@เริ่มต้นที่เรื่องของ”การเมือง” ที่เป็น”โค้งสุดท้าย” ของการเลือกตั้งผู้บริหาร” องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หรือ”นายก อบจ. และ สมาชิก อสจ.” ที่เรียกกันสั้นๆว่า” สจ.” ซึ่งจะมีการ”หย่อนบัตร”เพื่อการ”เลือกตั้ง” ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และก่อนการ “เลือกตั้ง” เพียง 5 วัน คนไทยที่อายุ 60 ปี ขึ้นไป ก็ได้รับการ”แจกเงิน”จาก”เพื่อไทย” คนละ 10,000 บาท ซึ่งถูกมองว่านอกจากเป็นการให้เงิน”แต๊ะเอีย” ในวัน”ตรุษจีน” ที่ตรงกันวันที่ 28 มกราคม 2568 แล้ว ยังมีนัยของการ”ขอคะแนนเสียง” ให้กับผู้ที่สมัครใน”ตำแหน่งนายก อบจ. ที่ส่งโดย”พรรคเพื่อไทย” หรือไม่ ประเด็นนี้คงจะ”ห้ามกันไม่ได้” ที่จะไม่ให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องเดียวกัน…..เพราะการ เลือกตั้ง”นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด” ครั้งนี้ ผิดกับทุกครั้ง เนื่องจาก”พรรคเพื่อไทย” ทำการ”ทุ่มสุดตัว” โดยมี”ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพ่อของ” แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” เป็น”หัวหมู่ทะลวงฟัน” ในการไป”ช่วยหาเสียง” ให้กับ”ผู้สมัคร” ในทุกพื้นที่ทุกเวทีแบบ”มีเดิมพัน” แม้ในบางพื้นที่ถูกมองว่าเป็นการ”ใช้มีดฆ่าโคไปฆ่าไก่” ก็ตาม แสดงให้เห็นว่า” ยุทธศาสตร์”ทาง”การเมืองของ”พรรคเพื่อไทย” คือการยึดพื้นที่เพื่อสร้าง”บ้านใหญ่” ผ่านการเลือกตั้ง”องค์การบริหารส่วนจังหวัด” เพื่อ”สร้างฐานที่มั่น” รอการเลือกตั้ง “ผู้แทนราษฎร” ใน”สมัยหน้า” ซึ่งไม่สามารถที่จะ”กำหนด”ได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ เพราะ”รัฐบาล” ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ” ยังมีปัญหาทั้ง”ภายใน” และ”ภายนอก” รุมเร้า เป็นจำนวนมาก…..
@ปัญหาภายใน คนภายนอกอาจมองเห็น”ไม่เด่นชัด” แต่ก็รู้ว่ามีการ”หักเหลี่ยม” และ”เฉือนคม” ให้เห็นผ่าน”หน้าสื่อ” อยู่ตลอดเวลา ระหว่าง”พรรคร่วม” ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”ที่ดินเขากระโดง” กับเรื่อง”ที่ดินอัลไพน์” นี่ก็เป็นเรื่อง”หักเหลี่ยม เฉือนคม” ระหว่าง”พรรคเพื่อไทย”กับ”ภูมิใจไทย”ที่ยังไม่จบง่ายๆ แม้ว่าฝั่งของ”เพื่อไทย” เรื่องที่ดิน”อัลไพน์ จะจบที่”ยกแรก” ด้วยการให้”กรมที่ดิน” ยกเลิก”โฉนดที่ดินของอัลไพน์” แต่ยังมี”ยกสอง” และ”ยกสาม” โดยเฉพาะใครจะเป็นคนรับผิดชอบ “ค่าเสียหาย” กว่า 7,700 ล้าน ที่ ติดตามมากับการ”ยกเลิกโฉนดที่ดิน” ในครั้งนี้ เช่นเดียวกับการ”บุกตะลุย”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ในการ”หาเสียง” ให้ผู้สมัคร”นายก อบจ. ที่”พรรคเพื่อไทย” ให้การ”สนับสนุน” ซึ่งหลายพื้นที่เป็น”ฐานที่มั่น”ของ”พรรคภูมิใจไทย” ที่หากถูก”ทักษิณ ชินวัตร” ใช้”กลยุทธ” ในการ”ยึดได้ทั้งหมด” ในการเลือก “สส.สมัยหน้า” ย่อมส่งผลถึงจำนวน สส.ของ”พรรคภูมิใจไทย” อย่างแน่นอน…..ที่ สำคัญ การ”ขับเคลื่อน”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” พ่อของ”นายกรัฐมนตรี” แพทองธาร ชินวัตร” ในฐานะ”ผู้ช่วยหาเสียง” ที่มี”ค่าตัว” วันละ 300 บาท แต่ สร้าง”กำไร” มหาศาล ให้กับ”พรรคเพื่อไทย” เพราะ”ทักษิณ ชินวัตร” ใช้ เวทีการหาเสียง”นายก อบจ.” เป็นการ”หาคะแนนเสียง” ให้กับ”พรรคเพื่อไทย”แบบ”ทางตรง” ที่มิใช่”ทางอ้อม” เช่นการ”ปราบปรามยาเสพติด” ซึ่งหลังจากที่”ทักณิณ ชินวัตร” ไปพูด”หาเสียง” บนเวลา”ปราศรัย” เพื่อช่วยผู้สมัคร”นายกอบจ.” หลังสิ้นคำปราศรัย” เฮียอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่”นายกน้อย” และ” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม” ก็ตอบรับอย่าง”รวดเร็ว” ประกาศในการแก้ปัญหา”ยาเสพติด” ให้ได้ภายใน 6 เดือน…..หรือ
@หลังจากที่”ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้น”ปราศรัยหาเสียง” ชี้เป้าในเรื่องของ”แก๊งค์คอลเซ็นเตอน์” ในประเทศ”เพื่อนบ้าน” ไม่ว่าจะเป็น” กัมพูชา,เมียนมา “ และ”สปป.ลาว” หน่วยงานที่เกี่ยวก็”เด้งรับ” และมีการ”จับกุม” อย่าง”รวดเร็ว” และ”เฮียอ้วนเจ้าเก่า” รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ภูมิธรรม เวชยชัย” ก็”แถลงข่าว” ตอบรับในทันที โดย”สั่งการ” ให้ ทุกหน่วยกำลัง ที่ “ปฏิบัติหน้าที่” ใน”แนวชายแดน” ทำการ”ซีลแนวชายแดน” ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป ทั้งหมดทำให้ “สังคมไทย” เห็นชัดยิ่งขึ้นว่า” ประเทศนี้คนเป็น”นายกรัฐมนตรีตัวจริง” คือ” ทักษิณ ชินวัตร” และคนที่เป็น” นายกน้อย” ในการรับ”คำสั่ง” และ”ปฏิบัติ”ตามคือ”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งหาก สองเรื่องใหญ่ๆ ที่เป็น”อภิมหาปัญหา” ของ”ประเทศไทย” มีการแก้ไขได้” ผลงาน” จะเป็นของ”พรรคเพื่อไทย” เพราะ”พรรคร่วม” ที่รับผิดชอบในปัญหานี้ ไม่มี”พรรคไหน” ที่จะใช้”กลยุทธ” แบบเดียวกับ”ทักษิณ ชินวัตร” ใช้การ”หาเสียง” ของการ”เลือกตั้งท้องถิ่น” หรือการ”เลือกนายก อบจ.” ในครั้งนี้ …..
