ทางสอท.แจ้งว่าหากผู้ใดได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพ อย่าตอบอะไร ให้ตัดสายทิ้งไปเลย และแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นของท่าน หรือ ติดต่อ FBI’s Internet : The Royal Thai Embassy urges the public to be wary of these fraudulent calls and to immediately end the phone call. If you receive such suspicious call, please report it to your local law enforcement authorities and submit a complaint through the FBI’s Internet Crime Complaint Center (IC3) at https://www.ic3.gov.
For further information:
-The Consular Section: Tel. 202-944-3600 or 202-684-8493 Ext. 401 or Email [email protected]
-Protection of Thai Nationals: Tel. 202-640-5671 or Email [email protected]
The Royal Thai Embassy advises the public to exercise caution and to inform your friends and family in order to prevent falling victim to these widespread scams, which have been reported not only in the United States but also in multiple countries worldwide.
The Embassy is currently working with the telephone service provider to address this phone number spoofing, in which the scammers manipulate the caller IDs to display the Embassy’s official main phone number.
Royal Thai Embassy, Washington, D.C.
March 5, 2025
@@@……….เมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์กได้จัดงาน “Thai Consulate & NYPD Get-Together” ณ อาคารที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อแสดงความขอบคุณและกระชับความสัมพันธ์กับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์กที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ ของสถานกงสุลใหญ่ฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื้อสายไทยที่เป็นหนึ่งในพลังสำคัญในการดูแลคุ้มครองชุมชนไทยมาโดยตลอด ในโอกาสนี้ นางสาวสมใจ ตะเภาพงษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ได้กล่าวต้อนรับและชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ทุ่มเทปฏิบัติงานและให้ความร่วมมือในการประสานงานต่าง ๆ เป็นอย่างดี พร้อมทั้งได้บอกเล่าถึงภารกิจโดยสรุปของสถานกงสุลใหญ่ฯ รวมถึงแนะนำบุคลากรของสถานกงสุลใหญ่ฯ และผู้แทนจากคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เพื่อประโยชน์ในการประสานงานระหว่างกันต่อไป คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์กที่ร่วมงานในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยประสานงานคณะทูต หน่วยชุมชนสัมพันธ์ สถานีตำรวจเขต 17 ที่กำกับดูแลพื้นที่ที่ตั้งของสถานกงสุลใหญ่ฯ และผู้แทนตำรวจเชื้อสายไทยที่ปฏิบัติภารกิจประจำหน่วยต่าง ๆ รวมทั้งหมด 16 นาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื้อสายไทยถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้แทนของชุมชนไทยและชาวเอเชียในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับชุมชนไทย และเป็นตัวเชื่อมสำคัญระหว่างตำรวจนครนิวยอร์กกับภารกิจช่วยเหลือดูแลคนไทยที่อาจมีอุปสรรคด้านการสื่อสาร
@@@……….เมื่อเวลา 12.00 น. วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ที่ทำการเมืองปอร์โตปาโล จังหวัดซีการูซา เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี Mrs .Rachele Rocca นายกเทศมนตรีเมืองปอร์โตปาโล ให้การต้อนรับ คณะสงฆ์จากประเทศไทย นำโดย พระวิจิตรธรรมภาณี เจ้าอาวาสวัดฟลอริดาธรรมาราม และประธานองค์กรเดินเพื่อสันติภาพโลก (walk for world peace ,inc.) พระสุธรรม ฐิตธมโม เจ้าอาวาสวัดอุษาพุฒยาราม นครนิวยอร์ก ผู้ริเริ่มโครงการเดินสันติภาพโลก รวม 10 รูป ในโอกาสเตรียมความพร้อมก่อนเดินเพื่อสันติภาพโลก ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 นี้โดยเริ่มเดินจากตอนใต้สุดของประเทศอิตาลี ไปจนถึงเมือง Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดย Mrs .Rachele Rocca เผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้ต้อนรับ คณะพระธุดงค์เดินสันติภาพโลก โดยชาวเมืองปอร์โตปาโล ยินดีให้การต้อนรับ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นเมืองแรก ที่ลงนาม ในปฏิญญา ประกาศ เป็น “ดินแดนแห่งสันติภาพ” พร้อมกันนี้ยินดีที่จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลความปลอดภัยตามเส้นทาง ตลอดการเดินเพื่อนสันติภาพโลก ขณะที่พระวิจิตรธรรมภาณี กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกเทศมนตรีเมืองปอร์โตปาโลที่ให้การต้อนรับคณะสงฆ์เป็นอย่างดี ซึ่งการเดินในครั้งนี้ ก็เพื่อส่งสันติสุขภายในจิตใจ เพื่อก่อให้เกิดสันติภาพโลก เพราะปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า สงครามที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนทุกข์ใจ ขณะสภาวะเศรษฐกิจก็อยู่ในขั้นวิกฤติ พร้อมเชิญชวนคนไทยในอิตาลี รวมทั้งชาวต่างชาติเข้าร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น.บริเวณลานชายฝั่งเมืองปอร์โตปาโล ซึ่งถือเป็นจุดใต้สุดของประเทศอิตาลี

