สะท้อนข้อคิดยิ่งต้องมีสติให้มาก เพราะต่อให้ระแวดระวังแค่ไหน พยายามอัปเดทข้อมูลเท่าทันอย่างไร แต่อาชญากรรมเหล่านี้ยังคงมี “เทคนิค” ไม่หยุดคิดกลวิธีหลอก เมื่อความสูญเสียของเหยื่อแต่ละครั้ง สร้างมูลค่ามหาศาลมากพอที่จะเสี่ยง

ด้วยประเด็นโทรตุ๋นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปะทุขึ้นรายวัน เฉพาะที่ปรากฎเป็นข่าวสร้างความเสียหายรายละหลักล้านถึง หลายล้านบาท “ทีมข่าวอาชญากรรม” จึงมองว่ายังคงเป็นเรื่องสำคัญกับการแจ้งเตือน “ภัย” เหล่านี้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ไม่เฉพาะการตกเป็นเหยื่อหลอกโทรตุ๋น อีกกลุ่มที่ต้อง “เตือน” และถือเป็นกลุ่มสำคัญกับ “วงจร” มากที่สุดคือ “บัญชีม้า”

หลังสถานการณ์ปัจจุบันพบพฤติกรรมเสี่ยงทั้งตกเป็นผู้ต้องหา ขณะเดียวกันก็มีโอกาสตกเป็นผู้เสียหาย ได้รับความเดือดร้อน ยกตัวอย่าง คดีที่เกิดขึ้นกับภรรยาสาวบัญชีม้ารายหนึ่ง แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสามีไปทำงานอ้างเป็นแอดมินเพจ ก่อนไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งถูกหลอกว่าจะช่วยติดต่อสามีให้ จึงหลงเชื่อไปพบตัวและถูกใช้กำลังบังคับขืนใจ จนต้องออกมาขอความช่วยเหลือ

นอกจากย้ำว่าปัจจุบันมีกฎหมายเฉพาะอย่าง ...มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ..2566 ในการ “ลงโทษ” บัญชีม้าแล้ว พฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในการจัดหา “มดงาน” บัญชีม้าก็น่ากังวลมากขึ้น

แม้บางส่วนจะรู้หรือไม่รู้เท่าทันก็ตาม แต่ชัดเจนว่าการจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่ละครั้ง “บัญชีม้า” คือตัวตั้งต้นโดนเชือดเป็นแถวแรกแน่นอน ไม่ว่าจะเปิดบัญชี เปิดเบอร์(ซิม) เปิดแอปพลิเคชันในชื่อตัวเองแต่ให้ผู้อื่นนำไปใช้

ทีมข่าวอาชญากรรม” หยิบยกข้อมูลจาก สำนักงานกิจกรรมยุติธรรม ที่สรุปข้อกฎหมายควรรู้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อร่วมขบวนการหลอก เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะรู้หรือไม่ว่าบัญชีนั้นถูกนำไปทำอะไร เพียงเปิดบัญชีแล้วยินยอมให้ผู้อื่นนำไปใช้ มีความผิดตามกฎหมาย และมีโทษสูงสุดถึงขั้น “จำคุก” แยกพฤติกรรมหลักเป็นดังนี้

มาตรา 9 ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน

โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ หากเป็นกรณียกระดับเป็นธุระจัดหา ตามกฎหมาย มาตรา 10 ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้ เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด โทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 -5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 11 ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ โทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บัญชีม้ามีมากน้อยแค่ไหน อาจไม่สามารถบอกได้ชัดเจน แต่การที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการหลอกลวงทางออนไลน์ยังคงสร้างความเสียหายได้จำนวนมาก สะท้อนว่ามีไม่น้อย

ทั้งนี้ เฉพาะบัญชีรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง(HR03) ซึ่งเป็นบัญชีบุคคลผู้เป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกใช้ หรืออาจถูกใช้ทำธุรกรรมที่เข้าข่ายความผิด ที่ผ่านมามีการระงับธุรกรรมกลุ่มนี้ไปแล้วกว่า 6.3 แสนบัญชี มีมูลค่าเงินรวมกว่า 1.8 พันล้านบาท และบุคคลที่ถูกพิจารณาว่ามีความเสี่ยงสูงนี้จะถูกระงับธุรกรรมทุกบัญชี ทุกธนาคารเป็นเวลา 3 ปี เรียกว่าเจ็บหนักทั้งขึ้นทั้งล่อง.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

[email protected]