วันนี้เป็นวันเสาร์สุดท้ายก่อนสิ้นปี 2567 ถ้านับเวลาการทำงานของ “รัฐบาลผสม” หลายพรรคการเมือง ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ก็ต้องเริ่มจากนายเศรษฐา ทวีสิน แถลงนโยบายการทำงานในสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 แล้วนายเศรษฐาต้องพ้นจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 67
ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงนโยบายการทำงานต่อสภา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 67 สรุปคือ 2 นายกฯรวมกัน เพิ่งบริหารประเทศได้แค่ 1 ปี 5 เดือน
นายกฯ 2 คน 1 ปี 5 เดือน กับนายกฯ คนเดียวแต่บริหารประเทศอย่างต่อเนื่องยาวนาน 9 ปี ก็ต้องถามคนไทยว่าเราให้เวลากับนายกฯ 9 ปี บริหารประเทศนานไปหรือเปล่า?
เมื่อเดือนก.ย.66 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะคงค้างจำนวน 11.13 ล้านล้านบาท คิดเป็น 62.44% ของ “จีดีพี” หนี้ครัวเรือนบานฉ่ำอีก 16.2 ล้านล้านบาท (ไตรมาส 3/66) ตลอดเวลา 9 ปี ไทยได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี “FTA” กับประเทศอื่น ๆ แค่ 1 ฉบับ เมื่อปี 63
ไทยมี FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ ส่วนเวียดนามมี 16 ฉบับกับ 54 ประเทศ แถมเวียดนามมีต้นทุนเรื่องแรงงาน–ที่ดิน ถูกกว่าไทย จึงส่งผลให้สินค้าเวียดนามมีต้นทุนถูกกว่า และมีตลาดส่งออกกว้างกว่าไทย
ไหนจะเจอปัญหา “กฎหมายทาส” เกี่ยวกับธุรกิจประมงที่ถูกยุโรปบีบ!รัฐบาลรัฐประหาร ทำให้เรือประมงต้องจอดแน่นิ่งเป็นหมื่น ๆ ลำ พร้อมทั้งประกาศขายเรือทิ้งอีกหลายพันลำ แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ โพสต์ว่าเลิกกฎหมายทาสแล้ว เป็นของขวัญปีใหม่ต่อชาวประมง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3-4 ก.พ. 67 นายเศรษฐาและผู้นำศรีลังกา ลงนาม FTA ไทย-ศรีลังกา นับเป็น FTA ฉบับที่ 15 ของไทย และเป็นฉบับแรกภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา
หลังสุด (29 พ.ย. 67) มีการเจรจาปิดดีลสำเร็จแล้ว คือ FTA ไทย–สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ “เอฟตา” ประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ถือเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศยุโรป โดยจะลงนาม FTA ฉบับนี้ร่วมกับสมาชิกเอฟตา ในเดือน ม.ค. 68 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และปี 68 รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนจะลงนาม FTA ให้ได้ 5-6 ฉบับ
นี่แหละ! “พยัคฆ์น้อย” จึงต้องถามว่าเราให้เวลานายกฯ คนเดียว ได้บริหารประเทศต่อเนื่อง 9 ปี นานไปหรือเปล่า? ใครมารับไม้ต่อจึงเหนื่อยและลำบาก!
ปี 68 รัฐบาลน.ส.แพทองธารต้องเร่งทำผลงาน โดยเฉพาะต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ ถ้าแก้ไม่ได้รัฐบาลก็อยู่ลำบาก! เนื่องจาก “งบประมาณรายจ่ายประจำปี” เข้าที่เข้าทางแล้ว สัญญาณเศรษฐกิจต่าง ๆ มีแนวโน้มที่ดี ทั้งตัวเลขจีดีพี-การส่งออก-การท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงสายอีสาน-ตะวันออก (เชื่อม 3 สนามบิน), ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และแลนด์บริดจ์
ปี 68 ขอเตือนรัฐบาล 1 เรื่อง คือ ขจัดทุนผูกขาด-กินรวบ! ให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม! “เจ้าสัว” ที่มีโครงข่ายทุกภาคส่วน ส่งคนเป็น “ประธานบอร์ด-บอร์ด” เต็มไปหมด ต้องเบรก ๆ กันบ้าง!!.
………………………………………
พยัคฆ์น้อย