ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบันที่ “ความสุขคนไทยลดลง” จะอย่างไรก็ยังพอมีวิธีแก้ไข ซึ่งวันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็มีข้อมูลนำมาสะท้อนต่อ โดยเป็นแนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตได้มีการให้ “คำแนะนำ” ไว้ กับ “วิธีเพิ่มสุข” ที่น่าลองฝึก “ต้อนรับปีใหม่ 2568”
น่าลองนำไปฝึก “ใช้เป็นคู่มือชีวิต”…
ถึงแม้จะทุกข์ก็ “ทำให้สุข–ทำให้ยิ้มได้”
เกี่ยวกับ “คำแนะนำ” เรื่องนี้ เป็นข้อมูลจาก www.istrong.co ผู้ให้บริการคำปรึกษาสุขภาพจิต ผ่านบทความชื่อ “วิธีเพิ่มความสุขรับปีใหม่ 2568” ที่ได้แนะนำไว้ “6 เทคนิค”โดยก่อนอื่นได้ระบุไว้ว่า… ในรายงานจิตวิทยาความสุขโลกประจำปี 2567 (World Happiness Report 2024) พบว่า… ประเทศไทยมีความสุขอยู่อันดับ 58 ของโลก และเป็นอันดับ 7 ของอาเซียน โดยการให้คะแนนนั้นจะนำ “ปัจจัยจิตวิทยาต่าง ๆ” มาใช้ให้ “คะแนนความสุข” คือ ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัว (GDP), อายุคาดเฉลี่ยของการมีสุขภาพดี, การสนับสนุนทางสังคม, เสรีภาพ, ความเอื้ออาทร และการรับรู้การทุจริต
จากผลคะแนนดังกล่าวในรายงานจิตวิทยาความสุขโลกประจำปี 2567 เมื่อมาพิจารณาจากรายงานสถานการณ์ความสุขภายในประเทศ ในรายงานภาวะสังคมไทย ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก็พบข้อมูลคล้าย ๆ กัน โดยพบว่า… “คนไทยต้องได้รับการเพิ่มความสุขในชีวิตโดยเร่งด่วน”หลังจากดัชนีความสุขลดต่ำสุดในรอบ 11 ปี ซึ่งสะท้อนได้จาก “ตัวเลขเจ็บป่วยของคนไทย” ที่พบว่า มีคนไทยป่วยด้วยภาวะสุขภาพจิตมากกว่า 2.6 แสนคน!!! และในจำนวนที่ป่วยนี้ มีมากถึง 2.8 หมื่นคนที่สุขภาพจิตป่วยจนต้องรักษาตัวในสถานพยาบาล
และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี…

นอกจากนี้ จากผลการประเมินสุขภาพจิตคนไทย (Mental Health Check In : MHCI) ยังพบอีกว่า… คนไทยมีปัญหาจากเครียด เสี่ยงป่วยซึมเศร้า เสี่ยงฆ่าตัวตาย และมีภาวะหมดไฟ อยู่ที่ประมาณ 17.40% ซึ่งข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า…สังคมไทย–คนไทยจะต้องเร่งเพิ่มความสุขในชีวิตโดยเร่งด่วน เพราะปัญหาสุขภาพจิตกำลังคุกคามและกัดกินจิตใจคนไทยอย่างหนัก!! ทั้งนี้ กับ “คำแนะนำวิธีเพิ่มความสุขให้กับตัวเอง”นั้น ประกอบไปด้วย “6 เทคนิคที่สำคัญ” ดังต่อไปนี้…
เทคนิคที่หนึ่ง “ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น”นี่เป็นเทคนิคจิตวิทยาข้อแรกเพื่อเพิ่มความสุข ผ่านทางการยอมรับและเคารพในคุณค่า รวมถึงความสามารถ ของตนเอง โดยไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความสำเร็จ ฐานะการเงิน ฐานะทางสังคม หน้าตา หรือชีวิตส่วนตัว ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยด้านต่าง ๆ อาทิ ช่วยให้มั่นใจตัวเองมากขึ้น ช่วยลดความกดดันทางจิตใจ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาตนเองที่เหมาะสม ตามเป้าหมาย และความสามารถของตัวเราเอง
