จ.บุรีรัมย์ มีประชากร 1.57 ล้านคน แต่มี สว.มากที่สุด 14 คน จ.สุรินทร์ มีประชากร 1.36 ล้านคน มี สว. 7 คน จ.พระนครศรีอยุธยา มีประชากร 8.22 แสนคน มี สว. 7 คน จ.อ่างทอง มีประชากรแค่ 2.70 แสนคน แต่มี สว. 6 คน จ.สตูล มีประชากร 3.25 แสนคน มี สว. 6 คน จ.ศรีสะเกษ มีประชากร 1.45 ล้านคน มี สว. 5 คน จ.อุทัยธานี มีประชากร 3.22 แสนคน มี สว. 5 คน จ.สิงห์บุรี มีประชากร 2.01 แสนคน มี สว. 3 คน จ.นครนายก มีประชากร 2.63 แสนคน มี สว. 3 คน จ.พังงา มีประชากร 2.67 แสนคน มี สว. 3 คน

นี่คือตัวอย่างจังหวัดที่มี สว.ไปกระจุกอยู่มากอย่างน่าสังเกต! ทั้งที่ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดไม่ใหญ่ (ยกเว้น 3 จังหวัดภาคอีสาน) มีประชากรไม่มาก แต่ในเชิงลึกคือมีคนของพรรคการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือก สว. ช่วงกลางปี 67 บางจังหวัดมีเส้นทางการเงินชัดเจน พูดง่าย ๆ ว่าถ้า สว. ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ซ่องโจรฟอกเงิน อาจจะลามไปถึงคนของพรรคการเมือง และพรรคการเมืองด้วย!

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 67 “ดีเอสไอ” ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (เลขาฯ กกต.) ว่ามีผู้มายื่นเรื่องไว้ที่ดีเอสไอ จำนวน 3 คำร้อง เกี่ยวกับการคัดเลือกสว. ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อันอาจเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23/1 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ…………จึงขอแจ้งการรับเรื่องไว้สืบสวน มายังท่านด้วย

ต่อมา 18 .. 68 เลขาฯ กกต. ทำหนังสือถึงดีเอสไอ ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าดีเอสไอได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้วหรือไม่ จึงยังไม่ได้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา!

คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ว่าบทบาทหน้าที่ในกกต.นั้น มีคนอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ 1. กกต. 7 คน ที่มีนายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน กกต. มีบทบาทหน้าที่เหมือน ๆ กับ “อัยการ”

2.สำนักงาน กกต. ที่มีนายแสวง บุญมี เป็นเลขาฯ กกต. แล้วยังมีบทบาทหน้าที่เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง และเป็น “หัวหน้าพนักงานสอบสวน” ด้วย

ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ชอบมาพากล! แต่หัวหน้าพนักงานสอบสวน ไม่ชงเรื่องขึ้นไปให้ “7 กกต.” บรรดา 7 กกต. ก็ “ใบ้รับประทาน”

การร้องเรียนทุจริตฮั้วเลือก สว. ช่วงเดือน พ..-.. 67 ผ่านมาหลายเดือน และดีเอสไอได้แจ้งเรื่องไปตั้งแต่ 25 .. 67 “พยัคฆ์น้อย” จึงต้องถามไปยังนายอิทธิพรและ กกต.ทั้งคณะ ว่าเมื่อไหร่จะประเมินผลการทำงานของเลขาฯ กกต.? ได้ข่าวว่าเตรียม “แบบฟอร์ม” ประเมินผลงานนายแสวงไว้แล้วไม่ใช่หรือ? จะรอเวลาให้นายอิทธิพรพ้นจากวาระไปก่อนเพื่ออะไร?

พยัคฆ์น้อย” ฝากไปยังนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาฯ กฤษฎีกา ด้วยความเคารพว่าท่านคือฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลนะ! ส่วน “ดีเอสไอ” เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางอาญา แล้วเรื่องฮั้วเลือก สว. ที่กล่าวหากันว่าทำกันเป็นขบวนการใหญ่ มีคนเกี่ยวข้องมาก มีคนของพรรคการเมืองเข้ามาบริหารจัดการ!

ท่านคิดว่าสำนักงาน กกต. มีศักยภาพที่จะทำคดีนี้หรือ? ที่สำคัญเมื่อมีคนมาร้องเรียนทางอาญา “ดีเอสไอ” ลบเรื่องทางอาญา ออกจากสารบบไม่ได้! หรือท่านจะให้ตำรวจโรงพักต่าง ๆ ทำคดีฮั้วเลือก สว.?

ตำรวจโรงพัก” มีศักยภาพทำคดีอั้งยี่ซ่องโจร-ฟอกเงินหรือ? ก็ขนาด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งเป็น “บอร์ดคดีพิเศษ” ยังไม่มาร่วมประชุมเลย!!.

……………………………………..
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…