เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ปัจจุบันผมอายุ 71 ปี เมื่อช่วงปลายปี 2561 เริ่มสังเกตว่าตัวเองมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยครั้งขึ้น กระหายน้ำ และดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ ต่อครั้ง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีน้ำหนักมากมาก่อน ที่สำคัญเกิดแผลง่ายมากและหายช้า จึงไปหาหมอหมอตรวจเลือดพบว่าเป็นเบาหวาน และก็ให้การรักษาด้วยการกินยาลดน้ำตาล
หลังจากนั้นได้ไม่นานองคชาตแข็งตัวได้แย่ลงจนไม่สามารถร่วมเพศได้ ซึ่งก่อนหน้าที่จะรู้ว่าเป็นเบาหวานนั้นอาการก็ยังพอใช้งานได้อยู่ แต่ก็มีบางวันมีแข็งตัวช้าและไม่แข็งเต็มที่ อาการที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่งผลกระทบต่อความสุขทางเพศแก่ผมเป็นอย่างมาก ไม่สามารถร่วมเพศกับภรรยาได้เลย ยิ่งภรรยาของผมอายุคราวรุ่นลูกเธอมีความต้องการทางเพศเหลือหลายแต่ผมกลับยิ่งแย่ลงไม่สู้ จึงอยากให้คุณหมอช่วยแนะนำยากินที่สามารถรักษาอาการที่เป็นอยู่ให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีเต็มที่ร่วมเพศกับภรรยาอาทิตย์หนึ่งสัก 1-2 ครั้งก็พอแล้ว
ด้วยความนับถืออย่างสูง
สมชาย
ตอบ สมชาย
ในปัจจุบันนี้การรักษาอาการอีดีด้วยยากินที่เป็นที่นิยมและเป็นยาอันดับต้น ๆ นั้นคือการใช้ยาในกลุ่มยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้อ่อนตัว ซึ่งใช้รักษาอาการอีดีไม่ว่าอาการอีดีนั้นจะเกิดจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม โดยพบว่าประมาณร้อยละ 70 เท่านั้นเมื่อใช้ยากลุ่มนี้แล้วสามารถทำให้สมหวังและสามารถร่วมเพศได้ แต่ในผู้เป็นเบาหวานนั้นอัตราความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์ลดลงอยู่ที่ร้อยละ 40-50 เท่านั้น
ซึ่งสาเหตุอาจจะขาดสารไนตริกออกไซด์ในหลอดเลือดที่อยู่ในองคชาตของกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานเอง หรืออาจเกิดจากระบบประสาทของผู้ป่วยเบาหวานผิดปกติ และการทำงานของเซลล์เอนโดธีเลียลผิดปกติไปจึงทำให้การรักษาด้วยยากินกลุ่มดังกล่าวเพียงอย่างเดียวทำงานได้ไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร จึงได้มีการใช้กรดโฟลิกมารักษาอาการอีดีในผู้เป็นเบาหวานร่วมด้วยเพราะกรดโฟลิกจะช่วยฟื้นฟูสภาพของเซลล์เอนโดธีเลียลให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติด้วยการไปเพิ่มความพร้อมทำงานของสารไนตริกออกไซด์ในผู้ที่เป็นเบาหวาน มีรายงานการวิจัยว่าการใช้กรดโฟลิกจะช่วยลดปฏิกิริยาออกซิเดชันในเส้นเลือด และยังสามารถลดระดับโฮโมซีสเตอีนในเลือดในรายที่มีระดับสูง ๆ ได้ ยังมีการศึกษาพบว่าได้มีการใช้ยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้อ่อนตัว ชนิดซิลเดนาฟิลเพียงขนานเดียวในการรักษาอาการอีดีเป็นเวลานาน 2 เดือนแล้วอาการไม่ดีขึ้น จึงได้มีการให้วิตามินบีหก และกรดโฟลิกเสริมนาน 6 สัปดาห์พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นจากคะแนนไอไออีเอฟที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการใช้ยากินกลุ่มยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้อ่อนตัว วันเว้นวัน ร่วมกับการเสริมด้วยกรดโฟลิกขนาด 5 มิลลิกรัมต่อวัน จะสามารถฟื้นฟูอาการอีดีในผู้เป็นเบาหวานได้ง่าย การแข็งตัวขององคชาตกลับมาแข็งตัวเต็มที่สามารถมีความสุขจากการร่วมเพศได้ดังเดิม การใช้ยาแต่ละชนิดในการรักษาอาการอีดีนั้นผู้ใช้ควรจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนถึงจะเกิดผลดีและปลอดภัยต่อตัวคุณมากที่สุด ที่ยึดมั่นข้อสุดท้าย คือ ฝึกให้แข็งตัวนาน 30 นาทีแล้วร่วมเพศได้ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็น อย่างมีความสุข.
ดร.โอ สุขุมวิท 51