@@@……….เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568/2025 ที่ผ่านมา คริสตจักรชาวไทยนิวยอร์ก ยองเกอร์ นครนิวยอร์ก นำโดย ศจ.ดร.สมบุญ เทศน์สาลี ได้จัดนมัสการฉลองครบรอบ 34 ปีของคริสตจักร โดยในปีนี้มีพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งหลายกลุ่มคณะ หลายองค์กร และหลายศาสนา มาร่วมสนับสนุนเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยเฉพาะแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานราชการที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีกับคริสตจักร โดย นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก คุณชนิกานต์ ชัยพุฒิ นักการทูตชำนาญการ (ที่ปรึกษา) คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายขันทอง เนื้อนวล รองกงสุลใหญ่ฯ กงสุลเกศสุดา ทองนะ ได้ให้เกียรติมาร่วมงาน และคณะรำจากหลายกลุ่มมาร่วมเผยแพร่ และเป็นสื่อกลางของศิลปะวัฒนธรรมไทยแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างบรรยากาศแบบไทยๆ ที่เต็มล้นด้วยมิตรภาพ สันติสุข และพระพรมากมาย
@@@……….งานนมัสการฉลองครบรอบ 34 ปีของคริสตจักรชาวไทยนิวยอร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568 ทีม ณาราไทยแดนซ์ (Nara Thai Dance) ได้ร่วมการแสดง รำเบิกโรง ระบำเทพบันเทิง โขนยกรบ และการบรรเลงดนตรีไทย ภายใต้การควบคุมการแสดงและเครื่องแต่งกายโดย ครูหงอ อำนาจ จาตุประยูร รายชื่อผู้แสดงมีดังต่อไปนี้ การแสดงโขนชุดยกรบ ครูอำนาจ จาตุประยูร แสดงเป็นหนุมาน นายโชคชัย คุณวรเวทย์ แสดงเป็นทศกัณฑ์ นางสาวเคเรน ธนปราการตระกูล แสดงเป็นพระราม นางสาวญาณิน ธรรมรังษี (ย่าหยา) แสดงเป็นพระลักษณ์ นางสาวอารดา แซ่ตัน (เอย) แสดงเป็นองคต การแสดงรำเบิกโรง โดย นายสุริยา สุขสนธิสมบูรณ์ (บ็อบบี้แบงค์) นางสาวณัฐนิษฐา สุพรรณรัตน์ภร การบรรเลงดนตรีไทยโดยทีมนักแสดง ณาราไทยแดนซ์ และขอขอบคุณ ครอบครัว ธรรมรังสี ผู้ดูแลการแสดง สถานที่ซ้อม พวกเราทำด้วยใจรัก ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ใจรักมาพร้อมด้วยความรัก จากเราสู่คนดู #newyork #โขน #โขนนิวยอร์ก #khon #khonthailand #โขนยกรบ #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #thaidance
@@@……….เมื่อวันอังคารที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๘ วัดพุทธไทยถาวรวนาราม ควีนส์ นครนิวยอร์ก จัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระเดชพระคุณพระเทพวิมลญาณ (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ อดีตรองเจ้าคณะภาค ๙ (ธรรมยุต) อดีตประธานมูลนิธิศาลาพระราชศรัทธา อดีตประธานดำเนินงานก่อสร้างวัดพุทธไทยถาวรวนาราม นครนิวยอร์ก และวัดป่าศรีถาวร นครฮิ้วส์ตัน ในวาระครบ ๗๓ ปี ชาตกาล แห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อ อันเป็นวันบูรพาจารย์ โดยมี พระครูวิทูรธรรมประกาศ เจ้าอาวาส วัดพุทธไทยถาวรวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ คุณวีรชาติ คุณวรรณี โภคพูนพิพัฒน์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีศิษยานุศิษย์ร่วมบุญกันโดยพร้อมเพรียง
