มารู้จัก “วันกอดแห่งชาติของสหรัฐฯ” (National Hugging Day) วันสำคัญสากลที่ช่วยกระตุ้นและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการกอด ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ตรงกับวันที่ 21 มกราคม ของทุกปี

วันกอดสากล เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1986 หรือเมื่อ 34 ปีก่อน โดยบาทหลวงนามว่า เควิน ซาบอร์นีย์ ที่อาศัยอยู่ในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา เขาเห็นว่า ชาวอเมริกันอยู่ในสังคมที่ไม่ค่อยแสดงความรักต่อกันในที่สาธารณะ จึงพยายามรณรงค์ให้มีการกอดกัน 1 วันในทุก ๆ ปี โดยเลือกช่วงเดือนมกราคมที่เป็นฤดูอันหนาวเหน็บ และกำหนดให้วันที่ 21 มกราคม เป็นวันแห่งการกอด นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 เป็นต้นมา

ต่อมาการรณรงค์นี้ ก็ถูกเผยแพร่ออกไป เริ่มจากในเมืองคาโร แห่งรัฐมิชิแกน (ที่บาทหลวงอาศัยอยู่) ได้ขยายออกไปในวงกว้าง จากเมืองสู่รัฐ จากรัฐสู่ประเทศ จนกลายเป็นว่า มีประเทศนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา อาทิ แคนาดา เยอรมนี จอร์เจีย อังกฤษ ออสเตรเลีย บัลแกเรีย ฯลฯ ต่างกำหนดให้วันที่ 21 มกราคม เป็นวันกอดสากลเช่นเดียวกัน

– ในช่วงปี 1560 คำว่า “Hug” ถูกนำมาใช้เป็นคำศัพท์แปลว่ากอด โดยคาดว่ามาจากคำว่า “Hugga” ในภาษานอร์สโบราณ (Old Norse)

– ในปี 1986 วันกอด (National Hugging Day) ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยบริษัทประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ (Detroit) อ้างว่าถูกจัดขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 1986 ในเมืองคลีโอ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา

– ในปี 2011 วันกอด (National Hugging Day) ถูกพูดถึงและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเยอรมนี

– ในปี 2012 คริสต์ คริสตีส์ (Chris Christie) และ บารัค โอบามา (Barack Obama) กอดเพื่อแบ่งปันความรู้สึกกันในการไปเยือนนิวเจอร์ซีย์ หลังพายุเฮอริเคนแซนดี้ ถือเป็นอ้อมกอดทางการเมืองที่หาดูได้ยาก

การกอดที่น่าสนใจ
1.กอด 12 ครั้งต่อวัน
เชื่อว่าหลายคนคงไม่ได้สนใจจำนวนครั้งที่กอดต่อวันกันสักเท่าไร แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้วจำนวนนั้นก็สำคัญไม่แพ้เรื่องไหน เพราะนักบำบัดบอกไว้ว่า เราต้องการกอด 4 ครั้งต่อวัน เพื่อการอยู่รอด เราต้องการกอด 8 ครั้งต่อวัน เพื่อการบำรุงร่างกาย และเราต้องการกอด 12 ครั้งต่อวัน เพื่อการเติบโต แม้อาจจะดูเป็นจำนวนที่มาก แต่เพียงแค่เรากอดเพื่อน คนรัก และครอบครัว โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้ง่ายดายแล้ว

2.กอดลดความเครียดได้ 32%
จากการวิจัยในปี 2015 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon University) ที่นำผู้ใหญ่สุขภาพแข็งแรง 404 คน มาทดลอง พบว่าคนที่ได้รับการสนับสนุนจากสังคมมีโอกาสที่จะเป็นหวัดน้อย หรือแม้แต่คนที่เป็นหวัด หากได้รับการสนับสนุนจากสังคมหรือคนอื่น ได้รับการกอดบ่อยขึ้น ก็จะไม่ค่อยมีอาการป่วยสักเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า การกอดช่วยลดความเครียดลงได้ถึง 32% เลยด้วย

3.กอด 20 วินาที
ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะกอดกันเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 3 วินาทีเท่านั้น ทว่าถ้าหากใครอยากให้การกอดดีต่อสุขภาพและมีประสิทธิภาพขึ้น ขอแนะนำให้กอดให้นานขึ้น สักประมาณ 20 วินาที เนื่องจากในระหว่างที่กอดร่างกายจะปล่อยออกซิโทซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและลดความกังวลออกมา (บางที่รู้จักในชื่อ “ฮอร์โมนแห่งการกอด Cuddle Hormone)” จึงทำให้ตลอดระยะเวลา 20 วินาทีนี้ ช่วยลดความดันเลือดและลดนอร์อิพิเนฟริน หรือฮอร์โมนความเครียดลงได้นั่นเอง

วันกอดสากลนี้ กอดกันได้ทั้งเพื่อน คนรัก สัตว์ และสมาชิกในครอบครัว ที่ผ่านมาเคยมีผลการศึกษามากมาย ส่วนใหญ่ต่างระบุตรงกันว่า การสัมผัสร่างกายกันของมนุษย์ จะช่วยส่งเสริมให้อารมณ์และสุขภาพจิตดีขึ้น โดยเฉพาะ ‘การกอด’ ที่ช่วยพัฒนาทางด้านจิตใจ มากไปกว่านั้น ยังช่วยระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ รู้อย่างนี้แล้วรีบมองหาคนกอดกันดีกว่า!

ขอบคุณข้อมูลจาก daysoftheyear, nationaltoday