@การเมือง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะ”การเมือง” เป็นเรื่องของ”ทุกคน” การเมืองดี พรรคการเมืองดี ผู้บริหารดี พรรคร่วมมีความสามัคคี “รัฐบาล” ก็จะมี”เสถียรภาพ” เมื่อ”รัฐบาล” มี”เสถียรภาพ” เศรษฐกิจ ของประเทศก็จะดี  และส่งผลให้ปัญหา”ปากท้อง” ของประชาชนได้รับการแก้ไข ไป”เจรจาความเมือง” ที่ประเทศไหน ก็จะมีความ”สำเร็จ” มากกว่า”ล้มเหลว”  แบบ”กลับบ้านมือเปล่า” อย่าง”รัฐบาล”ปัจจุบันที่”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ” ในการ”จัดตั้ง” มี”นายกรัฐมนตรีคนแรก” คือ”เศรษฐา ทวีสิน “ เป็น”นายกรัฐมนตรี” หลังรับตำแหน่ง”ก็”ทัวร์ต่างประเทศ” เป็น”ว่าเล่น” เพื่อ”โรดโขว์” โครงการต่างๆ ในการเรียกให้”นักลงทุนต่างชาติ” เข้ามา”ลงทุนในประเทศไทย” แต่ “สุดท้าย” ก็”ล้มเหลว” เพราะไม่มี”ต่างชาติ” ชาติไหนให้ความสนใจ และ”สุดท้าย” ต้องพ้นจากตำแหน่ง” นายกรัฐมนตรี” เพราะ”ถูก”ศาลรัฐธรรมนูญ”สั่งให้พ้นจาก”นายกรัฐมนตรี” เพราะ”แต่งตั้ง” ให้”พิชิต ชื่นบาน” เป็น”รัฐมนตรี…..นายกรัฐมนตรี”คนที่ 2 “ คือ”แพทองธาร ชินวัตร” ที่เป็น”ดีเอ็นเอ” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี” ซึ่งในครั้งที่”ขึ้นเวทีหาเสียง” ใน”ฐานะ”หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” หลายคนเห็นว่า”หน่วยก้าน”มีแววของ”ความเป็นผู้นำ” น่าจะเป็น”นายกรัฐมนตรี” นำประเทศ”ก้าวไปข้างหน้า” โดยมี”ดีเอ็นเอ” ของ”ทักษิณ ชินวัตร”  เป็น”เครื่องการันตี”  แต่หลังจากที่”แพทองธาร ชินวัตร” ทำหน้าที่ผู้นำ”เบอร์ 1 “ ของประเทศ มาแล้ว 90 วัน  คนไทยจำนวนไม่น้อย”ผิดหวัง” พอสมควร…..

@เธอถูก”สังคมตำหนิ” ตั้งแต่ใน”บทบาท”ของ”ผู้นำประเทศ” ที่เข้าร่วม”ประชุม” กับ”ผู้นำ”ประเทศต่างๆใน”เวทีโลก” หรือใน”เวทีการเมืองสากล” ในเรื่องของ” เสื้อผ้า , หน้าผม” ในเรื่องของความ”ไม่เหมาะไม่ควร” กับการเป็น”ผู้นำ” ของประเทศ วันนี้”นายกรัฐมนตรีของประไทย” กลายเป็น”เหยื่อ” ใน”สังคมของโซเชียลมีเดีย” ซึ่ง”ล่าสุด”ในการ”แถลงข่าว” 90 วัน ของการเข้ามา”บริหารประเทศ” คำพูดในหลายเรื่องของเธอถูกนำไป”ดราม่า” ถ้าเรื่องที่ปรากฎ”ใน”โซเซียลมีเดีย” เป็นเรื่อง”เท็จ” ที่ถูก”ปั้นแต่ง” เพราะเรื่องของ”การเมือง” ก็น่า”เห็นใจ” ที่”นายก” กลายเป็น”เหยื่อ” เพื่อสร้างความ”เกลียดชัง” โดยหวังผลการ”ทำลายล้าง” ทาง”การเมือง” ซึ่งไม่ควรที่จะ”กระทำ” ต่อ”ผู้หญิงคนหนึ่ง”ที่เป็น”เพศแม่” ของทุกคน แม้ว่าเธอจะเป็น”บุคคลสาธารณะ”ก็ตาม….แต่ถ้าเป็น”เรื่องจริง” ก็ แสดงให้เห็นถึงความ”ไร้เดียงสาทางการเมือง” และเป็น”บทเรียน”ของประเทศและของ”การเมืองไทย” ในการ”มอบภาระหน้าที่” ในการเป็น”นายกรัฐมนตรี” ให้กับ”บุคคลที่ไร้วุฒิภาวะทางการเมือง” มาเป็น”ผู้นำประเทศ” การ”สื่อภาษา”ที่ผิดๆถูก” ไม่ใช่เรื่อง”เล็กน้อย” เพราะทุก”ถ้อยแถลง” ที่หลุดจาก”ปากของผู้นำ” ล้วนเป็น”พันธสัญญา”ที่ต่างกับคำพูดที่”ออกจากปาก” แม่ค้าตลาดสด” ดังนั้นเรื่อง”พูดผิดพูดถูก” หรือ”ถูกบ้างผิดบ้าง” เป็นเรื่อง”สำคัญ” ที่ไม่ควรมองข้าม และถ้าเรื่องที่ปรากฎอยู่ใน”โซเซียลมีเดีย”เป็นเรื่องจริง นั้นหมายถึงความ”เสียหาย” ของประเทศชาติ”……

@เรื่องการ”ปรับโครงสร้างหนี้” เพื่อ”แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน” ของ”รัฐบาลเพื่อไทย” เช่น” หนี้บ้าน,หนี้รถยนต์ ” หนี้บัตรเครดิต” เป็น เรื่องดี แม้ว่ากว่าจะ”คิดได้”ก็”สายไปบ้าง” แต่ก็ยัง”ไม่สายเกิน” เพราะหากสามารถ”ลดหนี้ครัวเรือน”ลงได้ และ”สถาบันการเงิน” เปิดช่องให้มี”นโยบาย” เงินกู้ที่”ปลอดดอกเบี้ย” ในพื้นที่ “ประสบอุทกภัย” ของประเทศในทุกภาค ก็อาจจะทำให้”เศรษฐกิจ” ของประเทศ “เดินหน้า”ไปได้ รวมทั้งเรื่องของ”เอสเอ็มอี” ที่”สถาบันการเงิน ยังมองว่าเป็น”ธุรกิจที่เสี่ยง” โอกาสที่”เอสเอ็มอี” จะ”ฟื้นตัว” จึงค่อนข้างยาก เหล่านี้คือ”โจทย์ยาก” ของ”รัฐบาล….ฟังนโยบาย”สร้างบ้านเพื่อคนไทย” ของ” รัฐบาลเพื่อไทย” โดยให้คนที่ไม่เคย”มีบ้าน” จ่ายเดือนละ 4,000 บาท ด้วยการใช้ที่ดินของการรถไฟ” ทั่วประเทศเป็นที่”สร้างบ้าน” ฟังแล้วก็”ดูดี” แต่ต้องดู”เนื้อใน” ด้วยว่า “เป็นจริง” แค่ไหน  แต่ สำหรับ”คนจน” แล้ว เงินเดือนละ 4,000 บาท” ในการ”จ่ายค่าเช่า” ก็อาจจะไม่ใช่เรื่อง”ง่าย” และเรื่อง”บ้านคนจน” ยังมี”ข้อสงสัย” ที่ยังไม่ลงใน”รายละเอียด” เช่น”เช่าที่รถไฟ”ตรงไหน”และ”ใครเช่า” ปีละกี่บาท และมีการมอบพื้นที่ให้”ใคร” เป็นคนสร้าง” เอกชน”หรือ”หน่วยงานรัฐ” และใครเป็นผู้”เก็บเงินค่าเช่า” และก็อย่าลืมกลับไป”ย้อนดู” เรื่องของ”บ้านเอื้ออาทร” ที่เป็นโครงการของ”เพื่อไทย” ที่มี”นักการเมือง” ที่เกี่ยวข้องกับ”บ้านเอื้ออาทร” ต้องระเห็จเข้าไป”นอนอยู่ในเรือนจำ”…..