@@@……….เมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 09:00 น. คุณสิทธิชัย เกื้อเกียรติงาม ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ถนนรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพมหานคร ศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร รุ่น 21 ประธานรุ่น พ.พ. 21 ประธาน พ.พ. รวมใจ ประธานจัดสร้าง “ศิลาจารึก” อาจารย์ธวัลพร อยู่แย้มศรี อาจารย์ที่ปรึกษา ได้นิมนต์ พระราชภาวนาวชิราจารย์ ปรีชาวรญาณสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีสถิต ณ วัดประดู่พระอารามหลวง จังหวัดสมุทรสงคราม มาประกอบพิธีเปิดศิลาจารึก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวพณิชยการพระนครและบุคคลทั่วไป และได้รับเกียรติจาก ดร.พรธรรม ธรรมวิมล ผู้อำนวยการกลุ่มภูมิสถาปัตยกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลาปากร ซึ่งเป็นผู้ออกแบบลานพระอนุสาวรีย์เป็นรูปหัวเรือ เป็นประธานในพิธี”พ.พ.รวมใจ” ขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องในโครงการศิลาจารึกทุกท่าน และขอแจ้งที่มาของการทำศิลาจารึกให้ศิษย์เก่าฯ ได้ทราบดังต่อไปนี้
เพื่อเทิดพระเกียรติเสด็จพ่อฯ และจารึกเรื่องราวให้ลูกหลานเสด็จพ่อฯ ได้ศึกษาทราบความเป็นมา จึงได้จัดสร้างศิลาจารึกขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก
1. สมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร ในวาระคุณจุลินทร์ รังษีสิงห์พิพัฒน์ เป็นนายกสมาคม อนุมัติเงินสมทบการสร้างศิลาจารึก 50,000.- บาท
2. เงินได้มาจากการขายเสื้อ พ.พ. รวมใจ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
3. พ.พ. รวมใจ ได้รวบรวมสนับสนุนเงินส่วนตัวของแต่ละคนตามกำลัง
ขอขอบคุณ
1. กรุงเทพมหานครที่เห็นความสำคัญและอนุญาตให้ติดตั้งศิลาจารึก ซึ่งจะเป็นสมบัติสาธารณะเพื่อประโยชน์ทางประวัติศาสตร์ต่อไป
2. ดร.พรธรรม ธรรมวิมล ผู้ออกแบบลานพระอนุสาวรีย์รูปหัวเรือ ที่ได้กรุณาแนะนำจุดสถานที่ที่ตั้งศิลาจารึกที่เหมาะสมให้
3. อดีตนายกสมาคม คุณจุลินทร์ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ที่ได้ช่วยประสานงานสำหรับการติดตั้งศิลาจารึกในครั้งนี้
4. ทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนทั้งกำลังทรัพย์และให้กำลังใจในการจัดทำศิลาจารึก
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักศิลาจารึกนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร และอยู่คู่ลานพระอนุสาวรีย์เสด็จพ่อฯ ไปตลอดตราบนานเท่านานผ่านไปอย่างราบรื่น แต่ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติเสด็จพ่อฯ ทุกท่านที่ได้ไปร่วมพิธีเปิด “ศิลาจารึก” ล้วนแต่ยินดีและชื่นชมในความตั้งใจจริงของพวกเรา “พ.พ. รวมใจ” และศิลาจารึกนี้จะถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ที่พวกเราตั้งใจทำเพื่อเทิดพระเกียรติเสด็จพ่อฯ และชื่อของ “พณิชยการพระนคร” ให้คงอยู่คู่สังคมตลอดไป
เซียงเงี้ยบบบบบบบบบบ…ฮ้อ
ชิคาโก@@@….เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 นางนาฎนภางค์ ดำรงสุนทรชัย รองกงสุลใหญ่ รักษาการกงสุลใหญ่ และคู่สมรส นางอุราสี ถิรตั้งเสถียร เจิง กงสุล พร้อมด้วยนางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก และคู่สมรส และนางสาวอโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชิคาโก ได้เข้าร่วมงานประจำปีของ Asian American Coalition of Chicago (AACC) ครั้งที่ 42 ณ โรงแรม Hyatt Regency O’ Hare รัฐอิลลินอย