@หรือแม้แต่การ”หาเสียง” ในเรื่องการของ”พลังงาน” การลด”ค่าไฟฟ้า” ให้เหลือ “หน่วยละ 3.70 บาท และการที่จะ”รื้อโครงสร้าง” ของ”ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง” ซึ่งทั้ง “สองเรื่อง” ก็เป็น”ปัญหา” ของ” เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” ของ”ประชาชน” เรื่องการ”ปรับโครงสร้างพลังงาน” แม้ว่า” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และ”รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน” จะเป็นผู้”นำเสนอก่อน” แต่ วิธีการ หรือ”กลยุทธ” ของ” เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” อย่าง” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่เป็น”นักกฎหมาย” ไม่มีความ”เฉียบคม” เหมือน”กระบี่มือหนึ่ง” ทาง” การเมือง” อย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” ดังนั้น จะ”ทำได้ “หรือ”ทำไม่ได้” ยังไม่มีคำตอบ แต่”คะแนนนิยม” กลับไปอยู่กับ” ทักษิณ ชินวัตร” ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร แค่ไปพูด”หาเสียง” บนเวทีของการ”ปราศรัย” ช่วยผู้สมัคร”นายก อบจ.”เท่านั้น เห็นหรือยังว่า “ ผู้ช่วยหาเสียง” ที่มี”ค่าตัว” วันละ 300 บาท เป็น”นักฉวยโอกาส” และเป็น”นักค้ากำไร” ขนาดไหน…..
@แต่ไม่ว่าจะอย่างไร”จุดอ่อน” ของ”รัฐบาล” ชุดนี้ ที่มี”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”ผู้นำ” หรือ”นายกรัฐมนตรี” ยังเป็นเรื่องของ”เศรษฐกิจ” ในประเทศที่ยังคง”ยอบแยบ” ซึ่งเมื่อดูจากการใช้”งบประมาณแผ่นดิน” ที่”งบส่วนใหญ่” ถูกนำมาใช้ในการ”แจก” เช่นการ”แจกเงิน” ให้ประชาชน คนละ 10,000 บาท โดยที่ไม่มีหน่วยงานไหน”การันตี” ว่าการ”แจก”แบบมีแผนการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” รองรับ จะทำให้”เศรษฐกิจ” ของประเทศนี้”เติบโต” อย่างไร และเงินที่นำมา”แจก” ส่วนหนึ่งเป็น”เงินกู้” ซึ่งขณะนี้”เงินกู้” ของ”ประเทศไทย” กำลังชนเพดาน” รวมทั้งการต้องนำ”งบประมาณ” เพื่อ”ช่วยเหลือ” ผู้ที่”ประสบภัยน้ำท่วม” ทั้ง”ภาคเหนือ-ภาคใต้” และ”งบฟื้นฟู รวมทั้งการ”แจก” ให้”ครัวเรือน” ที่”ประสบภัยน้ำท่วม” ครัวเรือนละ 9,000 บาท แบบ”เหมาจ่าย” ให้ดะ ทั้ง บ้านที่ถูกน้ำท่วม และที่ไม่ท่วม เพราะต้องการ”เอาใจประชาชน” จนกลายเป็นว่า”งบเพื่อการพัฒนาประเทศ” เหลือเพียง”น้อยนิด” ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อ”งบพัฒนาประเทศ” มี”จำนวนน้อย” ย่อมส่งผลกระทบต่อ” เศรษฐกิจ” โดยรวม ปีนี้จะเป็นปีที่ได้เห็น”บริษัท ห้างร้าน ผู้รับเหมา เหมืองหิน บ่อดิน บ่อทราย และ อีกมากมากของ ธุรกิจการค้า ต้อง”ปลดคนงาน” ต้องปิดตัว” และต้อง”กู้หนี้ยืมสิน” มา”ประคับประคอง” กิจการ เมื่อ ขายของไม่ได้ และไม่มีงานทำ นี้คือตัว”ฉุดรั้ง” ให้”เศรษฐกิจ” ในประเทศที่”ยอบแยบ” อยู่แล้ว ยิ่ง”อยู่ยาก” ยิ่งขึ้น……
@วันนี้ทั้ง “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค “ รองนายกรัฐมนตรี และ “เสนาบดีกระทวงพลังงาน” และ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมา”ประสานเสียง” ในการ”ปรับโครงสร้าง” ราคาน้ำมันในประเทศโดยไม่ต้องอิง”ราคาของสิงคโปร์” ซึ่งมีข้อมูลว่าจะทำราคา”น้ำมันในประเทศ” ลดลงได้ทันที่โดยไม่ต้องไป”แทรกแซง” อะไรทั้งสิ้น ลิตรละ 2 บาท ที่นี้ เขียนมา”ตอกย้ำ” มาหลายปีถึงการทำให้”ราคาน้ำมัน” ในประเทศลดลงด้วยการ”รื้อโครงสร้าง” ของ” กลุ่มทุนน้ำมัน” เพื่อให้”อิงกับราคา”ที่” เป็นจริง” แต่ทุก”รัฐบาล” ไม่เคยที่จะ”ใส่ใจ” กับการแก้ปัญหาโดยการ”รื้อโครงสร้าง”ของ”น้ำมันเชื้อเพลิง” ครั้งนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่อง”เงื้อง่าราคาแพง” ที่สุดท้ายก็”ญะญ่ายพ่ายจะแจ” ต่อ”กลุ่มทุนโรงกลั่นน้ำมัน” เหมือนทุกครั้ง แต่ถ้า”ทำได้” ประชาชน” จะต้อง”สาธุการ” รัฐบาลทั้งแผ่นดิน……