@ฟังการแถลงข่าวถึง”ผลงาน” ของ”รัฐบาล” ผ่าน”ภาษาพูด” ของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี แล้ว ถ้าฟังแล้วไม่คิดอะไรมากก็”ดูดี” แต่ถ้าฟังแล้ว”มองลึกลงไป” ใน”เนื้อใน” ก็จะเห็นถึงความ”กลวงโบ๋” เป็นเพียง”นโยบาย” ที่จะเป็นจริงได้ยังต้องมี”หลายปัจจัย” ในการ”เป็นองค์ประกอบ” ก็เป็น”ยาหอม” ทางการเมือง ให้”ประชาชน” ที่ตามไม่ทัน”เกมกลการเมือง” ได้”ชื่นใจ”…..แต่เรื่องที่”ประชาชน” ให้ความสนใจไม่ใช่เรื่องของ”นโยบาย”ของรัฐบาลที่ยัง”จับต้องไม่ได้” แต่ “ประชาชน” ส่วนใหญ่ สนใจเรื่อง”แจกเงิน”เฟสที่ 2 คนละ 10,000 บาท สำหรับผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป และการแจกเงิน”เฟส 3” สำหรับผู้ที่อายุ 16 ปี ขึ้นไป ตาม”เงื่อนไข” ที่”รัฐบาลกำหนด” ซึ่งคณะทำงานของ”เสนาบดีกระทรวงการคลัง”ยังไม่สามารถ”เคาะ” วัน เวลา ที่แท้จริงในการ”แจกจ่าย”เพราะยัง”ถังแตก” มีแต่การให้”ยาหอม” ไป เรื่อยๆ เดี๋ยวก่อน”ตรุษจีน” เดี๋ยวหลัง”ตรุษจีน”  แต่ ก็เชื่อว่า”หัวเด็ดตีนขาด” พรรคเพื่อไทยต้อง”ดิ้นรน” ในการ”แจกเงิน” ให้”ประชาชน” ให้ได้ เพราะการ”แจกเงิน” คือการ”หาเสียง” ล่วงหน้า เพราะ”พรรคเพื่อไทย” ก็ไม่”มั่นใจ” ว่า”รัฐบาล” จะมี”อายุยืนยาว” ถึง เดือนไหน ปีไหน เพราะ”ดูทรงแล้ว” อุบัติเหตุทาง”การเมือง” สามารถเกิดขึ้นกับ”รัฐบาล” ชุดนี้ได้ตลอดเวลา เพื่อ”ความชัวร์” จึงต้องมีการ”แจกเงิน” คนละ 10,000 บาท” ให้”ลุล่วง” เสียก่อน จะเป็นการ ดีที่สุด ส่วน”นโยบาย” อื่นๆ อาจจะเป็นเพียงเรื่อง”สายลม แสงแดด” ก็ไม่มีใคร”ถือสา” เพราะการเมืองไทย เรื่องของ”นโยบาย” เป็นเพียงเรื่อง”ตลกร้าย” ที่ไม่ต้องทำตาม เพราะ”กกต.” ไม่เคย”ลงโทษ” พรรคการเมืองไหน ว่ามี”ความผิด” ที่ไม่ทำตาม”นโยบาย” ที่ให้ไว้กับ”ประชาชน” ในตอนที่”ปราศรัยหาเสียง”…..

@เรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” ที่เริ่มปรากฏความ”โหดร้าย” ตั้งแต่ยังไม่ถึงวันรับสมัครเพื่อการ”เลือกตั้ง” โดยประเดิมความ”โหดร้าย” ที่ จังหวัดปราจีนบุรี”ถิ่นของโกทร ”สุนทร วิลาวัลย์” บ้านใหญ่แห่ง”ปราจีนบุรี” “เหยื่อ”ของความ”หฤโหด” คือ” สจ.โต้ง” ผู้เป็น”ลูกบุญธรรม” ที่ถูก”ลูกน้อง”ของ”พ่อบุญธรรม”รุมยิงจำนวน 20 กว่านัดภายในบ้านของ”พ่อบุญธรรม” ทั้งหมดมาจากเรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” ซึ่งการเลือกตั้ง”นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด” หรือ( อบจ.) ที่”หมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 และจะมีการเปิดรับสมัครในวันที่ 23ธันวาคม  และ”เลือกตั้ง” ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนั้นใน”ห้วงเวลา”ของการ”หาเสียง” อาจจะมีการ”กระทบกระทั่ง” มีการใช้”ความรุนแรง” ในการ”กำจัดศัตรู”ทาง”การเมือง” เพราะ”การเมืองท้องถิ่น”คือเรื่องของ”โลกกว้างทางแคบ”ที่ทั้ง”ดาวดัง,ดาวเด่น”และ”อริ” โคจรมา” แข่งกัน” วิธีการหนึ่งในการได้มา”ซึ่งชัยชนะ” คือการ”ปลิดชีพ”ของ”คู่แข่ง”ให้”ดาวดิ้น”สิ้นลม” เพราะ”นักการเมืองอิทธิพล” เชื่อว่า”ล้มคดี”ง่ายกว่า”ล้มศัตรูคู่แข่ง” ก็เห็นด้วย” ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร” สั่งการให้  ผบก.ทุกจังหวัด “เอาจริง”กับ”กลุ่มผู้มี”อิทธิพล”ใน”ท้องถิ่น” และ”เรื่องแรก” ที่” ผบก.ภ.จว.ทุกจังหวัดต้องดำเนินการคือการ”กวาดล้างมือปืน” และกวาดจับ”อาวุธปืน” ในทุกพื้นที่ เพื่อให้”ยาก”ต่อการ”ก่อเหตุ” รวมทั้ง”กวาดล้าง” แหล่ง”อบายมุข” และ”ธุรกิจผิดกฎหมาย” ที่เป็น”เส้นทางการเงิน”ของ”นักการเมืองท้องถิ่น” และผู้มี”อิทธิพล”…..

@ในภาคใต้ จังหวัดที่ต้อง”เพ่งเล็ง” ก็อย่าง” สงขลา,สุราษฎรธานี, พัทลุง,ซึ่งเป็นพื้นที่ มีการ”แข่งขัน”กันแบบมี”เดิมพัน” และมี”ซุ้มมือปืน” ของผู้มี”อิทธิพล” มี”นักการเมืองระดับชาติ” และ”ขบวนการธุรกิจสีเทา” ให้การ”โอบอุ้ม” อย่าง จ.สงขลา อย่าเห็นว่า”เงียบๆ” หรือไม่มีอะไร  เพราะมี”คลื่นใต้น้ำ”ที่ “พล.ต.ต. เชาวลิตร เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว. สงขลา ต้องไม่ประมาท  ….. ส่วนใน”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ข่าวว่า การเลือกตั้งของ”องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา” มุขตาร์ มะทา” นายกคนปัจจุบัน ยังไม่มี”คู่แข่ง”ที่”พอฟัดพอเหวี่ยง” แต่ในเรื่องของ” ส.อบจ. อาจะมีการแข่งขันกันในพื้นที่ ซึ่งก็ประมาทไม่ได้ แต่ก็เชื่อมือของอดีต”นักสืบมือดี” อย่าง” พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฏ์” ผบก.ภ.จว.ยะลา ว่า”รับมือ”ได้ เช่นเดียวกับที่ จ.นราธิวาส ที่วันนี้ยังไม่มี”นักการเมืองท้องถิ่น” คนไหน หรือ”ค่ายไหน” ที่จะ”ทาบรัศมี”ของ”กูเซ็ง ยาวอหะซัน” นายก อบจ.คนปัจจุบัน ที่ถ้ายังไม่”ถอนตัว” และ”ล้างมือในอ่างทองคำ” ก็ยังไม่มี”คู่แข่ง” แต่การ”แข่งขัน” ในตำแหน่ง” ส.อบจ.” นั้นมี แน่นอน และมี”พลพรรค”ของ”บีอาร์เอ็น” ลงรับสมัครด้วย ดังนั้น “พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล “ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ต้องไม่ประมาท อย่างให้เรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” ซ้ำเติม”สถานการณ์” ที่”ย่ำแย่”ของ”จังหวัดนราธิวาส” ให้”แย่กว่าเดิม”…. และ ที่”จังหวัดปัตตานี” ข่าวว่า การ”เลือกตั้ง” นายกองค์การบริหารจังหวัด ครั้งนี้ “เศรษฐ์ อัลยุฟรี” นายก อบจ.