@ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ”เทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2568” ซึ่งไม่ว่า”เศรษฐกิจ” ของประเทศจะ”เป็นอย่างไร” แต่เรื่อง”ปีใหม่” ยังเป็นเรื่อง”สำคัญ” สำหรับ”คนไทย” ที่มีการ”ฉลองปีใหม่”กันทั่วประเทศ ความ”ครึกครื้น” จึงเกิดขึ้นทุกพื้นที่ทุกจังหวัดเพราะนี่คือ”ประเพณี”ของคนไทยที่คิดหวังว่า”ปีใหม่” ทุกอย่างจะต้อง”ดีขึ้น” และชีวิต”ต้อง”ดีกว่าเดิม” อย่างน้อย”เทศกาลปีใหม่” ที่ผ่านมา ก็ทำให้”เงินสะพัด” ทั่วประเทศ โดยเฉพาะ”เมืองท่องเที่ยว”ทั้ง”เมืองหลัก” และ”เมืองรอง” …… ก่อนที่จะมาอยู่กับ”ข้อเท็จจริง” หลังผ่านพ้น”เทศกาลปีใหม่”ที่คน”ระดับรากหญ้า” และ”ชนชั้นระดับกลาง”ยังต้องใช้ชีวิตแบบ”ปากกัดตีนถีบ” สำหรับ”รากหญ้า” และ”ระมัดระวัง”ในการ”ใช้จ่าย”สำหรับ”ชนชั้นกลาง” เพราะยังมองเห็นว่า”เศรษฐกิจ” โดยรวมของ”ประเทศไทย” จะ เดินไปใน”ทิศทางไหน” จะดีขึ้นในปี 2568 หรือไม่ หรือยิ่งจะ”ตกต่ำ” เพราะ “หันซ้ายแลขาว” เห็นแต่” ข่าวสาร” จาก”กูรู” และ”นักวิชาการ”ด้าน”เศรษฐศาสตร์” และ”ผู้รู้” ด้าน”ธุรกิจการค้า” ต่าง”วิพากษ์วิจารณ์”ว่า” เศรษฐกิจ”ของประเทศไทยไปในด้าน”ดำดิ่ง” ที่ทุกคนต่างลงความเห็นว่าปี 2568 เป็นปีที่”เผาจริง” ส่วนปีที่ผ่านมาเป็นการ”เผาหลอก”  ฟังแล้ว ก็ เฉยไว้บ้าง” อย่าเพิ่ง”ตระหนกตกใจ” เพราะ”นักวิชาการ”และ”กูรู” ทาง”เศรษฐกิจ” พูดเรื่อง”เผาจริง-เผาหลอก” มาหลายปีแล้ว แต่”สุดท้าย” ประเทศไทย” ก็ยัง”เดินหน้า”ไปได้ แม้จะเป็นการ”เดินหน้า”แบบ”กระท่อนกะแท่น” ก็ตาม เพราะประเทศไทยมี”จุดแข็ง” ที่”ทุกคนไม่ได้งอมืองอเท้า” รอ”รัฐบาล”ในการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” เพียงฝ่ายเดียว ทำให้ทุก”ภาคส่วน” ทุก”อาชีพ” สามารถ”ฝันฝ่า” ปัญหาและ”อุปสรรค” ไปได้…..

@ในส่วนของ”รัฐบาล” ที่มี”น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” นั้น จะนำพาประเทศไปสู่ความ”ล้มเหลว” หรือความ”สำเร็จ” ในเรื่อง”เศรษฐกิจ” และการ”ลงทุน”ไปได้แค่ไหนในปี 2568 ยังไม่มีใครจะ”พยากรณ์”ได้อย่าง”แม่นยำ” แต่ที่เห็นคือเรื่องของ”แลนด์บริดจ์” ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีการ”ผลักดัน” ในครั้งที่”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น”นายกรัฐมนตรี”  เพื่อ”เชื่อมสองฝั่งทะเล” เปิดเส้นทาง”คมนาคม” ในการ”ขนส่งสินค้า” ย่นระยะทาง วันนี้ไม่เห็น”รัฐบาล” กล่าวถึงอีกแล้ว แม้แต่”ทักษิณ ชินวัตร” นายกัฐมนตรี”ตัวจริง” ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของ”แลนด์บริจด์”…..เช่นเดียวกับเรื่องของ”ซอฟต์พาวเวอร์” ที่เป็นโครงการของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่เคยใช้ในการ”หาเสียง”กับ”ประชาชน” ในการ”เลือกตั้ง” ที่ผ่านมา วันนี้เรื่องของ”ซอฟต์พาวเวอร์” ก็ไม่เห็นอะไรที่”เป็นรูปเป็นร่าง” หน่วยงานของแต่ละจังหวัดไม่มีมีการให้ความสำคัญในการ”ขับเคลื่อน” ให้เห็น”เป็นมรรคเป็นผล” แต่อย่างใด  ก็ไม่ได้บอกว่านี่คือความ”ล้มเหลว” แต่ก็ไม่เห็นความ”สำเร็จ”…..ยิ่งใน”ระดับภูมิภาค” ไม่ว่าจะเป็น”เหนือ,ใต้.ตก,ออก” รัฐบาลนี้ บริหารประเทศมา 1 ปี 4 เดือน ยังไม่เห็นว่าจะมี”โครงการ” อะไรที่จะเกิดกับ”ภูมิภาค”ต่างๆ แม้แต่”ภาคใต้” ซึ่งมีปัญหาการขาดการ”พัฒนา” ในเรื่องของ”อุตสาหกรรม” ขนาดใหญ่ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเฉพาะใน “ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่มี”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต.) เป็นผู้”รับผิดชอบ” ใน”มิติ” ของการ”พัฒนา” ที่ วันนี้เรื่องของ”เมืองต้นแบบ” ต่างๆ ที่มีการ”ริเริ่ม” และ”ผลักดัน”ให้เกิดขึ้นในยุคของ”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกรัฐมนตรี  เพื่อเป็นการ”เสริมสร้างเศรษฐกิจ” การเกษตร การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การค้าชายแดน ต่าง”ล้มเหลว