@เห็นการทำงานของ “เจ้าหน้าที่” ของ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต.) เกี่ยวกับเรื่องการ”จัดตั้งสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ในเรื่องของการ”สรรหาตัวแทนสื่อมวลชน” เพื่อเป็นตัวแทนของ”สื่อ” ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็รู้ทันทีว่า”ไม่มีความรู้ความเข้าใจ” และยังไปแก้”กฎระเบียบ” ที่เคยใช้ในการ”เลือกตั้ง” ครั้งที่ผ่านมาที่”ดีอยู่แล้ว” โดยให้มีการ”ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง” ในแต่ละจังหวัด แทนที่จะให้”สื่อมวลชน” ไปลงชื่อใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งที่ “ศอ.บต.” ซึ่ง”สื่อมวลชน” ต้องเดินไปถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกใน”ลงชื่อ” เพื่อให้มีการ”ตรวจสอบ” ว่าเป็น”สื่อจริง” หรือไม่ ต่อจากนั้นต้องเดินทางไป”ศอ.บต. เป็นครั้งที่ 2 เพื่อไป”ลงคะแนน” และ วันนี้กลายเป็นว่า “สื่อมวลชน” ต่าง”เมินเฉย” กับ”ระเบียบ” ที่”ไม่เข้าท่า” ของ” ผู้บริหาร”ศอ.บต.” 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มี”สื่อมวลชน” ที่เป็น”สื่อวิชาชีพ” จังหวัดละไม่ต่ำกว่า 50 คนรวมทั้งหมอยู่ที่ 250 คน ถึง 300 คน วันนี้มีผู้ไป”ลงชื่อ”เพื่อใช้สิทธิในการ”ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นตัวแทนของสื่อมวลชนในสภาที่ปรึกษาฯ เพียง 26 คน แล้วยังจะ”ดันทุรัง” ให้มีการ”เลือกตั้ง” ใน”กติกา” ที่เขียนขึ้นใหม่ ถ้าเป็นอย่างนี้ คนที่ได้รับการ”เลือกตั้ง” มี”สถานะ” ในการเป็น”ตัวแทนสื่อ” หรือไม่ เพราะ”สื่อที่ไปลงชื่อ” ทั้งการ”สมัครเป็นตัวแทนสื่อ” และ”สื่อผู้ไปลงชื่อในการใช้สิทธิ์การเลือกตั้ง” เป็นการ”จัดตั้ง” มาจาก”สื่อในจังหวัดเดียว” ก็ฝากถึง” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์” เลขาธิการ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต.) ให้ทำการ”ทบทวนให้ถ้วนถี่” ว่าเป็นการ”เลือกตัวแทนสื่อ” ที่”ถูกต้อง” หรือไม่ แต่สำหรับ”องค์กรสื่อวิชาชีพ” อย่าง” สมาคมนักหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย “ ( สนพท.) เห็นว่าเป็นเรื่อง”ไม่ถูกต้อง” รวมทั้งผู้ที่ได้รับการ”เลือกตั้ง” จาก”สื่อหยิบมือเดียว” ไม่อยู่ใน”สถานะ” ที่จะเป็น”ตัวแทนสื่อมวลชน” ของ”สื่อ” ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอที่จะไม่ร่วม”สังฆกรรม”ในการ”เลือกตั้งตัวแทนสื่อมวลชน” ของ” ศอ.บต.” ในครั้งนี้…..
@ที่ สำคัญ ไม่ใช่ เฉพาะใน สาขา”สื่อมวลชน” ที่มีปัญหา มีการ”ร้องเรียน” ถึงการทำหน้าที่แบบ”ไม่เอาไหน” ผู้ที่อยู่ใน”กลุ่มอาชีพ”อื่นๆ ก็มีความ”วุ่นวาย” ที่ไม่”แตกต่างกัน” มีปัญหาเกิดขึ้น มีแต่”ข้าราชการ” ระดับ”ปฏิบัติการ” ที่อ้างว่าทำตาม”กฎหมาย” และตาม”กฎระเบียบ” ทั้งที่”กฎระเบียบแต่เดิม” ไม่ได้เป็นอย่างนี้ ส่วน”ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่” ระดับ”รองเลขาธิการ” ระดับ”ผู้ช่วยเลขาธิการ” ไม่มีใคร”รับผิดชอบ” ก็เพิ่งจะรู้จาก”สื่อมวลชน” ว่า วันนี้ “ศอ.บต.” เปลี่ยนไปแล้ว การ”เข้าถึง” เป็นไปด้วยความ”ลำบาก” มีความเป็น”ชนชั้น” ที่มากขึ้น ก็ “ผิดหวังนะ” กับ”ศอ.บต” ยุคที่มีการได้ “สภาที่ปรึกษากลับมา” แต่การมี”สภาที่ปรึกษาฯ” อย่างเดียว”ไม่พอ” ผู้”บริหาร”ต้องมี”วิสัยทัศน์” และ”เข้าถึงปัญหาด้วย….
@ถ้าการที่”เจ้าหน้าที่”ชุด”หน่วยปฏิบัติการพิเศษ” ของ” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ที่สามารถ”ล้อมปราบ” และ”วิสามัญฆาตรกรรม” กองกำลังติดอาวุธของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น”ที่เป็น”ระดับผู้ปฏิบัติการ” หรือ” อาร์เคเค” รุ่นเดอะ” จำนวน 4 ศพ ที่ ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปีนัง จ.ยะลา มาจากได้รับ”ข่าวสาร” แจ้งความเคลื่อนไหว” ของ”อาร์เคเค” ทั้ง 4 คนจาก”ชาวบ้าน” ตามที่เป็นข่าว ก็แสดงให้เห็นว่า” ชาวบ้าน” เริ่มที่จะ”เบื่อหน่ายความรุนแรง” และไม่เห็นด้วยการ”เคลื่อนไหว” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่มี”เป้าหมาย” ในการ”แบ่งแยกดินแดน” ถ้าเป็นจริงก็จะเป็น”ประโยชน์” ต่อ”เจ้าหน้าที่” ในการที่ติดตาม”เด็ดหัว” กลุ่ม”อาร์เคเค” ที่ถูก”ฝังชิฟ” ให้”สู้ตาย” ได้ง่ายขึ้น การแก้ปัญหาความรุนแรงใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เรื่องการ”เจรจาสันติภาพ” ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าการคือการ”ปราบปราม” เพื่อ”จับกุม” กองกำลังติดอาวุธ” ของ”ขบวนการบีอาร์เอ็น” มาลงโทษให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการ”จับเป็น”หรือ”จับตาย” ล้วนเป็นการ”ลดจำนวน” ผู้เป็น”ฆาตรกร” ได้ทั้งสิ้น อย่างน้อยการที่”บีอาร์เอ็น” ต้อง”สูญเสีย” กองกำลังติดอาวุธ ระดับ”หัวหน้า” กว่าที่”บีอาร์เอ็น” จะสามารถฝึกคนใหม่เข้ามา”ทดแทน” ก็ต้อง”ใช้เวลา” ไม่น้อย ถ้าการ”ปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม” ในพื้นที่มีการทำอย่าง”ต่อเนื่อง” และ”ได้ผล”การ”ก่อเหตุความรุนแรง” ในพื้นที่ก็ สามารถ”ลดลง “ได้ นี้คือ”มาตรการ” ที่ต้อง”ปฏิบัติการ” กับ”หัวโจก” ของ”ขบวนการ” เพื่อการ”ลดความรุนแรง”และลดการก่อเหตุ…..
@แต่ที่ยัง”น่าเป็นห่วง” คือหลังการ”วิสามัญฆาตรกรรม” หน่วยงานความมั่นคง ยังไม่มี”มาตรการ” ในการ”หยุดยั้ง” มิให้” บีอาร์เอ็น” นำเอาศพของผู้ถูก”วิสามัญ”ฯ ตามหลักการแบบ นักรบพลีชีพ” หรือเป็น”ชาอีด” เป็น”นักรบพระเจ้า” โดยมีการ”ปลุกเร้าปลุกระดม” ให้”เยาวชน” มาร่วมงานร่วม”แห่ศพ” ด้วยการ”บิดเบือนหลักศาสนา” และมีการใช้”วาทะกรรม” เพื่อการ”แบ่งแยกดินแดน” ด้วยการตะโกนคำว่า” เมอร์เดก้า ปาตานี” หรือ” เอกราชปัตตานี” นี่คือการใช้” ศพของคนตาย” ที่ตายจากการ”ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่” เพื่อหา”ประโยชน์” ของ”บีอาร์เอ็น” เรื่องนี้”เกิดขึ้น”และ”ดำรงอยู่” อย่าง”เข้มข้น” มาแล้วหลายปี แต่”หน่วยงานความมั่นคง” ยังแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาได้ ก็ไม่ถาม” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมนภาค 4” ว่าจะแก้อย่างไร เพราะเรื่องนี้ถ้า”ผู้นำศาสนา” ไม่ให้”ความร่วมมือ” ย่อมไม่มีทางแก้ แต่เขาบอกว่า”ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก” ก็ต้องถาม”สหายใหญ่” อย่าง”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ”เสนาบดีกระทรวงกลาโหม” ว่าเรื่องการ”แห่ศพ” ด้วยการ”บิดเบือน” หลักการของ”ศาสนา” จะแก้อย่างไร และในการที่” สหายใหญ่” สั่งการให้”ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) ไป กำหนด”ยุทธศาสตร์” ในการ”ดับไฟใต้” ฉบับใหม่ มีเรื่องนี้หรือไม่ถ้าไม่มีก็เป็น”ยุทธศาสตร์” ที่”เล่าเบ๊” หรือไม่มีความ”สมบูรณ์” หรือ”ยุทธศาสตร์” ฉบับเก่า” ที่เรียกว่าเป็น”ยุทธศาสตร์แห่งความล้มเหลว” ของการ”ดับไฟใต้” ของ”สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)…..
@สิ่งที่”น่าเป็นห่วง” ในเรื่องต่อไปที่เรียกว่า”พัฒนาการ”ของ”ไฟใต้” ก็คือการ”คืนชีพ”ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนพูโล” ซึ่งเป็น”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนแรกๆของจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่มี”ยูโซ๊ะ ปากีสถาน” เป็นหัวหน้าและ”ล่มสลาย”ไป ตั้งแต่”สะมะแอ ท่าน้ำและ หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ” สองผู้นำ”รุ่นสุดท้าย” ถูก”จับกุมคุกขัง” วันนี้”พูโล” กลายเป็นอีก”แนวรบ” ในการ”ก่อการร้าย” มีการ”จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ” ไม่ต่ำกว่า 30 คน ในพื้นที่ เพื่อการ”ก่อการร้าย” เพื่อ”แสดงตัวตน” ให้”รัฐบาลไทย” เห็นถึงความ”สำคัญ”ของการ”ดำรงอยู่” และขอเข้าร่วมการ”เจรจาสันภาพ” เช่นเดียวกับที่”บีอาร์เอ็น” ได้”สถานะ”ของการเป็น”ตัวแทน” ในการ”เจรจาสันติภาพ” ถ้า” รัฐบาล” ยัง”เพิกเฉย” ไม่ให้ความ”สำคัญ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดนพูโล ก็จะมีการ”ก่อเหตุด้วยความรุนแรง” อย่างที่”บีอาร์เอ็น” ทำอยู่ และล่าสุด “ระเบิดแสวงเครื่อง” จำนวน 2 ลูก ที่มี”เป้าหมาย” ต่อ”เจ้าหน้าที่จุดตรวจ” ที่”ตันหยงลูโละ” ใกล้ “สุสานเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว” และใกล้”มัสยิดกรือเซะ” ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี คือ ฝีมือของ”พูโล” เรื่องนี้เกี่ยวกับการ”ขับเคลื่อน” การ”เจรจาสันภาพ” ที่มี”ตัวแทนของรัฐบาลมาเลเซีย” เป็น”ผู้อำนวยความสะดวก” ที่ “สหายใหญ่” อย่าง”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงกลาโหม” ร่วมทั้ง”ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีตำแหน่งเป็น”ที่ปรึกษา”ของ” อันวาร์ อิมราฮิบ” นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย จะ”คิดอ่าน” อย่างไรก็ขอให้”รอบคอบ” ให้”ท่องสุภาษิต”ให้”ขึ้นใจ” ว่าระหว่าง”งู กับ แขก” จะไว้ใจใคร และจะตีใครก่อน…..อย่าให้”ประวัติศาสตร์”การ”แก้ปัญหา” ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ต้อง”ซ้ำรอย” ที่”ทักษิณ ชินวัตร” ในสมัยที่เป็น”นายกรัฐมนตรี” เคยสร้าง”รอยด่าง” ทั้งการยุบ” พตท.43 “ หรือหน่วยงาน” พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ 43” และการ”ยุบ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือ”(ศอ.บต.) ที่ทำให้ทุกอย่าง”เข้าทาง”ของ”บีอาร์เอ็น” อย่างที่เห็น และ เป็นอยู่ ในเวลานี้…..
