อัญเชิญคติธรรม สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก “สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา ศรัทธาตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ” มาลงเป็น “สิริมงคล” ชีวิตแก่ท่านผู้อ่านในวันขึ้นปีใหม่นี้ ขอให้ สุขภาพแข็งแรง ปลอดโรค ปลอดภัย (พิบัติ) คิดเงิน ได้เงิน คิดทองได้ทอง ตกงาน ได้งาน ก้าวหน้ารุ่งเรือง แล้วตั้งมั่นรับมือความ “เหนื่อยล้าของคนไทย” ที่ นิด้าโพล สำรวจไว้ปลายปีที่ให้ดี ๆ เรียงตามลำดับดังนี้

อันดับ 1. แน่นอน ปัญหาเศรษฐกิจ 52.14 % 2. ภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกเงินคนไทยสูญกว่า 7 หมื่นล้าน 28.09% 3. เรื่องวุ่นวายทางการเมือง 27.86% 4. ยาเสพติด 21.60% 5.ราคาพลังงาน 14.89% 6. ภัยธรรมชาติ ปัญหาสิ่งแวดล้อม 13.59% 7. สุขภาพโรคระบาด 13.44% 8. อาชญากรรม 12.99% 9. ราคาพืชผลเกษตร 12.90% ที่บอก ไม่เหนื่อยหน่ายอะไรเลย มี 12.75% คงเป็นกลุ่มชีวิตแสนสุขหรืออีกอย่างทำใจได้กับทุกสิ่งอย่างในประเทศนี้

แม้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะยืนยัน “ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสและความหวัง” แต่คนส่วนใหญ่จะรู้สึกด้วยหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่แน่ ๆ อย่างน้อย 4 ล้านคนสูงวัย ก็น่ามีความสุขที่จะได้รับเงินแต๊ะเอีย 1 หมื่นบาทปลายเดือนนี้ ส่วนจะ มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กี่โมง ยังไม่เห็นแนวทางรูปธรรมสู่เป้าหมายนี้

วิกฤติหนักหน่วงปีนี้ ยังไม่พ้นปัญหาปากท้องการทำมาหากินดังที่นิด้าโพลสำรวจไว้ นักเศรษฐศาสตร์ชอบบอก ปีที่แล้วเผาหลอก ปีนี้เผาจริง ก็นะ พูดอย่างนี้มาหลายปีแล้ว มาฟัง คุณสมประวิณ มันประเสริฐ นักวิเคราะห์ไทยพาณิชย์ พูดใน “มันนี่ทอล์ค” จึงโดนใจยิ่งนัก “ไม่มีเผาจริง เผาหลอก มีแต่โดนเผาไปเรื่อย ๆ” โห คม เด็ดขาด เผาซ้ำซาก วนลูปปัญหาซ้ำซาก คุณสมประวิณ บอก เศรษฐกิจไทยคือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไม่ได้รับการแก้ไขเสียที

อันนี้ ขออนุญาตเพิ่มเติม…ไม่ได้แก้ไข ไม่ได้หมายความ แก้ไขไม่ได้ แต่ที่ไม่แก้ไขก็เพราะพรรคการเมืองส่วนใหญ่มีนายทุนผูกขาด เป็น “สปอนเซอร์ใหญ่” นั่นเอง พรรคเพื่อไทย ที่พอจะอาศัยได้ ก็กลายพันธุ์ไปถือธง “ฝ่ายอนุรักษ์” ซึ่งปกติวิสัยต่อต้านการเปลี่ยนแปลงแทบทุกเรื่องราว ไม่ใช่แค่การเมือง ไม่ต้องทลายทุนผูกขาดหรอก แค่ลด ๆ ให้แฟร์เพลย์ขึ้น ยังไม่จะรู้รอดมั้ยเลย หลังวิกฤติโควิดใน 189 ประเทศ ไทยฟื้นตัวช้าอยู่ที่ 186 เรียกว่า เกือบบ๊วย ก็เพราะเราเป็นประเทศที่ “ศักยภาพ” ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ เดินสู่ประเทศป่วยเรื้อรัง ป่วยไม่เห็นอนาคต

ขณะปี 68 เศรษฐกิจโลกจะเผชิญ 3 วิกฤติ ตึงเครียด กีดกัน และผันผวน โดยผู้นำสหรัฐคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะรับตำแหน่ง 20 มกราฯ นี้ สงครามการค้าจะเริ่มทันที จีนเป้าหลัก แต่ไทยใช่จะรอด ITIF (มูลนิธิประเมินความเสี่ยงของสหรัฐ) ระบุ 39 ชาติที่ทรัมป์จ้องขึ้นภาษี จากเหตุได้เปรียบดุลการค้า ซื้ออาวุธน้อย เอียงข้างจีน ต่อต้านเทคโนโลยี อันหลังนี่สุดงง แต่คือสิ่งที่สหรัฐมองเรา แล้วมาขึ้นแบล็กลิสต์ 1.เม็กซิโก 2.ไทย ให้เกียรติมากกก 3.สโลวีเนีย 4.ออสเตรีย 5.แคนาดา สินค้าไทยโดนขึ้นภาษีก็เหนื่อยแล้ว ถ้าจีนโดนเล่นงานหนัก แล้วหันเป้ามาตลาดเอเชียอย่างปี 67 ไม่ใช่ SME ไทยจะล่มสลาย ถูกสินค้าจีนตีตลาดเละเทะ เหล็ก ปิโตรเคมี รถยนต์ ก็กระอักเลือด ปีนี้ หนักกว่าแน่

ปี 68 งูเล็ก จึงไม่ใช่ปีงูทอง แต่เป็น “งูพิษ” ต้องอยู่ให้รอด ใครมีงานกอดงาน มีเงินกอดเงิน อย่าซี้ซั้วลงทุน ห้ามกดลิงก์มั่วซั่ว อย่าเสียเวลาคุยกับแก๊งคอลฯ ตัดสายทิ้งดีสุด ก่อนสูญเงินก้อนสุดท้าย

มาถึงหมอดูบ้าง ฟังแล้ว จิตสุดตก “รวมดาว ย้ายครั้งใหญ่” จะน้ำท่วมใหญ่ ไฟไหม้ โรคระบาด เครื่องบินตก นี่ไม่ทันข้ามปี เกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินเจจูปีกไม่กาง ลงเอาท้องไถลไฟไหม้ทั้งลำ 181 คน เสียชีวิต 179 รวม 2 คนไทยด้วย รอดแค่ 2 เป็นข่าวสุดแสนเศร้ารับปีใหม่ ส่วนดวงเมืองจะมีคนไร้แผ่นดินอยู่ จะนองเลือด สยองอีก ที่สุดต้องหันมาหาหลักธรรม “ปฏิจจสมุปบาท” ของ พระพุทธองค์ ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เพราะมีสิ่งนี้จึงเกิดสิ่งนั้น

ทำกรรมดี ย่อมได้ดี ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ชั่ว เลิกยึดติดกับ “ตัวกู ของกู” ได้เมื่อไหร่ คิดดี ทำดี กับตนเอง ครอบครัว สังคมรอบข้าง ไปถึงประเทศชาติ แล้วไซ้ อะไรจะเกิดก็ปล่อยไป ดวงดาว ก็แค่วิถีโคจรบนท้องฟ้า

ขึ้นต้นด้วยคติธรรมลงท้ายด้วยพุทธธรรม นี่แหละ “คาถา ยาใจ” ให้คนไทยอยู่รอดในปีงู (พิษ) ปีนี้.

……………………………………..
ดาวประกายพรึก

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…