AACC เป็นพันธมิตรของชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียประเทศต่างๆ 16 ประเทศ รวมทั้งชุมชนไทย โดยประเทศสมาชิก AACC จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดงานประจำปี ซึ่งในปี 2568 นี้ ชุมชนที่เป็นเจ้าภาพได้แก่ Indonesian American Community
ภายในงานฯ มีการมอบรางวัลแก่ชุมชนชาติสมาชิก ให้แก่บุคคลที่มีความโดดเด่นในการดำเนินกิจกรรม หรือการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ (Exemplary Community Service Awards) และรางวัลสำหรับเยาวชน (Youth Who Excels Awards) โดยผู้แทน ชุมชนไทยและเยาวชนไทยที่ได้รับรางวัลฯ ประจำปีนี้ ได้แก่ นายอิสรพงศ์ บรรณประดิษฐ์ (Issarapong Bannapradist) และนางสาวณัทภัค จันทร์แก้ว (Nattapak Chankaew) ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ขอแสดงความขอบคุณ คณะผู้ร่วมจัดงานฯ และผู้แทนจากชุมชนชาติต่างๆ รวมทั้งขอแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัลของ AACC ในปีนี้ทุกท่าน มา ณ ที่นี้
ชิคาโก@@@…โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดธัมมาราม นครชิคาโก จัดพิธีไหว้ครู เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อุโบสถ์ วัดธัมมาราม นครชิคาโก พระครูปลัดเดชา กวิวํโส เลขานุการวัดธัมมาราม และพระมหาสมคิด คมฺภีรเมธี ให้โอวาทเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คณะครูอาสา คณะครูประจำการ และเด็กนักเรียน ตลอดจนคณะผู้ปกครองให้มีความสุข ปลอดภัย ไม่ป่วยไม่ไข้ จะได้มาเล่าเรียนอย่างสม่ำเสมอ เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นตลอดไป
@@@…ในภาพ 25 และ 26 กุมภาพันธ์ 2568 (ในภาพ 1-2) คุณสำเริง ปิติกะวงษ์ให้กับสมาคมเอเชียแห่งรัฐอิลลินอยส์ ไวยาวัจกรวัดธัมมาราม นครชิคาโก และคุณแสงจันทร์ สุภัณวงศ์ นำเสนอการสมาคมเอเชียแห่งรัฐอิลลินอยส์ … จ.อุบลราชธานี ( โปรดดู 3 ) มอบอุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณจ. อุบลราชธานี
ชิคาโก@@@…บุญประเพณี ฟังเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ทุกวันอาทิตย์ ตลอดเดือนมีนาคม 2568 ณ วัดพุทธธรรม นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยในสัปดาห์แรกได้รับความเมตตาจาก พระมหาแสงเพชร สุทฺธิจิตฺโต, ป.ธ.9 (รักษาการเจ้าอาวาส) ขึ้นแสดงธรรมในกัณฑ์ที่ 1 ทศพร, กัณฑ์ที่ 2 หิมพานต์ และกัณฑ์ที่ 3 ทานกัณฑ์
ทางวัดพุทธธรรมขออนุโมทนาบุญกับญาติโยมท่านเจ้าภาพทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ ด้วยอานิสงส์แห่งบุญกุศลทั้งหลายนี้ ขอจงช่วยเกื้อหนุนให้ญาติโยมท่านเจ้าภาพทุกท่าน พร้อมด้วยครอบครัว จงประสบแต่ความสุขความเจริญ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคาพยาธิ แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง มีอายุยืนยาว ร่ำรวยๆ สมความมุ่งมาดปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจไว้ดีแล้วทุกประการ และเจริญในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งๆ ขึ้นไป เทอญ
ชิคาโก@@@…เป็นประจำ 26 กุมภาพันธ์ 2568 คุณสุมาลี รัตนาวานิช – คุณอารต์ บุญมา เพื่อถวายภัตตาหารเพลคณะสงฆ์วัดธัมมาราม นครชิคาโก ต่อเนื่องในโอกาสครบ 50 วันอุทิศให้กับคุณปราโมทย์ โสภณ (น้องชาย) ณ อุโบสถวัดธัมมาราม นครชิคาโก พี่เพื่อนและน้องๆจากกลุ่มสว. มาร่วมเป็นกำลังใจในการกุศลเป็นประจำทุกปีกันอย่างอบอุ่น