@ที่น่า”เป็นห่วง” คือ”ข่าว” จาก” หน่วยข่าว” ที่รายงานว่า ในรอบหลายปีที่ผ่านมา”บีอาร์เอ็น” สามารถฝึก”แนวร่วมหน้าขาว” เพื่อใช้เป็น”กำลัง” ในการ”ต่อสู้”กับ” เจ้าหน้าที่” ใน”อนาคต” ถึง 10,000 กว่าคน และที่ทำการ”ฝึกเยาวชน” ที่ใหม่ของ” บีอาร์เอ็น” ไม่ได้มีเฉพาะ”ชายแดน” ด้านรัฐ”กลันตัน” เพียงอย่างเดียว แต่ที่ฝึก”เยาวชน” แห่งใหม่ของ”บีอาร์เอ็น” อยู่ใน”แนวชายแดน” รัฐเคดาห์” ซึ่งติดกับ “อำเภอสะบ้าย้อย นาทวี” และ”อำเภอสะเดา จ.สงขลา เมื่อเห็น”พัฒนาการ”ของ”ไฟใต้” ฝั่งของ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”แล้วจึง”สงสัย” ว่า ที่มีการประกาศให้”ไฟใต้ยุติ” และมีการ”ถอนทหาร” ออกจากพื้นที่โดยให้”กองกำลังท้องถิ่น” อย่าง กองกำลังอาสาสมัคร” และ”อาสาสมัครทหารพราน” เป็นผู้รักษาความสงบ เป็นเรื่องของการ”กินอิ่ม” และ”นอนหลับ” โดยมีการ”ฝันกลางวัน” หรือไม่……อีกเรื่องที่เห็นจากการ”รายงานข่าว”ว่า”แกนนำ” คนสำคัญที่นำโดย”เปาะดายะห์” มีการส่ง”กระสุนปืนจากฝั่งมาเลเซีย” ข้ามมายัง “จังหวัดนราธิวาส ทั้ง”กระสุนเอ็น 16 “ และ” อาก้า” กว่า 10,000 นัด รวมทั้ง “กระสุนเอ็ม 79” อีก 300 นัด ถ้า”ข่าวสาร” ที่ได้มาเป็น”เรื่องจริง” ปี 2568 น่าจะมี”สงครามย่อยๆ” เกิดขึ้นในพื้นที่ของ”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” และจะมีการทำ”สงครามลูกยาว” ด้วย”เครื่องยิงระเบิด” ที่นำเอาเรื่องมาบอกให้ทราบ ไม่ใช่แค่”แจ้งเตือน” ทั้ง” เจ้าหน้าที่” และ”ประชาชน” ให้มีการ”ระวังป้องกัน” และที่สำคัญคืออยากจะถาม”รัฐบาล”ว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วยังในการที่จะทำ” รั้วชายแดน” ระหว่าง”ไทย-มาเลเซีย” ด้าน อ.สุไหงโก-ลก “ และ” อ.ตากใบ” จ.นราธิวาส ซึ่งมีการ”ปักปันเขตแดน” ระหว่างไทย-มาเลเซีย เรียบร้อยแล้ว เพราะ”รั้วถาวร” ระหว่างประเทศ นอกจากการ”ป้องกันการก่อการร้าย” การ”ป้องกันการ ข้าม ไป-มา และ ขน “อาวุธ ยุทโธปกรณ์” จาก” ขบวนการบีอาร์เอ็น จากฝั่ง”มาเลเซีย” แล้ว”รั้วชายแดน” ยังป้องกันอาชญากรรมใน”แนวชายแดน” เช่นการ”ค้ายาเสพติด” การ”ค้ามนุษย์” การ”ค้าน้ำมันเถื่อน” และ”ของเถื่อน” ทุกอย่าง…..
@น่าผิดหวังกับการ”เลือกตั้งท้องถิ่น” หรือการ”เลือก “ นายก อบจ. และ”ส.อบจ. ที่จะมีการ “กาบัตรลงคะแนน” ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ เพราะใน 7 จังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่ “ตรัง,พัทลุง,สตูล,สงขลา,ปัตตานี ,ยะลา”นราธิวาส” มี “วัฒนาธรรม” ที่เหมือนๆกันคือ”เงินไม่มากาไม่เป็น” ดังนั้นทุกพื้นที่จึงมีแต่เรื่องของการ”ซื้อเสียง” ตั้งแต่ เสียงละ 200 -300 บาท ใน กรณีที่ “บ้านใหญ่” แข่งกับ” ทีมที่”โนเนม” และ”เสียงละ 500-1,000 บาท” ในกรณีที่”บ้านใหญ่” แข่งกับ”คู่แข่ง” ที่”พอฟัดพอเหวี่ยง”การ”ปราศรัย” ต้องการ”จ้าง” ให้มี”ประชาชน” มาฟังปราศรัย ก็ต้อง”จ่าย” เป็น”รายหัว” ตั้งแต่ 200-300 บาท งาน”การเมือง” งาน”การเลือกตั้ง” บุคคลสำคัญกว่า”ผู้สมัคร” คือ”หัวคะแนน” ที่ต้อง”ทำงานหนัก” ในการ”ซื้อเสียง” ให้”เข้าเป้า”ให้มากที่สุด การเลือกตั้งวันนี้ไม่มี”คืนหมาหอน” เพราะไม่มี”หัวคะแนน”ที่ไหนเขา”ซื้อเสียง” วันสุดท้ายก่อน”เลือกตั้ง” เขา”จ่าย”กันก่อน ที่จะถึง”วันเลือกตั้ง” ถ้า”กกต.” ยังคิดจะ”เอาจริง” ในการ”เข้มงวด” การ”ซื้อเสียง” ใน”คืนหมาหอน” ก็ถือว่า” ล้าหลัง” การ”ซื้อเสียง” ของ”หัวคะแนน” รวมทั้งวันนี้การที่”หัวคะแนน” ที่ถูก”จัดตั้ง” เขารับผิดชอบดูแลแค่คนละ 10-20 ครัวเรือน เพื่อง่ายในการ”ควบคุมเสียง” และเป็นการ”ซื้อ”หรือเป็นการ”ยิงเข้าเป้า” ทุกนัด….ประเด็นปัญหาคือ เมื่อ”การเมืองท้องถิ่น” เป็นอย่างนี้ ประเทศไทย ยังจะ”คาดหวัง” ที่จะไม่เห็นการ”ทุจริต” หลังการเข้ามาทำหน้าที่”บริหาร” องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ได้อีกหรือ เพราะ เมื่อมีการ”ลงทุน” ก็ย่อมต้อง”เข้าไป”เพื่อ”ถอนทุน” ในเมื่อการ”เลือกตั้ง”ส.อบจ.” หลายคน “จำนองจำนำที่ดิน” และ”กู้หนี้ยืมสิน” มาเพื่อใช้ในการ”ซื้อเสียง” เมื่อเข้าไปทำหน้าที่รับ”เงินเดือน” ไม่ถึง 20,000 บาท จะเอาเงินที่ไหนมา”ปลดหนี้ปลดสิน” ที่ก่อขึ้นจากการ”เลือกตั้ง” ถ้า”วงจรอุบาทว์” ของ”การเมืองท้องถิ่น” ยัง”ระบาด”ไปทั่ว บอกตามตรงมองไม่เห็น” อนาคต”ของประเทศไทย”
