จองกันถล่มทลาย! โครงการบ้านเพื่อคนไทย สำหรับคนที่ยังไม่มีบ้าน ใน 4 พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก่ บริเวณ กม.11 (วิภาวดีฯ), ธนบุรี, เชียงราก และเชียงใหม่ รวม 4,800 หน่วย

เพียงแค่ 4 วัน (17-20 .. 68) มีผู้เข้าชมผ่านเว็บไซต์บ้านเพื่อคนไทยประมาณ 60 ล้านวิว มีคนแสดงความจำนงขอใช้สิทธิซื้อบ้านเกือบ 2.2 แสนราย ผ่าน Pre-Approve ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เกือบ 1.2 แสนราย แต่จะเปิดให้จองถึงวันที่ 31 ..68 หรือไม่! กระทรวงคมนาคม และผู้บริหารบริษัท เอสอาร์ทีแอสเสท จำกัด บริษัทลูกของ รฟท. ซึ่งรับผิดชอบโครงการดังกล่าวกำลังประเมินอยู่

มีน้อง ๆ 4-5 คน เพิ่งทำงานกันได้ 2-3 ปี ในที่ทำงานเดียวกับ “พยัคฆ์น้อย” ก็จองซื้อบ้านโครงการบ้านเพื่อคนไทยด้วยเหมือนกัน! สอบถามทุกคนยังเช่าคอนโดฯ-อพาร์ตเมนต์อยู่เดือนละ 5,000-7,000 บาท บวกค่าน้ำ-ค่าไฟ อีกประมาณ 1,200 บาท/เดือน

เมื่อรัฐบาลทำโครงการแบบนี้ สำหรับคนที่ยังไม่มีบ้าน ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ผ่อนชำระผ่าน ธอส. เดือนละ 4,000 บาท ดอกเบี้ย 2.5% ได้สิทธิอยู่อาศัยบนที่ดินของการรถไฟฯ ไป 99 ปี คุ้มเกินคุ้ม!

คนขับขี่มอเตอร์ไซค์ หรือต้องโหนรถเมล์ไปทำงาน เมื่อเจอ “โครงการรถยนต์คันแรก” มันก็ช่วยยกระดับ-ฐานะ-คุณภาพชีวิตให้เขา!

เหมือนกันโครงการบ้านหลังแรก ผู้จองคือคนที่ยังไม่มีบ้าน หรือมีบ้านอยู่กับพ่อแม่ในสลัมชุมชนแออัด โครงการบ้านหลังแรกจึงช่วยยกระดับฐานะคุณภาพชีวิต และความภาคภูมิใจให้เขา!

ช่วงปี 55-56 พรรคพวกหลายคนชวนกันไปหาซื้อบ้านอยู่ตามแนวสถานีรถไฟความเร็วสูงที่อยุธยา-ลพบุรี-ฉะเชิงเทรา เนื่องจากรัฐบาลจะสร้างรถไฟความเร็วสูง สายเหนือ-อีสาน-ตะวันออก-ใต้

ราคาบ้านที่อยุธยา-ลพบุรี-ฉะเชิงเทรา คงไม่แพงเท่าบ้านในกรุงเทพฯ แถมไม่ต้องขับรถ ไม่ต้องเจอปัญหา PM 2.5 แต่นั่งรถไฟความเร็วสูงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ

รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง คิดจะทำรถไฟความเร็วสูงก่อนประเทศอินโดนีเซีย แต่ถูกเบรกหัวทิ่ม! เพราะม็อบชัตดาวน์กรุงเทพฯ-ถนนลูกรัง-รัฐประหาร

อินโดนีเซียคิดช้ากว่าไทย แต่เขาไม่มีรัฐประหาร ไม่ให้ราคาถนนลูกรัง! รถไฟความเร็วสูงสายแรกของอินโดนีเซีย (จาการ์ตาบันดุง) จึงเปิดบริการตั้งแต่ปี 66 เป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกในอาเซียน

วันก่อนเห็นข่าวเวียดนาม จะทำรถไฟความเร็วสูง ระหว่างฮานอย-โฮจิมินห์ ระยะทางเกือบ 1,600 กิโลเมตร เพื่อลดเวลาเดินทางระหว่าง 2 เมือง จาก 33 ชั่วโมง ลงมาเหลือไม่ถึง 7 ชั่วโมง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดให้บริการตลอดเส้นทางภายในปี 2578

ส่วนรถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย (กรุงเทพฯ-หนองคาย) ลงมือตั้งแต่ปลายปี 60 ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช สร้างไปยังไม่ถึง 40% ช่วงโคราช-หนองคาย ยังไม่ได้เปิดประมูลหาคนมาก่อสร้าง

คนไทยเสียเวลา เสียโอกาสไป 10 ปี ไหนจะค่าก่อสร้างแพงกว่ากันกิโลเมตรละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากกรุงเทพฯ-หนองคาย 609 กิโลเมตร เราต้องจ่ายแพงขึ้นถึง 6.09 หมื่นล้านบาท เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง.

……………………………………….
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…