ลอส แอนเจลิส .#1… @@@…….…นสพ. วอลสตรีทเจอร์นัล อ้างแหล่งข่าวในทำเนียบขาวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามคำสั่งบริหาร ให้ “ภาษาอังกฤษ” เป็นภาษาประจำชาติสหรัฐอเมริกา หากหน่วยงานรัฐฯ จัดทำเอกสาร “ภาษาอื่น” ก็อาจถูกตัดงบช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยทรัมป์ จะลงนามในคำสั่งบริหารในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เพื่อกำหนดให้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติของอเมริกา แต่จนถึงช่วงค่ำก็ยังไม่มีการลงนาม สาเหตุที่ทำเนียบขาวสนับสนุนให้ “อเมริกามีภาษาเดียว” จะทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว (unity) ทำให้การปฏิบัติงานของรัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นลู่ทางให้เกิดการมีส่วนร่วมของพลเรือน (civic engagement) มากขึ้นด้วย มีความพยายามผลักดันร่างกฎหมายชื่อ The English Language Unity Act ในคองเกรสมาตั้งแต่ปี 2005 แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ แม้ว่าขณะนี้ มีถึง 31 รัฐของสหรัฐอเมริกา (รวมถึงแคลิฟอร์เนีย) มีกฎหมายกำหนดให้อังกฤษเป็นภาษาประจำรัฐฯ อยู่แล้วก็ตาม
ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกามีการใช้ภาษาต่างๆ มากกว่า 350 ภาษา โดยภาษาที่มีการใช้อย่างแพร่หลายที่สุดรองจากภาษาอังกฤษคือ สแปนิช, จีน, ตากาล็อก, เวียดนาม และอาราบิก นอกจากภาษาจากต่างประเทศแล้ว อเมริกายังมี “ภาษาพื้นเมือง” ที่ยังคงใช้อยู่อีกหลายภาษา เช่น Navajo, Yupik, Dakota, Apache, Keres และ Cherokee เป็นต้น
สหรัฐฯเป็นแหล่งรวมของคนหลายชาติหลายภาษาดังนั้นการใช้ภาษาอื่นควบคู่ไปด้วยจะทำให้ประชาชนเข้าใจง่ายขึ้นเช่นที่เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนียตามโรงพยาบาล สถานที่ทำงานต่างๆจะมีภาษาเขมรกำกับอยู่กับภาษาอังกฤษ เพราะมีชาวเขมรอาศัยอยู่เมืองนี้มาก หรือข้อสอบใบขับขี่ของรัฐแคลิฟอร์เนียมีภาษาไทยรวมอยู่ด้วย (เครดิต นสพ.สยามทาวน์ยูเอส)