คนปัจจุบัน มี”คู่แข่ง” ที่”ชัดเจน” แล้วว่า เป็น อดีต “สส.” ในพื้นที่ ซึ่งมีการ”เตรียมตัว” และ”วางแผน” เพื่อ”โค่นล้ม” คนโตแห่ง อบจ.ปัตตานี ที่เป็น”นายก อบจ.แบบ”ผูกขาด”มาแล้ว”หลายสมัย” ก็เป็น”หน้าที่”ของ”พล.ต.ต.สันทัด เชื้อพุฒตาล” ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ในการ”วางแผน” เพื่ออย่าให้”ปัตตานี” กลายเป็น”สนามรบ” ของ”ผู้ยิ่งใหญ่” ในการ”แข่งขัน”การเลือกตั้งครั้งนี้ และโดยภาพรวม “พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” ผบช.ภ.9 . ต้อง”สั่งการ”ให้ “ผบก.ภ.จว. ทั้ง 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง”รับมือ” กับการ”เลือกตั้ง” นายก อบจ. ให้ดี เพราะเห็นแล้วว่า จังหวัดที่ไม่มีปัญหา น่าจะมีเพียง “จังหวัดสตูล เพียง จังหวัดเดียว เท่านั้น…..

@สนามการเลือกตั้งของ จ.สงขลา ซึ่ง ณ วันนี้”นิ่งแล้ว” และเป็น สนามเลือกตั้งที่ “กูรูการเมือง” จับตามองด้วยความสนใจ เปิดตัวก่อนเพื่อน และถูกมองว่าเป็น”เต็งหนึ่ง” คือ”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ฯ  ที่”พิสมัยการเมืองท้องถิ่น” ทิ้ง”เก้าอี้อธิบดีกรมฝนหลวง” ทั้งที่ยังไม่”เกษียณอายุราชการ” โดยมี “สองบ้านใหญ่” แห่ง”จ.สงขลา คือ”บ้านใหญ่บุญญามณี” และ”บ้านใหญ่ขาวทอง” เป็นผู้”สนับสนุนหลัก” มี”สมพร ใช้บางยาง” อดีต ผวจ.สงขลา และ “อำนวย พิณสุวรรณ” รอง ผวจ.สงขลา ที่เพิ่งเกษียณมาหมาดๆ เป็นที่เป็นปรึกษา ซึ่งเปิดอย่าง”ยิ่งใหญ่” และเชื่อว่า” นิรันดร์ จินดานาค” ผู้สมัครของ”พรรคประชาชน” ไม่ใช่”คู่แข่ง” แต่ ณ วันนี้ อาจจะไม่ใช่”วันนั้น” เมื่อมี”ตัวเลือก” ที่เป็น”ทางเลือก” เป็น”ทีมที่สาม” ประกาศลง”แข่งขัน” นั้นคือ”ประสงค์ บริรักษ์” หรือ” เสี่ยแบน อดีต นายกเทศบาลเขาลูกช้าง อ.เมืองสงขลา และอดีตผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยเขต 1สงขลา ซึ่งข่าวว่า” แม้”จะไม่ได้ลงในนามพรรคการเมืองไหน แต่”พิพัฒน์ รัชกิจประการ”  เสนาบดีกระทรวงแรงงาน” ซึ่งเป็น”คีย์แมน” ของ”พรรคภูมิใจไทย”ของ”ภาคใต้” ประกาศให้การ”สนับสนุน” ใน”ฐานะ” ที่เป็นผู้ร่วมงานทางการเมือง เช่นเดียวกับที่เคย”สนับสนุน” น้ำ” หรือ”วาริน ชิณวงศ์” จนสามารถ”ล้มช้าง” อย่าง”เจ๊ต้อย” ได้เป็น”นายก อบจ.นครศรีธรรมราช มาแล้ว อย่าง”หักปากกาเซียน” ดังนั้นก็ต้องติดตามดูว่า “นครโมเดล” จะเกิดกับ”สงขลา” หรือไม่ เพราะมีการประกาศ”ยุทธศาสตร์”การ”หาเสียง” ที่”ชัดเจน”ว่า”ไม่ซื้อเสียง” การลงสมัครของ”นายกแบน” จึงเป็น” ทางเลือก” สำหรับ”ฝั่งของประชาชน” ที่ไม่ชอบทั้ง”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” และไม่ชอบ”นิรันดร์ จินดานาค” และไม่ชอบทีม”สนับสนุน” ให้”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” เป็น”นายก อบจ. เช่น “เสี่ยถึก” สมยศ พลายด้วย สส. ประชาธิปัตย์ เขต 3 ที่ ประกาศส่ง” ภรรยา” แล”ลูก” ลงสมัครในทีมของ”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” รวมทั้ง”ขั้ว” ที่อยู่ตรงข้าม”นายกชาย” หรือ “เดชอิศม์ ขาวทอง” รมช. สาธารณสุข” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ”ขั้ว” ที่ไม่ชอบ”บ้านใหญ่บุญญามณี”….

@ส่วน”ถาวร เสนเนียม” ที่ กลุ่มผู้สมัคร ส อบจ. สงขลา ทีมของ”ไพเจน มากสุวรรณ์” นำ”เทียบเชิญ” ให้มาเป็น”หัวหน้าทีม” ได้”ประกาศชัด” กับ”ประชาชน” ผ่านทาง”โซเชียลมีเดีย” ในการ”ไม่ลง” รับสมัครในครั้งนี้ ด้วยเหตุผลที่”คดีความทางการเมือง” ยังอยู่ใน”ขบวนการ”ของ”ศาลยุติธรรม” แต่”ถาวร เสนเนียม” ผู้ที่”มากบารมี” ทางการเมืองในพื้นที่จะเลือก”สนับสนุน”ผู้สมัครทีมไหน ยังไม่”เป็นข่าว” นอกจากนั้น ยังมี”ผู้สมัครอิสระ” อีก 1 หรือ 2 คน ที่เสนอให้เป็น”ตัวเลือก” ของ”ชาวสงขลา” ดังนั้น “สนามเลือกตั้ง”  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาจึงไม่”เงียบเหงา” ส่วนจะ”ร้อนระอุ”แบบ”ปราจีนบุรี” หรือไม่นั้น วันนี้ยังเพิ่ง”เริ่มต้น” จึงยัง”มองไม่ออก” ส่วนที่ต้อง”จับตามอง” คือ”ข่าว” ที่มีการ”ปล่อย” ซึ่ง”เท็จ” หรือ”จริง” ยังไม่ยืนยัน นั้นคือ”ข่าว” ที่” เดชอิศม์ ขาวทอง” ไม่”แฮปปี้” กับการที่” สุพิศ พิทักษ์ธรรม” ไม่ยอม”สวมเสื้อ ปชป.” ในการลง”สมัครนายก อบจ.สงขลา” ในครั้งนี้ และอาจจะ”ถอยห่าง” จาก”สนามเลือกตั้ง” เท็จ-จริง ต้องฟังจากปากของ”นายกชาย” เพราะ”ข่าวสาร” ที่ออกมาทาง”โซเชียล” มีทั้งเรื่อง”จริง” และ”ปั้นแต่ง” เพื่อการ”ทำลายล้าง” ทางการเมือง แต่ถ้า”ข่าวนี้เป็นจริง” ก็อาจจะทำให้”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” เหนื่อยกว่าเดิม และสิ่งที่จะ”ติดตามมา”หลังมีการ”สมัครรับเลือกตั้ง” ใครที่”มีแผล” อะไร”ติดตัว” ใครที่มีเรื่อง”ค้างคา” ในข้อหา”ทุจริต” ใน”ปปช.” ก็จะมีการ”เปิดโปง” ให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อเป็น”ข้อมูล” ในการ”ตัดสินใจ” ว่าจะ”เลือกใคร” เป็นผู้”บริหารท้องถิ่น

@ที่”น่ายินดี”หรือหน้า”เสียใจ”คือในการ”จัดอันดับ 10 อันดับของ การ”ทุจริต”ใน องค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศจังหวัด “สงขลา” มีการ”ทุจริต”ใน”อันดับที่ 9” ก็เป็นเรื่องของ”คนสงขลา” ที่จะใช้เป็น”ข้อมูล” ในการ”เลือก”ผู้บริหาร”อบจ.ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าจะ”เลือกใคร”มาเป็น”ผู้บริหารท้องถิ่น” ที่มี”งบประมาณ”เกือบ “2,000 ล้าน และต้องไม่ลืมคำพูดของ”อุทัย พิมพ์ใจชน” อดีดประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่กล่าวว่า” ผู้แทน”เป็นอย่างไร”ประชาชน” ก็เป็นอย่างนั้น….