@เมืองต้นแบบ”อุตสาหกรรมการเกษตร”ใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี  ไม่มีการ”เดินหน้าไปต่อ” เมืองต้นแบบ” อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ของ”จังหวัดยะลา ก็มีความ”เติบโต” ที่ อ.เบตง” เพียงที่เดียว ซึ่ง”เบตง” เป็นการ”เติบโต” ตาม”ธรรมชาติ” ที่แม้หน่วยงานของรัฐไม่เข้าไป”ส่งเสริม” ก็ เติบโตได้โดย”ศักยภาพ” ที่มีอยู่ในตัว ส่วนเมืองต้นแบบ”ธุรกิจการค้าชายแดน”ที่ จังหวัดนราธิวาส”เหลวเป๋ว” ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่โครงการเดียว แค่เรื่อง”ที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม” ผ่านไปแล้ว 5 ปี ก็ยังทำไม่ได้ ที่สำคัญ ตั้งแต่”รัฐบาล”ของ”แพทองธาร ชินวัตร” เข้ามา”บริหารประเทศ” มีแต่”พูดกับพูด” ถึงเรื่องของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่เป็นเพียง”นามธรรม” แบบ”น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง” แต่ไม่มีอะไรที่เป็น”รูปธรรม” ให้”จับต้องได้” ยกเว้นคำพูดของ”นายกรัฐมนตรี” ที่ว่า ไม่ได้”ทิ้งภาคใต้” เพราะ”สามีเป็นคนใต้” ก็แค่นั้น…..

@ที่สำคัญ” เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคต”  หรือ” นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” ที่”ลงทุน” โดย”เอกชน” ทั้งหมด ซึ่ง”รัฐบาล” ให้การ”สนับสนุน”เพียง”โครงสร้างพื้นฐาน” ถนน ประปา ไฟฟ้า รัฐบาล ยังไม่ให้ความ”สนใจ” ในการที่จะ”ผลักดัน” ให้เกิดขึ้น ทั้งที่หาก”ผลักดัน” ให้เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” เกิดขึ้นได้ใน อ.จะนะ จ.สงขลา จะเป็นการ”แก้ปัญหา” การ”ว่างงาน” ของคนในพื้นที่เป็น”แหล่งงาน”ของ”นักศึกษา”ที่จบการศึกษาและ”ตกงาน” เป็นที่”ต่อยอด” ให้เกิด”อุตสาหกรรม” ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อการ”พัฒนา” จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่”รัฐบาล” ก็”เพิกเฉย” โดยไม่ได้ให้”เหตุผล” ในการที่ไม่”สนับสนุน” การลงทุนของ”เอกชน” ในเรื่องของ”เมืองต้นแบบอุตสาหกรรม”แห่งนี้ ทั้งที่”โครงการนี้” ผลักดันโดย “ศูนย์อำนวยการบริหารจังชายแดนภาคใต้” และมีการ”เห็นชอบ” จาก”คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” โดย”พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ์ “รองนายกรัฐมนตรี ในคณะรัฐบาลของ”พล.อ.ประยุทธฺ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น  เมื่อเป็นเช่นนี้จะให้”คนภาคใต้” เข้าใจอย่างไรกับการ”บริหารประเทศ”ของ”เพื่อไทย” ที่เป็น”แกนนำ” รัฐบาล ที่ไม่ให้ความ”สำคัญ” กับการ”แก้ปัญหา” และการ”พัฒนา” จังหวัดชายแดนภาคใต้…..ทราบว่าในเดือน “มกราคม “ นี้” รัฐบาล จะมีการประชุม”ครม.สัญจร” ที่ จังหวัดสงขลา  ก็จะเป็นอีก”บริบท”หนึ่งที่ “ประชาชน”ชาว”ภาคใต้” จะได้เห็นว่า”รัฐบาล” จะนำโครงการ”อะไรไปให้กับ”ประชาชน” หรือเป็นเพียง”ยาหอม” อย่างที่แล้วๆมา เพราะ”พูดได้”แต่”ไม่ได้ทำ” …..

@เรื่องการ”พัฒนาภาคใต้” มี”ตำนาน” ให้”จดจำ” และ”เล่าขาน” ในสมัยของ”ประชาธิปัตย์” เป็น”รัฐบาล” มีโครงการ”เซ้าท์เทรินซีบอร์ด” ที่สร้างความหวังในเรื่องการ”พัฒนาเศรษฐกิจ”ของภาคใต้ แต่”สุดท้าย”ก็”ล้มเหลว” วันนี้”เซ้าท์เทรินซีบอร์ด” ที่เห็นอยู่คือ”ถนนสายหนึ่ง” ที่เหลือไว้เป็น”อนุสรณ์” ของอภิมหาโครงการ” เช่นเดียวกับ”โครงการท่าเรือปากบารา” ซึ่งเป็น”โครงการใหญ่” ที่เกี่ยวกับการ”ขนส่งสินค้า” ที่ “เชื่อมโยง” ระหว่าง”ฝั่งอันดามัน”กับ”อ่าวไทย” ที่ถูก”ยกเลิก” ในสมัยที่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็น”นายกรัฐมนตรี” และต่อด้วย”แลนด์บริดจ์” ในสมัยของ”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น” นายกรัฐมนตรี” ซึ่งเป็น”อภิมหาโครงการ” สุดท้ายที่มาจาก”รัฐบาล” ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ที่ไม่เคย”เกิดขึ้นจริง”กับ”แผ่นดิน”ของ”ภาคใต้”ทั้งหมดเป็นเรื่องของ”เศรษฐกิจ” ที่มีผลกระทบกับ”ปากท้อง”และ”รายได้”ของประเทศ นี้ถ้าไม่มี”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ได้เป็น”นายกรัฐมนตรี” เชื่อว่า”สะพานติณสูลานนท์”ที่ใช้”ข้ามทะเลสาบสงขลา”คงยังไม่มี”คนเกาะยอ”ยังคงใช้เรือ”สัญจร”ในการติดต่อกับ”แผ่นดินใหญ่” และ”ท่าเรือน้ำลึกสงขลา”ก็คงยังไม่เกิดขึ้น เหตุผลเพราะ”นักการเมือง”ที่คิดแต่เรื่อง”ประโยชน์ส่วนตน” มากกว่า”ประโยชน์ของส่วนรวม” นี้คือเรื่อง”การพัฒนาเศรษฐกิจ”ของภาคใต้ ที่กลายเป็นภูมิภาค” ที่”ล้าหลัง” และถูก”ทอดทิ้ง” อย่างยาวนาน…..