ลอส แอนเจลิส .#2… @@@…….…ดิฉัน นางจีน่า ปรีชา ได้รับเกียรติอย่างสูงสุดในชีวิต ในการรับพระราชทานรางวัล “เสาเสมาธรรมจักร” ประจำปี 2567 ประเภทส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีพิธีเข้ารับพระราชทานฯในวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 ณ วัดประทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ขอกราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพวัชรสารบัณฑิต(เจ้าคุณประสาร) พระครูวิเทศกัลยาณธรรม,ดร. เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ยูเอสเอ เมืองชิโนฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และคณะกรรมการผู้ร่วมสนับสนุนทุกท่าน ที่ได้เมตตาเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลฯ ในครั้งนี้ จีนา ปรีชา เคยเป็นนายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้และเคยเป็นประธานสภาสตรีไทยแห่งแคลิฟอร์เนีย

ลอส แอนเจลิส .#3.. @@@…….……สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ขอเชิญประชาชนเข้ารับบริการกงสุลสัญจร ระหว่าง วันอังคารที่ 18 – วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ วัดธรรมคุณาราม เมืองเลย์ตัน รัฐยูทาห์ เลขที่ 644 E Gordon Ave, Layton, UT 84041

ลอส แอนเจลิส .#4.. @@@…….……แฟรงค์ บุลเนอร์ (นั่งกลางสวมหมวกขาว) คนเก่าแก่ของแอล.เอ. อีกคนวันเกิดครบ 85 ปี จัดเลี้ยงฉลองเมื่อวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2025ที่บ้านในเมือง Torrance กับพี่น้องชาวชมรมลีลาศได้คู่ชีวิต ดาริกา (แอน) บุลเนอร์ (นั่งซ้าย)เป็นแม่งาน ต้อนรับแขกเหรื่อทุกคนอย่างอบอุ่น ขออวยพรให้ พี่แฟรงค์ มีความสุขมากๆ มีสุขภาพที่แข็งแรง คิดสิ่งใดสมหวังดังใจปรารถนาในทุกๆ สิ่ง

ลอส แอนเจลิส .#5… @@@…….…เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 เป็นวันรวมญาติหรือFamily reunion 2025 ของครอบครัว “พันธ์แสง” ที่พี่ๆน้อง ๆ และหลานๆ มาร่วมพบปะ รับประทานอาหารกันที่ห้องอาหาร “เพลิน” ถนนวิภาวดี เหตุเพราะ วลัยพร พันธ์แสง (ยืนกลาง) เดินทางมาจากแอล.เอ.โอกาสและช่วงเวลาดีๆ แบบนี้หายาก ทำให้มีความสุข และปลื้มใจที่เห็นพี่น้องครอบครัว ยังรักกันและทำให้หัวใจอิ่มเอมด้วยความสุข

ซาน ฟรานฯ #1…@@@………..คุณพูลศรี-คุณอดิศักดิ์ อัศวโกวิท นิมนต์พระสงฆ์จากวัดหัวลำโพงมาฉันเช้าที่บ้านบางนาเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว

ซาน ฟรานฯ #2…@@@………..กลายเป็นพงศาวดารเรื่องของความรักที่รัชกาลที่ ๕ มีแก่พระมเหสี พระนางเรือล่ม เรื่องเศร้าสลดของพระมหากษัตริย์ไทยที่พระราชวังบางปะอิน.

ซาน ฟรานฯ #3… @@@………..บินกลับมาเมืองไทยครั้งนี้พี่ใหญ่พรรณี อุปฮาต ไปร่วมฉลองวันเกิดครบ 6 รอบให้น้องสาวคุณกาญจนา อุปฮาต ที่บ้านเมืองขอนแก่น สนุกสนานจนลืมวันลืมคืนเลย

ซาน ฟรานฯ #4…. @@@……….คุณสรินทร์ชยา พนาวิวัฒนาการ พาอดีตเพื่อนนักเรียนชั้น ป.1 ไปทานอาหารที่ร้าน GROOT HOTPOT ที่ถนนพุทธมณฑล สาย 3 ของลูกชาย ไบร์ท สิตราวัชร์-คุณแพน ธิดาญา อาหารร้านนี้ลูกค้าหิ้วตระกล้าเข้าไปตัดพืชผักปลอดสารพิษได้ด้วยตัวเอง ได้กินของดีๆเลือกได้ตามใจอยากปลอดภัยแก่ชีวิต…

ซาน ฟรานฯ #5…. @@@…………คุณสุวัฒน์ สินสาฏก (คนแรกด้านขวา)ผู้เชี่ยวชาญ ด้านตลาดการลงทุนอันดับต้นของประเทศไทย ให้เกียรติมาร่วมพูดคุย กับคุณสุภาวรรณ สงวนถ้อยคำ(ด้านซ้ายคนที่ 2) อดีตผู้จัดรายการวิทยุชื่อดัง และถัดไปคุณพิสมัย จันทน์ตรูผล ในบรรยากาศชื่นมื่นด้วยสาระความรู้รอบโลก.

ซาน ฟรานฯ #6…. @@@………..คุณดำเกิง เสพย์ธรรม หัวหน้าศูนย์ข่าว ที่นี่ยูเอสเอ เชิญเพื่อนเก่าๆอย่าง คุณพรพิไล+คุณอนุสรณ์ อัศวโกวิท, คุณกรรณิการ์+คุณพิศักดิ์ จักกะพาก รำลึกถึงความหลังเก่าๆหน้าสะพานโกเดนเกตใน TERMINAL 21 สุขุมวิท/อโศก-กทม. เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568

ทั่วทิศ USA #1.. @@@…………. บรรยากาศงาน “Thai Consulate & NYPD Get-Together” ซึ่งจัด ณ อาคารที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยกสญ.นครนิวยอร์ก สมใจ ตะเภาพงษ์ ได้กล่าวต้อนรับและชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ทุ่มเทปฏิบัติงานและให้ความร่วมมือในการประสานงานต่าง ๆ เป็นอย่างดี คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์กที่ร่วมงานในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยประสานงานคณะทูต หน่วยชุมชนสัมพันธ์ สถานีตำรวจเขต 17 ที่กำกับดูแลพื้นที่ที่ตั้งของสถานกงสุลใหญ่ฯ และผู้แทนตำรวจเชื้อสายไทยที่ปฏิบัติภารกิจประจำหน่วยต่าง ๆ รวมทั้งหมด 13 นาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื้อสายไทยถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้แทนของชุมชนไทยและชาวเอเชียในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับชุมชนไทย และเป็นตัวเชื่อมสำคัญระหว่างตำรวจนครนิวยอร์กกับภารกิจช่วยเหลือดูแลคนไทยที่อาจมีอุปสรรคด้านการสื่อสาร

ทั่วทิศ USA #2 … @@@…………เมื่อวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2568 กงสุล เกศสุดา ทองนะ (ที่ 2ซ้าย) และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ได้เดินทางไปจัดกิจกรรมกงสุลสัญจรครั้งที่ 1/2568 เพื่อให้บริการงานด้านการกงสุล ได้แก่ งานหนังสือเดินทาง งานบัตรประจำตัวประชาชน งานนิติกรณ์ งานทะเบียนราษฎร์ รวมถึงการให้ข้อมูล/การตอบคำถามเกี่ยวกับงานด้านการกงสุลแก่ชุมชนไทยที่พำนักอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีผู้มารับบริการรวมจำนวน 282 ราย การให้บริการกงสุลสัญจรครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากวัดนวมินทรราชูทิศเฉลิมพระเกียรติ เมืองเรย์นแฮม/บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ อย่างดียิ่ง

ทั่วทิศ USA #3…@@@……… ..วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568 ศาสนาจารย์ สมบุญ เทศน์สาลี และสมาชิกของโบสถ์ คริสตจักรชาวไทยรีฟอร์ม ยองเกอร์ เลขที่69 เชอเเมน อเวนิว ยองเกอร์ นิวยอร์ก ได้จัดงาน ครบรอบ 34 ปี ของโบสถ์คริสตจักรไทย โดยมี นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมเป็นเกียรติในงาน งานได้รับความร่วมมือจากชุมชนไทย ชุมชนนาฏศิลป์ไทย เเละนักเเสดงลูกหลายไทยอีกเป็นจำนวนมาก ผู้ที่มาร่วมงานมีทั้งที่นับถือศาสนาคริสต์ เเละ ศาสนาพุทธ

ทั่วทิศ USA#4…@@@………… วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ดร.ณัฏฐวรรณ สุดบรรทัด (ที่4 จากซ้าย) ในฐานะตัวแทนสมาคมไทยไลฟ์นิวยอร์คได้ร่วมพบปะพูดคุยกับชุมชนชาวจีนเพื่อเรียนรู้มาตราการใช้ชีวิตในสังคมหมู่มากที่หลากหลายและเพื่อป้องกันการเกลียดชังคนเอเชียจากกลุ่มอื่น ๆ โปรแกรมนี้จัดโดยสำนักนายกเทศมนตรีนิวยอร์ค “ Breaking Bread, Building Bonds ” ที่ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสันติสุข แม้ว่าต่างชาติต่างภาษา แต่อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นพื้นฐาน

ทั่วทิศ USA#5….@@@………….เมื่อวันที่ 23 กพ 2568 คุณสุจิตรา ปาลีวงศ์ ประธานศูนย์วัฒนธรรมไทยนิวยอร์ได้อนุญาติให้ใช้สถานที่ในศูนย์ฯ เพื่อการสอนและถ่ายแบบ mobile photography workshop เพื่อส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมไทยด้วยการถ่ายรูปจากมือถือ เพื่อให้คนไทยเป็นทูตวัฒนธรรมด้วยการถ่ายรูปให้สวยงามและข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าเรียนกิจกรรมของสมาคมไทยด้วย สมาคมไทยไลฟ์นิวยอร์คได้ร่วมสนับสนุนในการจัด กิจกรรมนี้ เเละได้รับการสนับสนุนจากองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนิวยอร์ มีผู้สนใจชาวไทยเข้าร่วมเรียนประมาณ 30 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพหรรษา .

.ทั่วทิศ USA#6…@@@……….. วัดป่าสันติธรรม เมืองแคร์รอลตัน รัฐเวอร์จิเนีย จัดทำบุญแสดง กัณฑ์เทศน์มหาชาติชาดก โดยจะเริ่มงานวันที่ 25 และ 26 มีนาคม 2568 กรุณาดูรายละเอียดจากแผ่นโพสต์เตอร์ประชาสัมพันธ์นี้