@และเห็นด้วยกับที่”เชิดเกียรติ เมธีลักษณ์” นักกฎหมาย”อดีตที่ปรึกษาของ”ไพเจน มากสุวรรณ” อดีต “นายก อบจ.สงขลา ที่โพสในเฟซบุ๊กว่า การ”หาเสียง” ของ”ผู้สมัคร” ที่จะ “ทำโน่น สร้างนี่ ทำนั่น” ภายใน 3 เดือน 5 เดือน รวมทั้งเสนอ”โครงการต่างๆ” ที่เกิน”ศักยภาพ” ของ”องค์กรปกครองท้องถิ่น” ที่มี”ข้อจำกัด” ตั้งแต่”งบประมาณ” และ”บุคลากร” รวมทั้ง”ข้อกฎหมาย” ที่”บิดๆเบี้ยว” ของ” องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ก็เหมือนกับการ”หาเสียง” ที่”หลอกลวงประชาชน” ที่”หลอกกัน 4 ปี ครั้ง”….. แต่ สำหรับ”ประชาชน” ส่วนใหญ่ของ”ประเทศไทย” ยังยอมที่จะให้”นักการเมืองหลอกลวง” เพราะ”เขารู้ว่า”เรื่องการ”หาเสียง” เป็นแค่”วาทกรรม” ที่ไม่”เป็นจริง” และหาก”วาทกรรม” ในการ”หาเสียง” ของ”นักการเมือง” ทั้งระดับ”ท้องถิ่น” และ”ระดับประเทศ” เป็นจริง”ทำจริง” และ”ทำได้” ป่านนี้”คนจน”คงไม่เหลืออยู่ในประเทศไทย ดังนั้นใน”ความต้องการ”ของ”ประชาชน” จึงไม่ได้”สนใจ” หรือให้ความ”สำคัญ” กับ”นโยบาย” ที่”นักการเมือง” ใช้ในการ”หาเสียง” แต่ให้ความ”สำคัญ”ที่จะได้”ค่าจ้าง” เท่าไหร่ในการ”เสียเวลา” เพื่อไป”เลือกตั้ง” ….. ไม่ว่า”ประชาชน” จะ”คิดถูก”หรือ”คิดผิด” ในการ”รับเงิน” เพื่อแลกกับการไป”เลือกตั้ง” และคิด”เข้าข้างตนเอง”ว่า”เงิน 500 บาท หรือ 300 บาท ที่”หัวคะแนน” นำมาให้ ไม่ใช่การ”ขายเสียง” แต่เป็น”ค่าเสียเวลา” ในการที่ต้องเดินทางไป”เลือกตั้ง” นี้แหละคือ”อันตรายใหญ่หลวง” ในการ”ทำร้ายการปกครองในระบอบประชาธิปไตย” ที่”ร้ายแรง” และนี้คือการทำ”ประเทศไทย” มีลักษณะ”ประชาธิปไตย” ที่เป็น”สาระวันเตื้ยลงๆ”ในทุกๆขณะ ที่”สำคัญ” วันนี้ยังไม่มี”เจ้าภาพ” ในการทำ”หน้าที่” เพื่อ”ปลุกจิตสำนึก” ที่ถูกต้องในเรื่องของ”ประชาธิปไตย” ที่”ถูกต้อง”ที่ต้องเริ่มจากการไม่” ขายสิทธิ์ ขายเสียง”.…..
@ระบาดมาถึง”ชายแดน” ของ”อำเภอสะเดา” จ.สงขลาแล้ว นั้นคือเรื่องของ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่ ล่าสุด เจ้าหน้าที่หลายหน่วยรวมทั้ง ตำรวจ สภ.สะเดา ที่นำโดย พ.ต.อ.สุรจิตร เพรชจอม” ผกก.สภ.สะเดา เข้า ตรวจสอบ “ห้องเช่า” ที่มีการตัดตั้ง”อุปกรณ์” เพื่อใช้ในการ”หลอกลวงเหยื่อ” และหลังจากนั้นเพียง 2 วัน” ตำรวจกองปราบ” ก็บุกเข้า”จับกุม” ชาวมาเลเซียได้อีก 2 คนพร้อม”อุปกรณ์ ที่เป็น”เครื่องมือ” ในการ”หลอกลวงเหยื่อ” ได้อีก นี่แสดงให้เห็นว่า “สงขลา” กำลังกลายเป็นพื้นที่ใหม่ของ”แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” ที่อาจะมี”คนจีน” ที่ถูก”กวาดล้าง” และ”หลบเข้ามายังพื้นที่”เมืองชายแดน”ของ”ภาคใต้” เพื่อใช้เป็น”พื้นที่” ติดตั้ง”อุปกรณ์”หรือ”คอลเซ็นเตอร์” ที่น่าสงสัย วันนี้ในแต่ละ”เที่ยวบิน” ของ”สายการบิน” เส้นทาง”กรุงเทพ –หาดใหญ่” จะมี”ชาวจีน” เดินทางมาแบบ”ผิดปกติ” และบางส่วนมี”ปลายทาง” ใน” อ.สุไหงโก-ลก” จ.นราธิวาส “สายสืบคอลเซ็นเตอร์” ติดตามให้ดีอาจจะมี”งานใหญ่” ให้”จับกุม”…..
@ผู้โดยสาร บ่นเหนื่อยกับการ”ดีเลย์ “ แบบ”ซ้ำซากๆ” ของ”สายการบินรักคุณเท่าฟ้า” โดยเฉพาะ เที่ยวบิน” หาดใหญ่-สุวรรณภูมิ” ที่กำหนดออก 2 ทุ่ม 40 น. ที่มีการ”ดีเลย์” บ่อยมาก ด้วยเหตุผลที่”ซ้ำซาก” คือ”คอยเครื่องบินขาเข้า” นี่ไม่ใช่เรื่องที่”ผู้โดยสาร” ต้อง”รับรู้” เป็นหน้าที่ของ”สายการบิน” ในการแก้ปัญหา ในส่วนของ”ผู้โดยสาร” เสียเวลา”ไม่ว่ากัน แต่”เสียความรู้สึก” ที่ต้อง”ซื้อตั๋ว” ในราคาที่แพงกว่าสายการบิน”โลว์คอต” แต่ได้รับการ”บริการ” ที่มีแต่”ดีเลย์” ที่ไม่”แตกต่าง”จาก”สายการบินโลว์คอต” ถ้าเป็นอย่างนี้ ทำไม่”ผู้โดยสาร”ต้อง”จ่ายแพงกว่า” ในเมื่อ” ล่าช้า” เสียเวลา” และเสีย”ความรู้สึก” เหมือนกัน หรือถ้า”เครื่องไม่พอ” ยก”เลิกไฟลท์บิน”เที่ยวนี้เพื่อที่จะได้”รักษาภาพลักษณ์”ของ”รักคุณเท่าฟ้า” เอาไว้ก็ได้….แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก
————————————————————–

