ปี 2567 ใครๆ ก็ว่าเป็นปีมังกรทองที่จะนำมาซึ่งความโชคดี แต่ในส่วนของ “รัฐบาลสูตรพิสดาร” กลับตกอยู่ในภาวะ ผีเข้าผีออก โดนมังกรพ่นไฟใส่ โดนนิติสงครามถล่มไม่ยั้ง คนแรกที่โดนก่อนคือ “นายเศรษฐา ทวีสิน” ไปไม่รอดถูกสอยร่วงลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หลังนั่งเก้าอี้ได้เพียง 358 วัน เผือกร้อนจึงมาตกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกฯ คนที่ 31 ของไทย ซึ่งวันนี้ก็ยังหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะทั้ง “นายกฯ อิ๊งค์” และพรรคเพื่อไทย มีคดีความ และเรื่องร้องเรียนแขวนอยู่ในองค์กรอิสระอีกเพียบ เฉพาะที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ขึ้นแชมป์ถูกร้องมากที่สุดถึง 53 คำร้อง แต่ที่ กกต.รับไว้พิจารณามี 6 คำร้อง

ที่ต้องซี้ดปาก ลุ้นกันหนักว่าจะรอด หรือจะร่วง ก็คือ กรณีร้องต่อ กกต.ให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย พ่วงไปถึง 5 พรรคร่วมรัฐบาล กรณียินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำ ชี้นำพรรค จากเหตุการณ์นัดรับประทานอาหารที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในเย็นวันที่ 14 ส.ค. 2567 คล้อยหลังศาลรัฐธรรมนูญที่เพิ่งมีคำพิพากษาให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไม่กี่ชั่วโมง ขอย้ำว่าเรื่องนี้ กกต.รับเรื่องแล้ว เรียกสอบพยานหลักฐาน และเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลแล้ว คาดว่าอีกไม่กี่อึดใจก็รู้เรื่อง

ข้ามมาย่านสนามบินน้ำ กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องเรียกว่าเป็นคดีใหญ่ไม่แพ้กัน คือ กรณีร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้มีการตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์, รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผอ.รพ.ราชทัณฑ์ ผอ.รพ.ตำรวจ มีการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เพื่อหลีกเลี่ยงการไม่ต้องถูกจำคุก เรื่องนี้อัปเดตล่าสุดเมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2567 อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนสรุปสำนวนเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อพิจารณากรองสำนวน หากเห็นว่ามีมูลจะตั้งกรรมการไต่สวนต่อไป

อีกหนึ่งคดีใหญ่ ฝั่งของพรรคภูมิใจไทยในมือของ ป.ป.ช. ก็คือ เรื่อง “เขากระโดง” ซึ่งมีคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เพราะทั้ง 2 คน มีชื่อครอบครองที่ดินบนเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในขณะที่พื้นที่ดังกล่าวถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม แต่กรมที่ดินกลับไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เพราะมีนักการเมืองถือครองอยู่หรือไม่ จึงต้องติดตามว่า ป.ป.ช.จะมีบทสรุปอย่างไร

มังกรพ่นไฟ ไม่ได้หันหัวมาทางฟากรัฐบาลอย่างเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งฝ่ายค้านอย่างอดีตพรรคก้าวไกลก็ไม่รอด ถูกไฟนิติสงครามเผาเรือนเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติยุบพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี แต่ทางพรรคประกาศตั้ง “พรรคประชาชน” เป็นการโต้กลับ พร้อมบอกเป็นนัยๆ ว่า “Never die ตายสิบเกิดแสน” โดยมี “เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรคคนใหม่ คราแรกเหมือนไปได้สวย แต่พอนานวันๆ เข้า กระแสของพรรคประชาชนดูเหมือนจะดร็อปลงไป เห็นได้จากการแพ้ราบคาบการเลือกตั้งสนามท้องถิ่น อย่าง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด”

แถมตอนนี้ยังมีคดี จริยธรรม 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล กรณีร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่พาดอยู่บนเขียงของ ป.ป.ช. ซึ่งนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. คนใหม่ ให้ข้อมูลอัปเดต ว่า คดีนี้จะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2568 ความเห็นในการสรุปสำนวนจะมี 2 แนวทาง 1.หากเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ก็เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา 2. หากไม่มีมูลเพียงพอ ข้อกล่าวหาจะตกไป ทั้งนี้การพิจารณาจะดูข้อกล่าวหาประเด็นฝ่าฝืนจริยธรรม โดยดูพฤติกรรมของแต่ละบุคคลหลักว่ามีส่วนร่วมในการดำเนินการที่แตกต่างกันไป

ซึ่งกรณีการเสนอแก้กฎหมายในสภานั้น ที่จริงเป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของสส. ตามกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้นกรณี “พฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการดำเนินการที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล” ที่ ป.ป.ช.ระบุนั้น ก็ต้องมาดูว่าพฤติกรรมนอกสภาเป็นอย่างไร ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร รวมถึงคำพิพากษาของศาล ก็ต้องรวมมาพิจารณาอยู่ในสำนวนด้วย มกราคมนี้รู้เรื่อง 44 คน ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลจริง ก็มีทั้งคนรอด และไม่รอด ความผิดพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง …นี่ก็ว่าเป็นรายๆ ไป

กล่าวโดยสรุปปีมังกรทอง 2567 การเมืองวอดกันทุกฝ่าย แถมเชื้อเพลิงยังไม่ดับสนิท คดีร้อนคดีร้าย เรื่องร้องเรียนยังรอบทสรุปมีตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงคดีที่จะชี้เป็นชี้ตายรัฐบาล และพรรคการเมืองใหญ่ๆ อีกเพียบ เริ่มกันตั้งแต่เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งถ้าว่าตามปีนักษัตร “มะเส็ง” เขาว่าเป็น “งูเล็ก” แต่ถ้าว่าตามหมองู ก็ให้ระวัง เล็กๆ อย่างนี้พิษร้ายไม่เบา กะพริบตาไม่ได้เลยจริงๆ.