เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมมีปัญหาที่อยากจะเรียนถามคุณหมอดังต่อไปนี้ ปัจจุบัน อายุ 57 ปี มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง แต่ที่ไม่สมบูรณ์ก็คืออวัยวะเพศไม่ยอมแข็งตัว ทั้ง ๆ ที่จิตใจยังสู้อยู่ทุกเวลา มีอาการแบบนี้มาเป็นเวลา 2 ปีแล้วที่อวัยวะเพศไม่ยอมสู้ ทั้ง ๆ ที่แฟนก็กระตุ้นเล้าโลมให้อย่างดี แฟนผมยังสาวมีอายุเพียง 40 เท่านั้นเอง ฉะนั้นอยากจะถามคุณหมอว่า จะกินยาอะไร หรือมียากระตุ้นให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีบ้างไหม ถ้ามียากินหรือยากระตุ้นอยากให้คุณหมอช่วยแนะนำด้วย ตรวจร่างกายแล้วหมอบอกว่าสมบูรณ์ทุกอย่าง
ด้วยความเคารพอย่างสูง
พิภพ
ตอบ พิภพ
จากการศึกษาในชายสูงอายุในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Male Aging Study) ซึ่งศึกษาระบาดวิทยาของอาการนี้ไว้ดังนี้หย่อนสมรรถภาพในระดับต่ำ : ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวพอดีสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เกือบทุกครั้ง หย่อนสมรรถภาพระดับปานกลาง : ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวดีสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เป็นบางครั้ง หย่อนสมรรถภาพระดับรุนแรง : ผู้ป่วยไม่สามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวดีพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เลย
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเกิดจากสาเหตุทั้งทางร่างกายและจิตใจสรุปได้ดังนี้คือ โรคประจำตัวที่พบมากที่สุด (ประมาณ 70%) คือ โรคเบาหวานจัดเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของโรค ED นอกจากนี้ก็มีโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น ความเคร่งเครียดในการทำงาน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด หรือแม้แต่วัยหลังเกษียณแล้วก็ตาม ถ้าเกิดความเครียด ความกังวล ก็ส่งผลต่อโรค ED ได้ พบได้ 20% ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มาก เพราะการสูบบุหรี่จัดส่งผลต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากขึ้นพบได้เป็นเปอร์เซ็นต์ตามอายุ เช่น 50 ปี ก็ 50% 70 ปี ก็ 70% อย่างไรก็ตามการมีอายุมากขึ้นไม่ใช่สาเหตุเดียวของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่เป็นเพราะโรคประจำตัวต่าง ๆ ตามมาอายุขัย เช่น เบาหวาน, โรคหัวใจ ฯลฯ
การรักษาอาการอีดีนั้นมีหลายวิธีทั้งยากิน ยากระตุ้น การใช้อุปกรณ์บริหาร รวมไปถึงการใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นมาใหม่ ตามหลักการรักษาอีดีที่ถูกต้องนั้นคนไข้จะต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดดูโรคแอบแฝง
ต่าง ๆ ระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน รวมทั้งต่อมลูกหมากร่วมด้วย สำหรับยากินที่ใช้รักษาอาการอีดีนั้นยังเป็นกลุ่มยาพีดีอี 5ไอ แต่ยากลุ่มนี้จะใช้ได้อย่างปลอดภัยนั้นต้องไม่มีภาวะโรคหัวใจและไม่ได้รับยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรต เช่น Isodril, Imdur, Isosorbide เป็นต้น
ในขณะที่ยากระตุ้นนั้นขนาดการใช้ยาแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามระดับอาการอีดีตามที่กล่าวมาข้างต้นเพราะหากใช้ในปริมาณยาที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดแข็งตัวนานไม่อ่อนตัวเกิดผลเสียต่อคนไข้ได้ และคนไข้จะต้องได้รับการฝึกการใช้ยาให้ชำนาญก่อนที่จะนำกลับไปใช้เองที่บ้านได้ ปัจจุบันคนไข้ที่ใช้ประจำมา 15 ปีก็ยังสามารถใช้อยู่อย่างสม่ำเสมอเพราะได้รับการฝึกสอนวิธีใช้อย่างละเอียดถึงผลดีและข้อห้ามไม่ใจร้อนไม่ใช้ยาอย่างเอาใจฝ่ายหญิงมากเกินไป เป็นต้น ดังนั้นการรักษาอีดีจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายแล้วฝึกกับแพทย์ก่อนเสมอ ยาไม่ใช่ขนมที่จะซื้อขายกันได้ง่าย ๆ หากคุณต้องการความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์อยู่การพบแพทย์จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป.
ดร.โอ สุขุมวิท 51