ตรวจเข้มแรงงานต่างด้าว. พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ จ.สงขลา ณ บริษัม ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) โดยมี จิรวัตร์ มณีโชติ รอง ผวจ.สงขลา ให้การต้อนรับ

รับรางวัล. พ.ต.ท.วรรณพงค์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. รับรางวัล “เกียรติจยศจักรดาว” ปี 2568 สาขาบริหารการปกครอง และความมั่นคงแห่งชาติ จากรร.เตรียมทหาร เนื่องในโอกาสคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนครบรอบ 67 ปี ณ รร.เตรียมทหารฯ จ.นครนายก

ร่วมลงนาม. พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ,รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมกับ ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี และ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ร่วมพิธีลงนามรับรองแนวทางการปลูกฝัง“ยะกีน” ฉบับชาวบ้าน(กีตาบเล็ก) พร้อมกับผู้นำศาสนาระดับสูงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้,ผู้อำนวยการส่วนพัฒนายุทธศาสตร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ,รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้,ผู้นำศาสนา และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมในพิธีฯ ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

โค้งสุดท้าย ..ว่าที่ ร.ต. ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (Big Day) โดยมี วีรพัฒน์ บุณฑริก ,วิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ และ กฤษณนันท์ กำไร รอง ผวจ.นราธิวาส นันทพล ภาชื่น ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนราธิวาส คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมกิจกรรม ณ บริเวณสวนหลวงฯ ต.บางนาค อ,เมือง จ,นราธิวาส