@ส่วนเรื่องของ”การเมือง” ที่ “เดือนมกราคม” คือเดือนแห่งการ”หาเสียง” ในการเลือก”ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หรือ” อบจ.” ที่”ดุเดือดเลือกพล่าน”ในทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาค”ตะวันออกเฉียงเหนือ-ภาคกลาง” และ”ภาคเหนือ” ที่” นายกตัวจริง” อย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” บิดาของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ตาม”รัฐธรรมนูญ” ที่ลงพื้นที่ช่วยผู้”สมัคร”ของ”เพื่อไทย” ในการ”เดินสายปราศรัยหาเสียง” เพื่อต้องการ”กวาดที่นั่งนายก อบจ.” ให้ได้มากที่สุด  การเดินสาย”หาเสียง”ครั้งนี้ของ”ทักษิณ ชินวัตร” เป็นการ”แสดง”ตัวตน”ที่”ชัดเจน”ที่เป็นการบอกให้”สังคมไทย”ได้รับรู้ว่า”ใครคือหัวหนาพรรคตัวจริง”ของ”พรรคเพื่อไทย” เพราะการ”เลือกนาย อบจ. ครั้งนี้จะเป็นการ”ชี้ขาด” ถึงจำนวน “ของ” สส”.ของ”เพื่อไทย” ในอนาคต แต่ในการ”ขับเคลื่อน”ทางการเมืองท้องถิ่น”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ในครั้งนี้ก็เป็นการ”แตกหัก” กับ”พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง”ภูมิใจไทย” เพราะการ”กวาดชัยชนะ” ให้ได้มากที่สุดของ”ทักษิณ ชินวัตร” ใน เวทีการเมืองท้องถิ่นหมายถึงต้อง”ล้ม” คนของ”ภูมิใจไทย” ที่”ยึดครอง” ที่นั่ง”นายก อบจ.” อยู่ จำนวนหนึ่ง เวที”การเมืองท้องถิ่น” ของ”เพื่อไทย” จึงเว้นไว้เพียง”ภาคใต้” ที่”เพื่อไทย” ไม่มีการ”แข่งขัน” แต่”ทักษิณ ชินวัตร” ก็ไม่ปล่อยให้พรรคอื่นๆได้”ลอยนวล” เพราะมี” ร.อ.ธรรมนัส” พรหมเผ่า” ที่เป็น”ตัวแทน” ในการ”สนับสนุน” กลุ่มของ”การเมืองท้องถิ่น” ซึ่งอยู่ใน”คอนโทรล” ของ” รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่เป็นที่รู้กันว่าเป็น”พันธมิตร”ของ”เพื่อไทย” ที่ในการ”เลือกตั้ง สส.” สมัยหน้า ย่อมเป็นผู้”สนับสนุน” พรรคเพื่อไทย อยู่แล้ว……

@ดังนั้นวันนี้”ทักษิณ ชินวัตร” อดีต นายกรัฐนตรี ที่กลับ”บ้านเกิดเมืองนอน” แค่ปีกว่า ที่สามารถหา”วิธี” ในการ”เรียกแขก” เรียก”อดีตศัตรู” ให้มา”รวมตัว” อย่างรวดเร็ว โดยมี”เป้าหมาย” เดียวกัน นั่นคือการ”โค่นล้ม” ทั้ง”ทักษิณ ชินวัตร” และคนของ”ตระกูลชิน” โดยเฉพาะการพา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้เป็น”น้องสาว” อดีต”นายกรัฐมนตรี” กลับบ้าน วันนี้กลายเป็น”ประเด็นการเมือง” ที่”ศัตรู” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ใช้ในการ”เรียกแขก” ครั้งใหญ่อีกครั้ง ในการสร้าง”ความชอบธรรม” เพื่อเรียกร้องให้”ประชาชน” ลงถนน อีกครั้ง …… เมื่อ “การเมือง” มีแต่”ประเด็น” ที่นำไปสู่ความ”แตกแยก” และนำไปสู่การ”ปลุกปั่น” ให้คนในชาติเกิดการ”เกลียดชัง” และมีการ”แบ่งขั้วแบ่งสี”  บ้านเมือง ที่มีแต่ “ปัญหา” อย่างนี้ จะนำไปสู่การ” พัฒนา”ในเรื่องของ”เศรษฐกิจ” และการ”ลงทุน” ได้อย่างไร ดังนั้น เราจึงเห็นแต่”กลุ่มทุนจีน” และ”จีนเทียม” กับ “จีนที่ฉวย”โอกาส” ในยามที่”เศรษฐกิจ”ของไทย”ตกต่ำ” เข้ามาเพื่อ”กว้านซื้อ” บ้าน ที่ดิน บริษัท โรงงาน ในราคาที่ถูกๆ และเข้ามา”ลงทุน” เพื่อรอ”จังหวะ” ในการ”สร้างกำไร” ส่วน นักลงทุนจาก ประเทศอื่นๆ เขาจะเลือกการ”ลงทุน” ในประเทศไทยเป็นที่”สุดท้าย” ในกลุ่มของ”อาเซี่ยน”…..