เทคนิคที่สอง“พัฒนาตนเองอยู่เสมอ” เป็นเทคนิคต่อมาที่เพิ่มความสุข ที่เน้นการปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะ ความรู้ ความสามารถ หรือพฤติกรรม เพื่อให้เกิดการเติบโตและก้าวหน้าในชีวิต โดยการพัฒนาตนเองนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่เรื่องการงานหรือการศึกษา แต่รวมถึงการพัฒนาจิตใจ สุขภาพ ความสัมพันธ์ และวิถีชีวิตด้วย ผ่านหลาย ๆ วิธี เช่น การเรียนรู้สิ่งใหม่ การทบทวนตัวเอง การปรับตัวตามสถานการณ์ การดูแลสุขภาพอยู่เสมอ เป็นต้น ซึ่งเทคนิคนี้ ช่วยให้มีความสามารถในการรับมือความท้าทายในชีวิต และมีโอกาสสร้างความสำเร็จในระยะยาวได้
เทคนิคที่สาม “รู้จักอยู่แบบอดทน”โดยชีวิตคนเรานั้นย่อมมีวันที่ดีและวันที่แย่เป็นปกติ ซึ่งถ้าวันไหนเจอเรื่องดี ๆ ก็ควรที่จะเก็บไว้เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต แต่ถ้าหากวันไหนต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ ก็ขอให้อดทนและสู้กับความยากลำบาก หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต อย่างมีสติ ซึ่งกับเทคนิคการอดทนดังกล่าวนี้ก็จะ ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ นั่นเอง
เทคนิคที่สี่ “รู้จักชื่นชมตนเอง”โดยเฉพาะที่สามารถผ่านความล้มเหลวมาได้ ซึ่งเมื่อผ่านพ้นวันที่โหดร้ายมาได้ สิ่งที่ควรทำที่สุด คือ อย่าลืมชื่นชมตนเอง เพราะการยอมรับและให้คุณค่าตนเองเป็นการยอมรับว่า…ตัวเรามีความเข้มแข็ง และเมื่อเราสามารถชื่นชมตนเองที่ผ่านความล้มเหลวมาได้ก็จะ ช่วยให้เรียนรู้และเห็นคุณค่าของประสบการณ์ ที่ทำให้เติบโตขึ้นด้วย ซึ่งการเผชิญหน้าความล้มเหลวมักเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต และการผ่านมันมาได้ช่วยให้เราเป็นคนที่มีประสบการณ์
เทคนิคที่ห้า “มองหาข้อดีในสถานการณ์ที่แย่” โดยการพยายามมองหาประโยชน์ หรือมุมบวก จากสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง หรือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก จะสามารถช่วยในหลาย ๆ เรื่อง ได้แก่ ช่วยให้เห็นข้อดีหรือเห็นโอกาสในปัญหา ช่วยให้มีทัศนคติที่ดี ช่วยให้มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ ซึ่งก็จะทำให้สามารถรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น
เทคนิคที่หก “รู้จักยอมรับและปล่อยวาง” เทคนิคนี้ควรจะนำมาใช้ในเวลาที่เราเจอปัญหาแล้วไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งการทำใจ หรือการรู้จักยอมรับและปล่อยวาง จะ ช่วยให้จิตใจเข้มแข็ง ช่วยฝึกการควบคุมความกังวล ที่เป็นอุปสรรคในจิตใจ ช่วยให้สามารถก้าวผ่านไปโดยไม่ยึดติด …และนี่ก็เป็น “6 เทคนิคเพิ่มความสุข” ที่ใน www.istrong.co ได้แนะนำไว้
“รับปีใหม่” โดย “ปรับลดทุกข์ในชีวิต”
พร้อม “เพิ่มความสุข” ให้มีมากขึ้น…
เช่นนี้ “ชีวิตจะดีกว่าปีเก่าได้แน่ ๆ”.
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์