รณรงค์. สนง.คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปัตตานี จัดกิจกรรมขบวนรณรงค์ เชิญชวนเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (Big Day) ภายใต้แนวคิด สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง โดยมี พาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี เปิดกิจกรรม และนำขบวนรณรงค์ มี หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนราชการ นายอำเภอเมืองปัตตานี นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง นักเรียน นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ณ ลานวัฒนธรรมหน้าศาลากลางจังหวัด

ต้อนรับ. ปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. ให้การต้อนรับ มาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชฑูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย และคณะ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา

แถลงข่าว. พล.ร.ท. นเรศ วงค์ตระกูล. ผบ.ทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา แถลงข่าวจับเรือประมงเวียดนามที่ได้เข้ามาขโมยจับสัตว์ในทะเลอ่าวไทยช่วงน่านน้ำ อ.ระโนด. จ.สงขลา ณ ฐานทัพเรือสงขลา ต่อสื่อมวลชน ในพื้นที่

ตรวจชายแดน. พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จ.นราธิวาส ให้การต้อนรับ การเดินทางมาตรวจงานของ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 โดยมี หัวหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมหารือการร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสองประเทศ

หาเสียง. ประสงค์ บริรักษ์ ผู้สมัครทีมสงขลาเข้มแข็ง พร้อมผู้สมัคร สมาชิกอบจ.สงขลา ควงนายกน้ำ วารินทร์ ชินวงศ์ นายกอบจ.นครศรีธรรมราช ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วง 5 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง หวังพลิกเกมส์จากกระแสที่ตามอยู่อันดับ 3 สู่เก้าอี้นายกอบจ.สงขลา ณ สนามท่าเรือประมงเก่า อ.เมือง จ.สงขลา

เปิดโรงเรียน. ดร.โสภณ มโมะยา สมาชิวุฒิสภา เป็นประธานในการเปิดโรงเรียนจีนเฉียนหย่ง ที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมี ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา วิเชษฐ์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา และ พ.ต.อ.สุรจิตร เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา จ,สงขลา ร่วมในพิธี ณ โรงเรียนจีนเฉียนหย่ง บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา

ติดตามตรวจสอบ. ลงพื้นที่ติดตาม คณะกรรมการและที่ปรึกษาธรรมาภิบาล จ.ตรัง ติดตามงบพัฒนาจังหวัด ของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำตรัง (ระยะที่ 2) ณ บ้านปากหมัน หมู่ 2 ตำบลหนองตรุด อ.เมือง ตรัง จ. ตรัง ความยาว 120 เมตร งบประมาณ 11,270,000 บาท โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง โดย บ.ภูศรีตรัง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง

แสดงความยินดี ที่ วิทยาลัยเทคนิคตรัง ดร.กษิดิฎฐ์ คำศรี ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคตรัง แสดงความยินดีกับ. ฉัตชัย บิลภัสร์ หัวหน้าแผนกวิชาช่างยนต์ วัชระ ท่าจีน ครูผู้ควบคุม ธิติพงษ์ หน้องมา ครูผู้ควบคุม ทิวากร บุญสุด นักศึกษา จักริน อ่องไหว นักศึกษา ธนาธิป อุปการรอด นักศึกษา ธีรวุฒิ แสงปลอด นักศึกษา ถิรธรรม หนูพันธ์ นักศึกษา ธนพล ด้วงชาญ นักศึกษา ธรรมชาติ จำนงค์ นักศึกษา กมลเทพ ทองพิทักษ์ นักศึกษา ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศจัดการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง (Honda Eco Mileage Challenge) ปีที่ 2

ชุมชนทับเที่ยง ….จัดงานตรุษจีนนครตรังและเทศกาลอาหาร ประจำปี 2568 เพื่อสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามในการเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวจีน อันเป็นมรดกที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม ณ เวทีกลาง หน้าสำนักงานเทศบาลนครตรัง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง โดยมี ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง เป็นประธานในพิธี

แสดงความยินดี. อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการบริหารสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย / ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดยะลา และเพื่อนสนิท เข้าร่วมแสดงความยินดี กับ นางสาวเรวดี แท่นศรี (จูน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขายะลา กับ นายยรรยง เลิศมณฑากวิน (หยง) นักธุรกิจ ในงานพิธีฉลองมงคลสมรส ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา

ผู้ว่าสัญจร, อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอธารโต ชมแปลงเกษตร และร่วมปลูกทุเรียน ในพื้นที่บ้านดินเสมอ ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร กินนอนในพื้นที่

วันตรุษจีน. อับดุลราชิ ลอแม ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ พร้อมด้วย แวหะมะกูซี อีปง ประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล และประชาชนในเขตพื้นที่ อ.รือเสาะ ร่วมกิจกรรมวันตรุษจีน ประจำปีการศึกษา 2568 โดยมี วิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รอง ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานเปิดโครงการเทศกาลวันตรุษจีน ประจำปี 2568 ณ หน้าสถานีรถไฟรือเสาะ อ,รือเสาะ จ.นราธิวาส

ขอให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง. ปารเมศ เห้งสวัสดิ์. นายอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา ร่วมรณรงค์เพื่อให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ในการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ณ หน้าว่าที่การอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา

ร่วมเปิดงาน นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพิธีเปิดงาน “International College Open House” จัดโดย วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2568 ณ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี