กลายเป็นอีกเผือกร้อน บนกระดานการเมืองไทย แม้ การเลือก สว. (สมาชิกวุฒิสภา)จะผ่านมา 8 เดือน เลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 แต่มาถูกจับตาอีกครั้ง พอมีกระแสหลุดว่า ปลายเดือน ก.พ.68 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะรับ “คดีฮั้วเลือก สว.“ เป็นคดีพิเศษ ตามที่มี กลุ่ม สว.สำรอง ไปยื่นเรื่องร้องทุกข์เอาไว้ จนทำเอา กลุ่ม สว. ถึงขั้นออกมาตั้งโต๊ะแถลงโต้ดุเดือด จ่อให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมยื่นฟ้องผู้มีเอี่ยวชงเรื่องสอบ รวมไปถึงจะยื่นซักฟอกถอดถอนรัฐมนตรี
แม้ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมกรรมการบอร์ด “ดีเอสไอ” พิจารณาคดี “ฮั้ว สว.” เป็นคดีพิเศษ มีมติเลื่อนออกไปก่อน ให้เหตุผลว่าต้องเชิญ กกต. เข้ามาชี้แจง แต่ก็ยังต้องจับตาเรื่องนี้แบบห้ามกะพริบ
ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวเดลินิวส์ เคยมีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว 1 ในกลุ่มบัญชี สว.สำรอง ผ่านทางรายการ DAILYNEWS TALK ช่องยูทูบเดลินิวส์ออนไลน์ พล.ต.ท.คำรบ (ตท.16/นรต.32) ประวัติรับราชการตำรวจกว่า 37 ปี ผ่านคดีสำคัญมาโชกโชน ก่อนจะเกษียณตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยังเป็น ผบช.สนง.พิสูจน์หลักฐานตำรวจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก คืนวันเลือก สว.ระดับประเทศ เมื่อไปเจอ “โพยกระดาษ” มีตารางเขียนตัวเลข ถูกขยำทิ้งไว้ในห้องน้ำ เมืองทองธานี พอเห็นความผิดปกติจึงนำโพยกระดาษไปให้ กกต. ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ให้ไปทำเรื่องร้องเรียนเอาไว้
อดีต ผบช.พฐ. ไม่เคยทิ้งแนวทางการสืบสวน ทุกอาชญา กรรม ย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอไม่มากก็น้อย นำมือถือมาถ่ายรูป โพยกระดาษที่ถูกขยำยับยู่ยี่ เก็บเอาไว้ ยิ่งมาเห็นความไม่ชอบมาพากลมากขึ้น พอเปรียบเทียบกับการลงคะแนน สว. พบ กลุ่มหมายเลขซ้ำ ๆ ตรงกันคะแนนโดดสูง ไม่น่าเชื่อ มีกว่า 100 คนได้รับเลือกตามโพย จึงพยายามร้องขอให้ กกต.อย่าเพิ่งประกาศรับรองผล ให้เปิดหีบเลือก สว.นำออกมาเทียบกับโพย เพื่อตรวจสอบมีการจัดตั้ง เกิดการบล็อกโหวต เลือกเป็นแพ็กเกจจริงหรือไม่?
มาตรา 62 กำหนดว่าหาก กกต. ประกาศผลการเลือก สว.แล้ว ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัคร หรือ ผู้ใดซึ่งไม่ใช่ผู้สมัคร กระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม กกต. สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นได้ อย่างไรก็ดี วันที่ 10 ก.ค.67 กกต. มีมติรับรองผลการเลือก สว. ประกาศผล รับรอง สว. 200 คน และสำรอง 99 คน ขณะที่ประเด็นร้องเรียน 47 เรื่องที่สังคมเรียกว่า ฮั้ว, บล็อกโหวต, จัดตั้ง กกต.ได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขอความร่วมมือกับ ตำรวจ, ดีเอสไอ และ ปปง. มาร่วมหาคนอยู่เบื้องหลัง
แต่เมื่อไม่มีความคืบหน้าออกมา ทำให้ กลุ่ม สว.สำรอง และ ผู้สมัคร สว. นำหลักฐานไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมที่ดีเอสไอ “โพยฮั้ว” ที่เก็บมาได้กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ จาก 1 โพย ขยับไป 4 โพย เพิ่มเป็น 10 โพย ดีเอสไอ ตั้งเลขสืบสวนที่ 151/2567 เดินหน้าสืบสวน บันทึกถ้อยคำให้การของพยาน และแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานอย่างเงียบ ๆ นาน 4-5 เดือน
การสืบสวนเชื่อว่า มีขบวนการรูปแบบคณะบุคคล จัดตั้งเครือข่าย ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้มาซึ่ง สว. วางแผนสลับซับซ้อน ทราบเฉพาะในกลุ่มขบวนการ นัดหมายทำโพยฮั้ว ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครนายก แจกเสื้อสีเหลืองให้ผู้สมัคร อำนวยความสะดวกโดยจัดหารถตู้รับส่งไปเมืองทองธานี มีผู้สมัครร่วมขบวนการกว่า 1,200 คน ผลการเลือกในรอบเช้าและรอบไขว้ เป็นไปตามโพยฮั้ว มีผู้ได้รับเลือก 138 คน สำรอง 2 คน
โพยเศษกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องน้ำ จะเป็น “หลักฐานชิ้นประวัติศาสตร์“ สร้างความเปลี่ยนแปลงในการเมืองไทยได้หรือไม่? การเลือก สว. แม้จะผ่านไป 8 เดือน ร่องรอยข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ บางอย่างยังพอสืบค้นได้ไม่ยาก โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นับจากนี้ ดีเอสไอ และ กกต.ใครจะเดินหน้าลุยไฟสอบสวนคดีโพยฮั้วเลือก สว.
เหนือสิ่งอื่นใด “กรรม” เกิดขึ้นจาก “การกระทำ” ใครก่อกรรมทำอะไรไว้ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี! ที่สำคัญจะกี่ยุคกี่สมัยเรื่องไม่คาดคิดวงการเมืองไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ย่างเข้าสู่หน้าร้อนอาจจะต้องปูเสื่อนั่งลุ้นกันแบบห้ามกะพริบตา!!.
………………………………………..
เชิงผา