หลังจาก “โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ” ผู้กำกับชื่อดังได้เปิดโลกของความสยดสยองในปี 2548 ด้วยการนำพาผู้ชมทั้งประเทศ เข้าสู่โลกของไสยศาสตร์มนต์ดำแบบถึงลูกถึงโคนจากภาพยนตร์ “ลองของ” จนสามารถกวาดรายได้ไปมากกว่า 60 ล้านบาท ในปี 2551 “พาสิทธิ์ บูรณะจันทร์” และ “อรรถ ธรรมตระกูล” สองผู้กำกับไฟแรงก็ได้สานต่อความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อ “ลองของ 2” สามารถกวาดรายได้ไปมากกว่า 44 ล้านบาท โดยทั้งสองภาคล้วนเกี่ยวข้องกับครูสาวที่ชื่อ “พนอ” ทั้งสิ้น

บทสรุป “ลองของ 1” เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ต๊ะ, ปอ, คิ้ม, แต, นุช และโก้ ที่นัดรวมตัวกันในช่วงปิดเทอมเพื่อกลับมาเยี่ยม “ครูพนอ” อดีตครูสาวสวยที่เคยสอนพวกเขาสมัยมัธยม และเธอยังเป็นแม่เลี้ยงของ “ต๊ะ” อีกด้วย แต่ใครจะรู้เลยว่า การกลับมาคราวนี้ชีวิตของพวกเขาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะแท้จริงแล้ว “ครูพนอ” กำลังสางแค้นเอาคืน เหล่านักเรียนหนุ่มว่าจ้าง “หมอแขก” ทำของใส่เธอ ที่สำคัญพลังมนต์ดำและอำนาจทั้งหมดได้เข้าไปอยู่ร่างกายของเธอหมดสิ้น เดาตอนจบหนังได้ทันทีว่าเหล่านักเรียนตัวแสบที่ว่าจ้างทำของใส่ “ครูพนอ” มีจุดจบแบบสยดสยองทุกคน


บทสรุป “ลองของ 2” เป็นการบอกเล่าไทม์ไลน์ ก่อนเกิดภาค 1 ประมาณ 1 ปี ในช่วงที่ “ครูพนอ” โดนทำของใส่แต่เธอจัดการ “หมอแขก” ได้สำเร็จ ด้วยการกินเนื้อสด ๆ ของ “หมอแขก” ทว่าฤทธิ์มนต์ดำทำให้เธอเสียสติ จนถูกจับส่งรพ.เพื่อรักษาอาการ ระหว่างนั้น ครอบครัวของ “เพ็ญ” (พยาบาลในรพ.) กลับจับเอาเธอไปทำพิธี “เรียกขวัญ” นำเอาวิญญาณของ “เดือน” พี่สาวของเพ็ญที่ตายไปแล้วมาเข้าร่างของ “ครูพนอ” ซึ่งคนทำพิธีก็คือ “จ่าดิษ” เพื่อนของ “หมอแขก” ที่ต้องการครอบครองอำนาจมนต์ดำในตัวของ “ครูพนอ” แต่ท้ายที่สุด “ครูพนอ” ได้พลังจาก “องค์เทพ 3 ตา” เธอได้กลับเข้าร่างตัวเองก่อนจะใช้มนต์ดำจัดการทั้ง “จ่าดิษ” และ ครอบครัวของ “เพ็ญ” แบบสยอง 100% และในตอนจบของเรื่องนี้ ยังเป็นการเฉลยเรื่องราวของ “ต๊ะ” ที่ถูกทรมานจนตาย ซึ่งเขากลายเป็น “ผี” ไปรับเพื่อน ๆ มายังบ้านของ “ครูพนอ” ในภาคแรกอีกด้วย


เรื่องย่อ ย้อนกลับไปในอดีต ช่วงที่ “พนอ” เด็กสาวที่เกิดมาใน “วันปล่อยของ” ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่าเธอเป็นตัว “เสนียดจัญไร” ใครอยู่ใกล้จะมีอันเป็นไปจากการถูกคุณไสยเล่นงาน แต่ใครจะรู้เลยว่าแท้จริงแล้วคนที่ตายไปนั้น กลับกลายเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้เล่นคุณไสยมนต์ดำ เพราะพวกมันจ้องทำลายทุก ๆ คนที่เช้าใกล้ตัวเธอให้ตายอย่างทรมาน อะไรคือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ความลับอันดำมืดที่เด็กสาวคนหนึ่งต้องเผชิญจะมีบทสรุปอย่างไร ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น


จุดแข็ง งานขายความสยองของค่าย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ต้องขออนุญาตเทให้คะแนนแบบ 10/10 เพราะด้วยเทคนิกค CGI ระดับเทพ เนรมิตรเหล่าสัตว์ร้ายอย่าง ตุ๊กแก แมงมุม ไต่ตามเนื้อตัวยุบยับ บางตัวก็มุดทะลุร่างกายออกมาแบบสยดสยองสมจริง นี่ยังไม่รวมฉากโหด ๆ ที่ไม่ต่างอะไรกับหนังสยองจากต่างประเทศ


สำหรับบทบาทของนางเอกอย่าง “พนอ” สมัยวัยรุ่นนั้น “พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว” ผู้กำกับได้เปิดเผยว่า “คุณเฌอ” หรือ “เฌอปราง อารีย์กุล” ได้ทุ่มทุนการแสดงในแบบ method acting คิดว่าตัวเองเป็น “พนอ” ตลอดเวลา นั่นจึงทำให้ผู้ชมจะได้เห็นใบหน้าของเด็กสาวที่จมอยู่กับความทุกข์ ไปพร้อม ๆ กับเด็กสาวที่มีแววตาเย็นชาแต่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ถือเป็นการพลิกบทบาทงานการแสดครั้งสำคัญของ “คุณเฌอ” จริง ๆ


จุดอ่อน หนังมีการเล่าย้อนไปมา แล้วไม่ปะติดปะต่อ บริบทของตัวละคร มีหลายสิ่งอย่างที่ชวดให้ดูน่าสงสัยเพราะความไม่สมจริงเกี่ยวกับเวลาซึ่งดูแล้วยังไม่สมูท บางช่วงบางตอนผู้ชมอาจต้องตั้งคำถามว่า “…อิหยังวะ..แบบนี้ก็ได้หรือ?…” นอกจากจากนี้ยังมีปัญหาเรื่อง การทำหนังให้มันดูตึงเครียดตลอดเวลา ไม่มีตัวตัดบทขโมยซีน เพื่อให้หนังไหลลื่น ผ่อนคลาย ความอึดอัดของหนังอาจทำให้ผู้ชมบางท่านไม่ค่อยโอเค ดังนั้น คนที่คิดว่าจะมีอะไรผ่อนคลายไหม… บอกเลย เรื่องนี้ เครียด หดหู่ มีฉากทรมานค่อนข้างมาก ไม่เหมาะกับคนที่มีจิตใจอ่อนไหว


5/5 กะโหลก แม้บทตลก หรือ ตัวคอยขโมยซีน จะหาไม่เจอจากในหนังเรื่องนี้ แต่การแสดงแบบตึงอารมณ์ผู้ชมชนิดวางสายตาไม่ได้เลยตลอด 125 นาที นั้นปรากฏว่า “คุณเฌอ” เอาอยู่ ที่แน่ ๆ ถ้าใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังเรื่อง ลองของ 1 และ 2 คุณจะรับรู้ได้ทันทีว่า มี Easter Egg ของหนังทั้ง 2 ภาคแฝงไว้มากมาก รวมไปถึงฉาก End credit ช่วงท้ายด้วย.


——————————
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Five Star Movies