ดูจากขนาดจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลกที่มีมากกว่า 1,500 ล้านคนในปัจจุบัน ประเทศไทยจึงน่าจะ “สร้างโอกาส” จาก “ตลาดสินค้าฮาลาล” ได้ ด้วยจุดแข็งต่าง ๆ ที่ไทยมี แต่อย่างไรก็ดีหากจะทำให้ไทยได้รับปัจจัยบวกและมีโอกาสจากตลาดนี้ ผู้ประกอบการไทยก็จำเป็นต้องมีกลยุทธ์เพื่อรุกสู่ตลาดดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งวันนี้คอลัมน์นี้มีข้อมูลนำมาให้พิจารณากัน
สำหรับแนวทางเรื่องนี้ที่คอลัมน์นี้นำมาสะท้อนต่อมาจากบทความหัวข้อ “ส่อง 5 สินค้าดาวรุ่งไทยในตลาดฮาลาลโลก” ที่เผยแพร่ใน วารสารอุตสาหกรรมสาร ฉบับที่ 2 ประจำปี 2567 จัดทำโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายด้านวัตถุดิบของไทยทำให้มีโอกาสที่จะแข่งขันในตลาดสินค้าฮาลาลได้มากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ตลาดฮาลาลขยับจากการเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม มาเป็นตลาดหลักจากการที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมเพิ่มขึ้น โดยสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการสร้างโอกาสได้นั้น จะประกอบไปด้วยสินค้า 5 ประเภท ดังต่อไปนี้
1.อาหาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์ สัตว์น้ำ ผัก-ผลไม้ และนม
2.แฟชั่น ตลาดแฟชั่นสำหรับชาวมุสลิม หรือ Modest Fashion กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผลสำรวจพบว่าชาวมุสลิมมีการจับจ่ายใช้สอยกับสินคาในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 6% และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี
3.เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ที่มีการขยายตัวของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการด้านนี้ของไทยจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ในตลาดได้ เพราะไทยมีจุดแข็งและศักยภาพที่ดีอยู่แล้ว
4.การท่องเที่ยวฮาลาล เนื่องจากไทยยังเป็นจุดหมายยอดนิยมด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นหากไทยสามารถสร้างสรรค์รูปแบบเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมได้ เช่น มีบริการที่สอดคล้องกับหลักศาสนา และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้ อาทิ ห้องละหมาด ห้องอาหารฮาลาล
5.เวชภัณฑ์ฮาลาล ผู้บริโภคชาวมุสลิมที่ให้ความสำคัญกับยาที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายชารีอะห์ ซึ่งผู้ประกอบการด้านนี้ของไทยก็มีศักยภาพมากพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าวได้ และนี่เป็นกลุ่มสินค้า 5 ประเภทของผู้ประกอบการไทยที่สามารถ สร้างโอกาส-สร้างเม็ดเงิน จาก “ตลาดฮาลาล” ได้
อย่างไรก็ดี แต่การจะเจาะตลาดนี้ได้ก็จำเป็นที่จะต้องเสริมในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เนื่องจากพบว่าสินค้าฮาลาลจากไทยยังต้องฝ่าด่านมาตรการต่าง ๆ อยู่พอสมควร รวมถึงต้องมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลิตภาพในภาคการผลิต ตลอดจนการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาลเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ แต่ก็ไม่น่าจะเกินความสามารถผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีของไทย ที่จะฝ่าด่านต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะมีศักยภาพที่ดีเพียงพออยู่แล้ว.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]
ขอขอบคุณข้อมูลจากวารสารอุตสาหกรรมสาร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม