เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมอายุ 67 ปี เป็นคนรูปร่างท้วม ลงพุงเล็กน้อย มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน เป็นมาได้ 5 ปีแล้ว ปัจจุบันกินยาควบคุมน้ำตาลในเลือดอยู่ และเข้ารับการตรวจเลือดกับหมอทุก 3 เดือน ผลตรวจล่าสุดพบว่ามีระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงมากกว่าเกณฑ์ หมอเลยให้กินยาลดไขมันเพิ่มอีก ระยะนี้เริ่มสังเกตว่าตัวเองหงุดหงิดง่ายมาก ใครพูดอะไรไม่ถูกใจก็จะอารมณ์เสียเสมอ เข้าหน้าใครไม่ค่อยติด ที่สำคัญกลางคืนนอนหลับยากมากใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะหลับได้ อารมณ์ทางเพศก็ไม่ค่อยมียิ่งแย่กว่านั้นอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่เหมือนเดิม
เคยอ่านบทความที่คุณหมอเขียนในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับอาการพร่องฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งอาการคล้ายกับของผมมาก จึงอยากถามคุณหมอว่าการเสริมฮอร์โมนเพศชายนอกจากจะช่วยให้อาการที่กล่าวมาข้างต้นดีขึ้นแล้ว ไม่ทราบว่าจะช่วยให้เบาหวาน กับไขมันในเลือดลดลงได้ไหม
ด้วยความเคารพอย่างสูง
เดชา
ตอบ เดชา
เมื่อผู้ชายมีระดับฮอร์โมนเพศลดลง ไขมันในร่างกายจะสูงขึ้น จนเกิดการสะสมมากบริเวณรอบเอวหรือเรียกง่าย ๆ ว่าลงพุง การลงพุงจึงกลายเป็นสัญญาณอันดับแรก ที่แสดงถึงการพร่องของฮอร์โมนเพศชาย คือถ้ามีเส้นรอบเอวเกินกว่า 94 เซนติเมตรในคนตะวันตก และเกินกว่า 90 เซนติเมตรในคนตะวันออก ในชายที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรมและเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีระดับเทสโทสเตอโรนในเลือดต่ำกว่าปกติ การเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนอาจจะช่วยในการรักษาเมตาบอลิกซินโดรมและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
โดยมีการศึกษาในระยะเวลา 52 สัปดาห์ ได้ศึกษาผลของการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยมีหรือไม่มีการรับเทสโทสเตอโรนทางผิวหนังในชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศต่ำและเพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยชายทั้งหมด 32 คน ซึ่งมีระดับฮอร์โมนเพศต่ำ (เทสโทสเตอโรนต่ำกว่า 12.0 nmol/L) ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะเมตาบอลิกซินโดรมจาก Adult Treatment Panel III และ International Diabetes Federation รับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่ง 16 คนได้รับเทสโทสเตอโรนเจล 50 mg ทุกวันวันละครั้ง ในระหว่างการศึกษานี้ไม่มีการให้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด พบว่าระดับเทสโทสเตอโรน, เบาหวานแอบแฝง (HbA1c), ระดับน้ำตาล, ไขมันดี, ไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และรอบเอวดีขึ้นในกลุ่มการทดลองทั้งสองกลุ่มหลังจากรักษาเป็นเวลา 52 สัปดาห์
นอกจากนี้พบว่าในกลุ่มที่ใช้เทสโทสเตอโรน ผลการตรวจเหล่านี้จะพัฒนาดีกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้มาก โดยกลุ่มที่ใช้เทสโทสเตอโรนทุกคนจะมีระดับเบาหวานแอบแฝงน้อยกว่า 7.0% และพบว่าร้อยละ 87.5 ของเบาหวานแอบแฝงน้อยกว่า 6.5% ขณะที่กลุ่มที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย โดยไม่มีการให้ฮอร์โมนมีเพียง 31.3% เท่านั้นที่มีอาการดีขึ้น
การรักษาด้วยเทสโทสเตอโรนยังช่วยปรับปรุงระดับ insulin sensitivity, adiponectin และ C-reactive protein ให้ดีขึ้นด้วย
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการรักษาด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและรับเทสโทสเตอโรนผ่านทางผิวหนังเป็นเวลา 52 สัปดาห์สามารถช่วยรักษาภาวะเมตาบอลิกซินโดรม และควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีขึ้น สุดท้ายความแข็งตัวอวัยวะเพศจะได้คืนมาจากการฝึกให้แข็งนาน 30 นาทีทุกวัน โดยไม่ต้องกินยาเฉพาะกิจ สามารถร่วมเพศได้ ยิ่งฝึกก็ยิ่งแข็งแรง ฝึก 2 ครั้งก็จะเข้าใจ โชคดีครับ.
ดร.โอ สุขุมวิท 51