@แต่ใน”ข่าวร้าย” ก็มี”ข่าวดี” สำหรับ”คนไทย” ที่อายุ 60 ปี ขึ้นไป เพราะ”รัฐบาล” โดย”กระทรวงการคลัง” ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะ”แจกเงิน 10,000 บาท ให้ทุกคน ก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้แน่นอน  ถือเป็น”อั่งเปา” ในเทศกาล”ตรุษจีน” ที่จะมาถึงในวันที่ 28 มกราคม ที่จะถึงนี้ ก็ได้แต่หวังว่า”เงิน 10,000 บาท คงจะช่วย”กระต้นเศรษฐกิจ” โดยรวมของประเทศได้บ้าง และหากให้ดี ช่วงเวลาของ”เทศกาลสงกรานต์”  ซึ่งเป็นวัน”ปีใหม่ไทย” รัฐบาลควรจะ”แจกเงิน” อีกรอบ ซึ่งเป็น”รอบสุดท้าย” ให้”ประชาชน” ที่อายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป ตามที่”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ได้”หาเสียง”กับ”ประชาชน” เอาไว้ ส่วน”ผลพวง” จากการ”แจกเงินหมื่น” ครั้งนี้”หนี้สิน” ที่เกิดขึ้น”ทุกคน” ที่เป็น”คนไทย” ก็ช่วยกัน”แบกรับ” และช่วยกัน”ชำระหนี้”กันตาม”อัตภาพ” ถือว่าได้มีส่วน”ช่วยเหลือ” เพื่อนมนุษย์ที่”มีสิทธิ์” ซึ่งอยู่ใน”กติกา”ของการ”แจกเงิน” ในครั้งนี้ รวมทั้งถือว่าได้”มีส่วน” ในการ”สนับสนุน” พรรคเพื่อไทย ให้ได้”คะแนนนิยม” เพื่อให้การ”เลือกตั้ง” ครั้งหน้า ได้”คะแนน” มาเป็นอันดับหนึ่ง” เพื่อมา”บริหารประเทศ”อีกต่อไป ฮา ออก หรือไม่ออกก็ต้อง ฮา …..

@เมื่อ” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาคย์” หัวหน้าพรรค”รวมไทยสร้างชาติ” และ”รองนายกรัฐมนตรี” ผู้เป็น”เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” ทำการ”ทะลายห้าง” เพื่อ”รื้อ” โครงสร้างของ”พลังงาน” ที่การ”ผูกขาด” จาก”กลุ่มทุน” มาอย่าง”ยาวนาน” ด้วยการให้”ประชาชน”เข้าถึงการใช้ไฟฟ้าในราคาถูก เช่นการจัดหา”อุปกรณ์” ในการติดตั้ง”โซล่าเซลล์”และ”แบตเตอรี่” ในราคาที่”ไม่แพง” จากชุดละ 200,000 บาทให้เหลือเพียง 50,000 บาท  ซึ่งหาก”เป็นจริง” จะเป็น”ทางออก” สำหรับผู้ใช้”ไฟฟ้า” ในประเทศไทย” ที่จะได้”หลุดพ้น” จาก”วังวน” ของการ”จ่ายเงินค่าไฟ” ให้กับ” การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” และ”ไฟฟ้านครหลวง” ซึ่งเป็น สองหน่วยงานที่”ซื้อไฟฟ้า” จาก” การไฟฟ้าฝ่ายผลิต” ( กฟผ.) เพื่อมา”ขายต่อ” ให้กับ”ประชาชน” อาจจะเป็นเพราะ”โครงสร้าง” ที่”แบ่งปันผลประโยชน์” อย่างนี้ก็เป็นได้ที่ทำให้”ค่าใช้ไฟฟ้า”ของ”คนไทย” มี”ราคาแพง” ส่วนการ”ยกเลิก”การเปิด”ประมูล”พลังงานสะอาด” จำนวน 3,600 เมกกะวัตต์ และยังไม่มีการ”กำหนด” ว่าจะมีการแต่งตั้ง”คณะกรรมการ”หรือ”บอร์ด” ชุดใหม่ เพื่อเข้ามาดำเนินการ เรื่องนี้”พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” เสนาบดีกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไม่มีการ”ขัดแย้ง” และ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี มีการ”เห็นชอบ” ให้ ดำเนินการ สร้างความความ”โปร่งใส” และ”เป็นธรรม” เพื่อแก้ปัญหา”การผูกขาด” ในเรื่องของ”พลังงาน”  เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ “ประชาชน” ให้ความ”สนใจ” ก็ต้องติดตามดู ยาวๆ ว่าการ”ทลายห้าง” ที่”กลุ่มทุนใหญ่” ในประเทศทำการ”ผูกขาด” มายาวนาน เป็นเรื่องของการทำเพื่อ”ประชาชน” และ”ประเทศชาติ” จริง หรือเป็นเพียง”ปาหี่การเมือง” เพื่อการ”แบ่งเค้ก” กันใหม่ เพราะขึ้นชื่อว่า”การเมือง” มักจะมี”ผลประโยชน์” ที่”แอบแฝง” อยู่เสมอ และการที่”เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” กล่าวว่า”นายกรัฐมนตรี” แพทองธาร ชินวัตร” รับรู้”และ”สั่งการ”ให้มีการ”ทลายห้าง”ของการ”ผูกขาด”พลังงาน”จาก”กลุ่มทุน”ไม่ได้เป็นความ”ขัดแย้ง”ของ สองพรรคการเมือง และ”นายทุนพลังงาน” ที่เป็นคน”กำหนดโชคชะตา” ของคนไทยทั้งประเทศ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน…..

@เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับกับเรื่องที่” ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ”เสนาบดีกลาโหม” ที่จะ”รื้อ”โครงสร้าง ของการ”ดับไฟใต้” เนื่องจากเรื่องของ”ไฟใต้” หรือ”ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้” ผ่านมาแล้ว 21 ปี และก้าวขึ้นสู่ปีที่ 22 ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา แต่ยังมองไม่เห็น”หนทาง”ในการที่จะเห็น”แสสว่างที่ปลายอุโมงค์” ในการ”ยุติ”ปัญหา”ของ”ไฟใต้ การที่จะต้อง กลับมาพิจารณาโครงสร้าง” ทั้งของ”กองทัพ” และ”หน่วยงานความมั่นคง” โดยเฉพาะ” สภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ “สมช.” ซึ่งเป็นผู้”กำหนดยุทธศาสตร์” ด้านความมั่นคงของประเทศ มีอะไรที่”ไม่สมบูรณ์” และ”ไม่สมประกอบ” ไม่” รู้จริง” กับ”บริบท”ของ”ไฟใต้” หรือ”สมช. ณ ปัจจุบัน ถูก”ครอบงำ” โดยใคร จึงทำให้การกำหนด”ยุทธศาสตร์” ด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องการ”ดับไฟใต้” มีการ”ไข้วเขว” ที่แม้แต่ หน่วยงานของรัฐ ในพื้นที่ก็ยังไม่ยอมรับ”ยุทธศาสตร์” ที่กำหนดโดย “สมช.” เรื่องนี้ “ฉัตรชัย ”บางชวด”เลขาธิการ”สมช.มองอย่างไร และจะแก้อย่างไร…..

@แต่ใน”ประเด็น” ที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับ”ภูมิธรรม เวชยชัย”  เสนาบดีกลาโหม”คือการที่ลงความเห็นว่า” การที่”อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีประทศมาเลเซีย แต่งตั้งให้”ทักษิณ ชินวัตร” เป็นที่ปรึกษา จะทำให้ช่วยการ”ดับไฟใต้”ได้นั้น เห็นว่า”ไม่จริง”…. เปล่า ไม่ใช่ไม่เชื่อในความ”สามารถ”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” แต่ไม่”วางใจ” ในตัวของ”อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย เพราะมีความ”โน้มเอียง” ยังฝั่งของ “บีอาร์เอ็น” รวมทั้ง “สนับสนุน” การ”เคลื่อนไหว” ของ”ยุวมุสลิม” ในภาคใต้ของประเทศไทย ที่”บางส่วน” เป็น”ปีกทางการเมือง”ของ”บีอาร์เอ็น” ดังนั้นการ”ดับไฟใต้” ที่ได้ผลคือการ”รื้อโครงสร้างเก่า” ที่”ล้าหลัง” ไม่ทันกับการพัฒนาไปข้างหน้าของ”สถานการณ์” และของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” และใช้”โครงสร้างใหม่”ในการ”ดับไฟใต้” โดยมีการ”แก้กฎหมาย” ให้มี”กฎหมายการก่อการร้าย” เพื่อ”ปฏิบัติการ”กับ”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น “แทนการใช้”กฎอัยการศึก  พรบ.ความมั่นคง “ และ” พรก.ฉุกเฉิน” ที่”ล้าหลัง” และเป็นการเปิด”ช่องว่าง” ให้”บีอาร์เอ็น ,เอ็นจีโอ,ภาคประชาสังคม”และกลุ่ม”สิทธิมนุษย์ชน” นำไปเป็น”เงื่อนไข” กล่าวหา เจ้าหน้าที่รัฐ และ”รัฐบาล” ว่าเป็นการ”ละเมิดสิทธิเสรีภาพ” ของประชาชน…..

@ส่วนในเรื่องการ”ขับเคลื่อน” การ”พูดคุยสันติสุข” ที่ วันนี้” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น” ออกมา”เรียกร้อง”ให้”รัฐบาล” เร่งดำเนินการ เพื่อที่ “บีอาร์เอ็น” จะได้ใช้”เวทีการพูดคุย” ในการ”แสดงตัวตน” ที่มีความสำคัญ ใน”เวทีโลก” นั้น เรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่มีความ”จำเป็น” ของการ”ขับเคลื่อน” ขบวนการ”สันติภาพ” ในการสร้าง”ภาพลักษณ์” ที่อาจจะแฝง”ภาพลวง” ไว้ด้วย เพื่อให้”เวทีโลก” เห็นว่า”รัฐบาล” พร้อมที่จะ”ยุติ”ความ”ขัดแย้ง” ในข้อเรียกร้องของ”ขบวนการบีอาร์เอ็น” โดย”สันติวิธี” แต่… การ”พูดคุยสันติสุข” หรือการ”เจรจาสันติภาพ” เพื่อ”สันติสุข” ต้องมีเวทีใน”ประเทศไทย” และ”” ของ”รัฐบาล” ต้องเป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง”การเจรจาหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพ” ที่เป็น”คนกลาง” และต้องไม่มี”กลิ่นอาย” ของ”พรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็น”ฝ่ายค้าน”หรือ”รัฐบาล” การ”พูดคุย”กับ”บีอาร์เอ็น” อย่าให้”บีอาร์เอ็น” และ”ผู้อำนวยความสะดวก”ที่เป็น”ตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย” ในการ”พูดคุย” เป็นผู้”กำหนดเกม” ที่สำคัญการ”พูดคุย” กับ”ฝ่ายตรงข้าม” ที่ยังมีความ”ได้เปรียบ”ฝ่าย”รัฐบาล” จะ”เพลี่ยงพล้ำ” จึงต้อง”ระมัดระวัง” โดยเฉพาะต้องไม่ให้”องค์กรต่างชาติ” จาก”ชาติตะวันตก” เข้ามา”แทรกแซง”…..

@เรื่องการเดินทางโดย”เครื่องบิน” หรือ”อากาศยาน” ในประเทศไทย ยิ่งนานวัน ยิ่งมีปัญหามากมาย เป็นเพราะ”หน่วยงาน”ที่”เกี่ยวข้อง” ไม่ได้”ใส่ใจ” ในเรื่องการให้”บริการ”ของ”บริษัท”ต่างๆ ที่เป็นเจ้าของ”สายการบิน”หรือไม่ เช่น”ราคาค่าโดยสาร” ที่”แพงมาก” ซึ่งยัง”รับได้” เพราะ”ผู้โดยสาร” ที่มีความ”จำเป็น” ไม่มี”ทางเลือก” ต้อง”ขมขื่น” ในการ”ควักเงิน” สร้าง”กำไร” ให้กับ”กลุ่มทุน” เจ้าของ”สายการบิน” แต่ที่เริ่มจะ”รับไม่ได้”คือการที่”สายการบิน”ทุก”สายการบิน”ไม่มีความพร้อม”มีแต่เรื่องของการ”ดีเลย์”เกือบทุกเที่ยวบิน ที่”น่าเกลียดสายการบินแห่งชาติ” ที่มีการ”ดีเลย์” ครั้งละ 3 ชั่วโมง ที่”สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา  เป็นการ”ดีเลย์” ที่สร้างความเดือดร้อน และ เสียหาย ให้กับผู้”ต่อเครื่อง” ที่ต้อง”ตกเครื่อง”โดยสายการบินทุกสายการบินที่”ดีเลย์” ประกาศสั้นๆว่า”ขออภัยในความล่าช้า” เนื่องจาก”รอเวลาเครื่องขาเข้า” แต่ วันที่”ผู้โดยสาร”เดินทางไป”ขึ้นเครื่อง”ล่าช้าเพียง 10 นาที จะ”ขออภัย”ในความ”ล่าช้า” ที่เกิดขึ้นจากเรื่อง”รถติด” หรืออื่นๆ “สายการบิน”ไม่เคยให้”อภัย” และไม่เคยที่จะ”อะลุ่มอล่อย” ให้กับ”ผู้โดยสาร” เรื่องนี้เป็นการ”เอาเปรียบ”กันเกินไปหรือไม่ อยากให้”ประชาชน”ผู้ถูก”เอาเปรียบ” ลุกขึ้นเรียกร้อง”สิทธิ” ที่ควรจะได้…..

@และอีกเรื่องที่ไม่มี”มาตรฐาน”ในการตรวจ”ผู้โดยสาร” ก่อนการ”ขึ้นเครื่อง” ที่”เครื่องมือ”ของ”เจ้าหน้าที่”ซึ่งเหมือนกับ”ไม้ล้างป่าช้า” หรือ” ทีจี 200 “ ที่”ไร้ประสิทธิภาพ” เพราะในตัวของ”ผู้ถูกตรวจ” ไม่มี”สิ่งต้องห้าม” แม้แต่ชิ้นเดียว เครื่องก็ยังดัง”วี้ดๆ” ทำให้”เสียเวลา”และ”เสียอารมณ์” โดยใช่เหตุ อยากให้”ทุกสนามบิน” มีการ”ปรับปรุง” “เครื่องมือ” ในการ”ตรวจจับ”สิ่งของต้องสงสัย ที่ได้”มาตรฐาน” ที่ไม่ใช่”ไม้ล้างป่าช้า” ที่ไร้”ประสิทธิภาพ” และอีกเรื่องที่ทำให้”เสียเวลา” และเสีย”อารมณ์” คือ”เรื่องของรองเท้าหุ้มข้อ” ที่”สนามบินเดียวกัน แต่”เจ้าหน้าที่ประจำ”ช่องตรวจ” มี”มาตรฐาน”ที่”ต่างกัน” เช่น”บางช่อง”ต้อง”ถอดรองเท้า”เพื่อเข้าเครื่อง”สแกน” แต่บางช่องไม่ต้อง”ถอด” ไม่ต้องนำ”รองเท้าเข้าเครื่องสแกน” ทั้งหมดคือความไม่มี”มาตรฐาน” ของ”สนามบิน”ใน”ประเทศไทย” และที่”สังเกต”คือ”ไม่มีหน่วยงานของ”สนามบิน” ทำการ”ตรวจสอบ” ทั้งเรื่องไร้”มาตฐาน” และเรื่องความ”โกลาหล”ใน”สนามบิน” โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดการ”ดีเลย์” ของ”สายการบิน” ที่ประชาชนได้รับความ”ขมขื่น” และ”เดือดร้อน” หรือ”บทบาท”และ”หน้าที่”ของการท่าอากาศยาน” มีเพียงการ”เก็บเงิน” จาก”สายการบิน”เท่านั้น ส่วนการให้”บริหาร”ต่อ”ผู้โดยสาร”ของแต่ละ”สายการบิน” ไม่มีส่วน”เกี่ยวข้อง”กับผู้”บริหารท่าอากายาน” แต่อย่างใด โดยเฉพาะ”สายการบินแห่งชาติ” ที่มี”สโลแกน”ว่า”รักคุณเท่าฟ้า” วันนี้”ผู้โดยสาร” ต้องการเห็น”มาตรฐาน” ในการให้”บริการ” กับ”ผู้โดยสาร” มากกว่าคำว่า”รักคุณเท่าฟ้า” เข้าใจด้วย…..

@เรื่องนี้ “สำคัญ” คน“สงขลา” ฝากถึง” ผู้แทนราษฎร”ของ จ.สงขลา ว่า ในวันที่มีการประชุม”ครม สัญจร”ที่ จังหวัดสงขลา ให้”ผู้แทน” นำ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ”รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ”พล.ต.อ.เพิ่มพูล ชิดชอบ” ไปดู”ปฎิมากรรมอัปยศ” หรือ”อควาเรียมหอยสังข์” ที่เป็นผลงานของ”กระทรวงศึกษาธิการ” ที่”ทิ้งร้าง” สร้างไม่เสร็จทั้งที่มีการ”เบิกงบประมาณ”ไปแล้ว 1,400 ล้าน และ”ทิ้งงาน”ไปนานถึง 15 ปี โดยที่ไม่มีการ”แก้ปัญหา”ที่เกิดขึ้น…..รวมทั้งให้นำ”รัฐมนตรีกระทรวงเกษตกรและสหกรณ์” ไปดู”โพงพาง”ผิดกฎหมาย” ที่สร้าง”รุกล้ำ” ร่องน้ำในการเดินเรือ และเป็นเครื่องมือการทำประมงที่”ผิดกฎหมาย”  ใน”ทะเลสาบสงขลา” ที่กลายเป็นที่มาของ”กฎหมู่”ใหญ่กว่า”กฎหมาย” และมี”อภิสิทธิ์” บางกลุ่มสามารถอยู่เหนือ”กฎหมาย”ได้ “ครม.สัญจร” มา”ประชุม”ถึงที่ ถ้า”ผู้แทน” ไม่ทำ ก็ขอ”เชิญชวน” ประชาชน” ให้ “ลุกขึ้น” เพื่อสร้างความ”ศักดิ์สิทธิ์” ให้กับ”กฎหมาย” …..

@พื้นที่ “จังหวัดสงขลา” ชักจะ”ดุเดือน” มีคดี”ฆ่ากันตาย” เกิดขึ้นติดๆกัน หลายคดี  ส่วนใหญ่เกิดใน”ตัวเมือง”  ก็ฝากให้” พล.ต.ต.เชาวลิตร เลี้ยงสุพงศ์” ผบก.ภ.จว. สงขลา กำชับ เจ้าหน้าที่ในการตั้ง”จุดตรวจ” อย่า”เน้น”แต่เรื่องความผิดใน”พรบ.จราจร” เพื่อ”หาเงิน” เป็น”ค่าปรับ” เข้า”โรงพัก”เพื่อ”แบ่งรางวัล”นำจับ” แต่ไม่สนใจกับการ”พกพาอาวุธ” เข้ามาในตัวเมือง” โดยเฉพาะ”พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์” ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันนี้ “ประชาชน” ร้องเรียนกันมามาก เรื่องของ”พรบ.จราจร” ที่มีการ”จับแหลก” และมีการ”ตีเส้น” ห้ามจอด” หรือ”ขาวแดง” จนตัวเมืองหาดใหญ่ กำลังไม่มีที่”จอดรถ” มีการ”ล็อคล้อ” รถยนต์ที่จอดในที่”ห้ามจอด” และมีการ”จ้าง จยย.รับจ้าง ให้เฝ้ารอเพื่อให้”เจ้าของรถยนต์” จ้าง”จยย.รับจ้าง”ไปจ่าย”ค่าปรับ” ที่”โรงพัก” ที่เป็นเรื่องที่เป็นการ”หาเงิน” ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย บนความ”เดือดร้อน”ของ”ประชาชน” ….

@ส่วนในพื้นที่”สภ.สะดา จ.สงขลา มีเหตุ”ฆ่ากันตาย” ใน”ปั้มน้ำมัน” แต่หลังเกิดเหตุเพียง 1 วัน” พ.ต.อ. สุระจิตร เพชรจอม ผกก. ก็สามารถติดตาม”มือปืน” และ”ผู้ร่วม”ก่อเหตุ” ทั้งหมด มาดำเนินคดีตาม ”กฎหมาย”ได้ ถ้าจะให้ดีคือการ”ป้องกัน” อย่าให้”เหตุเกิด” จะเป็นการดีที่สุด…..

@การ”เลือกตั้ง” นายก อบจ.ในพื้นที่ จ.สงขลา มีการ”แข่งขัน” กัน”สามทีมใหญ่” และ”อีก 180 คน ที่ลงสมัครแข่งขันการเป็น”ส.อบจ.” จำนวน 36 เขต ไม่ห่วงเรื่องการ”ฆ่าแกง” แต่น่าเป็นห่วงเรื่อง”ซื้อเสียง” เพราะมีการ”จ่ายเงิน” ผ่าน”หัวคะแนน” และ”ผู้นำท้องที่-ผู้นำท้องถิ่น” กันอย่าง”ครึกโครม” ก็อยากเห็น” กกต.ยุคใหม่” ที่ทำหน้าที่”ตรวจสอบ” เพื่อหา”หลักฐาน”ในการ”จับกุม” ไม่ใช่ต้องให้มี”ผู้กล่าวโทษร้องทุกข์” ก่อนแล้วค่อย ดำเนินการ อย่างที่ผ่านๆ มา อยากเห็น”ผู้กองนึก” แสดง”ฝีมือ” จับผู้”ซื้อเสียง” เพื่อสาวให้ถึง”ตัวการ” ที่มีการแจ้งว่าเป็น”สส.คนดัง  ….. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

ไชยยงค์ มณีพิลึก

———————————————————–

แสดงความยินดี. พล. ท. ไพศาล หนูสังข์. แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ประธานพิธีปิดการฝึก. และขอแสดงความยินดีกับ สมาชิก อส.ผู้สำเร็จการฝึก รุ่นที่ 1/2568 ณ ศูนย์ฝึกฯ ต,ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา

มอบเงิน.   ว่าที่ ร.ต. ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานมอบเงินสงเคราะห์แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง และมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ภายใต้โครงการ “ฟื้นฟูหลังน้ำลด” โดยมี อนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก รัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กรุงเทพมหานคร กิตติชัย ธรรมศิริพงษ์ รอง ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย 14 จังหวัด รวมในพิธี ณ ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ อ,สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

มอบของที่ระลึก,  ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล วุฒิสมาชิก จ.สงขลา เป็นตัวแทน ผอ.ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 3 จ,สงขลา มอบของที่ระลึกให้กับ เศวต เพชรนุ้ย รอง ผวจ.สงขลา ซึ่งเป็นประธานเปิด และปิด การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรฯ ณ ห้องประชุม โรงแรมสุคนธา โรงแรมเซ็นทารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สวัสดีปีใหม่.   ตัวแทนประชาชน ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าพบเพื่อ สวัสดีปีใหม่ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ณ ห้องประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่

ของขวัญวันเด็ก. ประธานมูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา และคณะกรรมการ ร่วมเป็นตัวแทนมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง มอบของขวัญวันเด็กประจำปี 2568 ให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 จังหวัดยะลา จำนวน 70 โรงเรียน ณ มูลนิธิฯ โดยมี จิระวิทย์ แซ่เจ็ง รวมด้วย

แถลงข่าว.  วิทยา จันทน์เสนะ. รอง ผวจ.สงขลาเป็นประธานแถลงข่าว”ประเพณีแห่พระสะเดาะเคราะห์ 68″ชึ่งจะขึ้นในวันที่ 28 มกราคม-วันที่ 6 กุมภาพันธุ์. 2568.  ณ.  มูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง.  อ.หาดใหญ่.  จ,สงขลา

สวัสดีปีใหม่.   นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง แก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่เข้าเยี่ยมคารวะและมอบกระเช้าสุขภาพอวยพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา ณ บ้านพักเขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา

อวยพรปีใหม่,   พิศณุพงค์ นกแก้ว ผอ.การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดปัตตานีเข้าสวัสดีปีใหม่ท่านประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี เพื่ออวยพรในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ และรับฟังคำชี้แนะในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางใน จ.ปัตตานี

ทำบุญปีใหม่.  ณ บริเวณสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง อ.เมืองตรัง ชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2568 สืบสานประเพณีอันดีงามตามวิถีไทย โดยมี ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง และหัวหน้าส่วนราชการ องค์กร มูลนิธิต่างๆ และพุทธศาสนิกชนชาวตรัง ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และปัจจัยต่างๆ ถวายแด่พระสงฆ์ สามเณร เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามตามวิถีไทย เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันปีใหม่ 2568 โดยมี พระประสิทธิโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดตรัง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

เตรียมพร้อม.   ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง ลงพื้นที่ พร้อมด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง หัวหน้าอุทยานหาดเจ้าไหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทีมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณท่าเทียบเรือปากเมง พื้นที่เกาะมุกด์ และเกาะกระดาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ในปี 2568 พร้อมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณท่าเทียบเรือดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการใช้บริการ

ตรวจสอบ,   ปิยะวัฒน์ คุรพูล ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริต ปป.ช ภาค 9 ยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ปป.ช.จ.ตรัง ชมรมตรังต้านโกง และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงการขุดลอกคลองชลประทานตรัง คลองปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรังโดยวิธีจ้างเหมารถขุด ในวงเงินค่าก่อสร้าง488,468.60 บาท โดยกำหนดเวลาแล้วเสร็จภายใน 60 วัน กับห้างหุ่นส่วนจำกัด จรูญศักดิ์ก่อสร้าง 2016 บริเวณเขต ม.1 ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน ม.4 .ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

ต้อนรับ. พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย รอง นายกเทศมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ และพนักงานเทศบาล ร่วมให้การต้อนรับ และมอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติงาน แก่ผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายบริหารของเทศบาล และ ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 21 ราย

ตรวจเยี่ยม.  โอฬาร บิลสัน ปลัดจังหวัดยะลา พร้อมด้วยทีมงานลงพื้นที่ พบปะตรวจเยี่ยม สมาชิก อส. พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ในที่ตั้ง และปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ และในการนี้ ได้มอบกระเช้าของบริโภคเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ พ.ศ.2568 ให้แก่กำลังพลดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ณ กองร้อย อส.จ.ยะลา ที่ 1 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา

ต้อนรับ.  อับดุลราชิ ลอแม ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ พร้อมด้วย. แวหะมะกูซี อีปง ประธานสภาเทศบาล ผู้อำนวยการกองฝ่ายทุกกองฝ่าย และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งเเวดล้อม ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีกับ นายเดช ว่องไว ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งเเวดล้อม(คนใหม่) ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานเทศบาลตำบลรือเสาะ อ,รือเสาะ จ.นราธิวาส

เปิดกิจกรรม.พาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี เปิดกิจกรรม TO BE NUMBER ONE TALENT ร้อง เล่น เต้น โชว์ และ Brand Ambassador ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งโรงเรียนเดชะปัตตนยานกูล ปัตตานี จัดขึ้น โดยมี. จำนงค์ แสงหวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล หัวหน้าส่วนราชการ สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล สมาคมผู้ปกครองโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมกิจกรรม เป็นจำนวนมาก ณ ลานอเนกประสงค์ รร.เดชะปัตตนนุกูล อ.เมือง จ.ปัตตานี

ต้อนรับ.  ชัยศักดิ์  แสวงผล รอง ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา เป็นประธานต้อนรับข้าราชการผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา จำนวน 12 คน โดยมีข้าราชการในสังกัด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมการต้อนรีบ ณ บริเวณใต้อาคาร 2 ชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา