เพราะ….รัฐบาลคาดหมายว่า เมกะโปรเจกต์โครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยที่กำลังต่ำเตี้ยเรี่ยดินในเวลานี้ จะสามารถโป่งพองขึ้นมาได้ ทั้งเรื่องของการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท จะเกิดขึ้นแน่นอน
ยังมีเรื่องของรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1.19 แสนล้านบาท หรือทะยานไปถึง 2.38 แสนล้านบาททีเดียว แถมยังดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 5-10%
รวมไปถึงการจ้างงานเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 9,000 – 15,300 ตำแหน่ง เหนืออื่นใด… โครงการนี้ยังช่วยสร้างรายได้ให้รัฐอีกอย่างน้อยปีละ 12,037-39,427 ล้านบาท
จากข้อมูลเชิงเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลต้องการจะเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยแล้ว หากใส ๆ ก็เชื่อว่าหลายฝ่ายย่อมเห็นด้วยในเชิงของผลลัพธ์ที่ควรจะได้
เมื่อพูดถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ย่อมปฎิเสธไม่ได้ว่าต้องผนวกรวมเข้าไปกับเรื่องของ “กาสิโน” ที่ที่สังคมต่างแสดงความกังวล
โดยเฉพาะปัญหาเชิงสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมา ที่ต้องยอมรับความจริงว่าประเทศไทยกับเรื่องของการพนัน เป็นเรื่องที่หนีกันไม่พ้น ยิ่งในเวลานี้มีเรื่องของ “ทุนเทา” เข้ามาสมทบ
ความกังวลในเรื่องของการแปลงให้ประเทศไทยเป็น “แหล่งฟอกเงิน” อย่างถูกกฎหมาย จึงยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับสังคมไทย และกลายเป็นแรงปะทุขึ้นมาในเวลานี้
ต่อให้ในร่างกฎหมายเมกะโปรเจกต์นี้จะกำหนดสัดส่วนเพียงน้อยนิดที่ไม่เกิน 10% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด
รวมถึงกำหนดให้คนไทยที่จะเข้ามาใช้บริการต้องเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 5,000 บาท และต้องมีบัญชีเงินฝาก 50 ล้านบาท ต่อเนื่อง 6 เดือน ก็ตาม
แต่ข้อกำหนดเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้คนไทยทั้งประเทศสบายใจได้ว่า ปัญหาสังคมอีกสารพัดจะไม่เกิดขึ้น!!
เมื่อผสมโรงเข้าไปกับ “เกมการเมือง” เข้าให้อีก ความวุ่นวายในสังคมไทยจึงเตรียมบังเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากตลอดกว่า 1 ปี 6 เดือน ที่ประชาชนคนไทยได้ใช้ชีวิตเผชิญความยากลำบากตามวิถีปกติ
แต่!!จากความพยายามของรัฐบาลในครั้งนี้ ได้ทำให้บรรดาฝ่ายตรงข้ามที่เห็นต่าง ทั้ง เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) , กองทัพธรรม , กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)
เตรียมรวมตัวนัดชุมนุมลงถนนเพื่อคัดค้านเมกะโปรเจกต์ ของรัฐบาลนี้อีกครั้ง ที่บริเวณ เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ใกล้เคียงกับทำเนียบรัฐบาล ที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่สัญลักษณ์ของการชุมนุมคัดค้าน
กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันลงถนน ครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าโครงการของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รวมถึงพรบ.การพนันออนไลน์ ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของครม.อีกรอบในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะสร้างปัญหาต่อประชาชนโดยรวมและทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ
แม้ความเห็นของสังคมในเวลานี้จะ “เห็นต่าง” แต่ในความที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ก็เชื่อได้ว่าสุดท้ายแล้วร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะถูกผลักดันออกมาเป็นกฎหมายได้สำเร็จ
ทั้งที่ยังขาดความชัดเจนในด้านการดูแลป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายประเทศในเวลานี้ ที่เปิดให้บริการกาสิโนต้องเผชิญ
โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ จนทำให้ต้องทบทวนกฎระเบียบ และออกนโยบายต่อต้านการฟอกเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ทั้งที่มีกฎหมายหลายฉบับและหน่วยงานมากมายที่ทำหน้าที่ควบคุม กาสิโน และการฟอกเงินอยู่แล้วก็ตาม
เอาเป็นว่า… ณ เวลานี้ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการเจรจา ในการชี้แจง หรือมีเรื่องอื่นใด มาต่อรอง ตามเกมการเมือง เพื่อผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ออกมาให้ได้
แต่!! สิ่งที่รัฐบาลต้องชั่งใจให้หนัก!! ว่า รัฐบาลจะฝ่าฟันภัยคุกคามที่อาจทำให้ไทยขึ้นแท่นกลายเป็นแหล่งฟอกเงินได้แค่ไหน?
จากนี้ไป…ประชาชนคนไทย ก็ต้องรอดูว่าประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มีเงินเข้ากระเป๋า กับปัญหาสังคมที่ตามมานั้นจะชดเชยกันได้มากน้อยเพียงใด?
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”