@”ส่องกล้อง”ไปที่เมือง”คนด้น” ( คนดุ ) ที่ “จังหวัดพัทลุง” เมื่อ” ส.อบจ.” รวมทีม”ตบเท้า”ไป “ร้องขอ”ให้”วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” นายก อบจ.คนปัจจุบัน อย่าเพิ่ง”ลาโรง” หรือ”ล้างมือ” ทาง”การเมือง” ให้มาเป็น” หัวหน้าทีม” อีกหนึ่งสมัย ในขณะที่”นักการเมืองท้องถิ่น” ที่มี”ระดับ” ที่” พอฟัดพอเหวี่ยง” ก็ไม่มีใคร”อาสา”มาเพื่อเป็น”ทางเลือก” ของ”ประชาชน” ดังนั้น”นายก อบจ.”ของ”จังหวัดพัทลุง” ยังคงเป็น” วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” ก็”ยินดีล่วงหน้า” กับ”ชาวพัทลุง” ที่ไม่มีโอกาสในการ”เปลี่ยนนายก อบจ.” เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ…..

@เรื่องของ”อุทกภัย” ในภาคใต้” ที่เป็น”ภัยธรรมชาติ” ในการ”ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 2568” ซึ่งถูก”ภัยธรรมชาติ”เข้า”โจมตี” ทั้งภาคใต้ตอนล่าง และ ภาคใต้ตอนบน “พระเอก” ของการ”ช่วยเหลือ” ผู้”ประสบภัยน้ำท่วม” ยังเป็น” กองทัพภาคที่ 4” ที่มี”พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ “ เป็น”แม่ทัพภาคที่ 4” และ”ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มี”ความพร้อม” ทั้งเรื่องของ”กำลังพล” และ”รถราม้าช้าง” เมื่อมีการ”วางแผนรับมือ”และทำได้”ตามแผน” แม้จะห้ามความ”เกรี้ยวกราด”ของ”ธรรมชาติ”ไม่ได้ แต่ก็สามารถ”ช่วยชีวิต” ของ”ประชาชน” ที่ประสบภัยอย่างได้ผล…..ส่วนในจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง หน่วยงานที่ถูก”วิพากวิจารณ์” ว่ายัง”ไม่เต็มที่” กับการ”รับมือ” ในการ”ช่วยเหลือ” ผู้ประสบ”อุทกภัย” คือ” ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือ” ศอ.บต.” ซึ่งทำหน้าที่เป็น”หน่วยกลาง” หรือ”เซ็นเตอร์” ในการรับ”เรื่องราว”ความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อ”ส่งต่อ” ซึ่งถูก”กล่าวหาว่า”ไม่มี”ความพร้อม” เท็จจริง อย่างไร “ประชาชน”ต้อง”ฟังหูไว้หู” แต่ไม่ว่าจะอย่างไร” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์” เลขาธิการ”ศอ.บต. ก็ต้อง”สดับรับฟัง”เพื่อหาข้อ”บกพร่อง” ที่เกิดขึ้น  และคนของ”ศอ.บต. ต้องไม่”หวั่นไหว” กับเสียง”วิพากษ์วิจารณ์” เพราะ”คนทำงาน” ย่อมมีข้อ”บกพร่อง”ให้ถูก”ตำหนิ” ถือเป็นเรื่อง”ธรรมดา” คนที่”ไม่ผิดเลย”มีเพียงคนประเภทเดียวคือคนที่”ไม่ทำอะไร”เลย…..

@ส่วน”สถานการณ์ความรุนแรงของจังหวัดชายแดนภาคใต้” หลัง”น้ำลด” ก็เป็นไปตามที่”วิเคราะห์”ไว้”ล่วงหน้า” คือกลับมา”รุนแรง” เช่นเดิม และมีโอกาสที่จะ”รุนแรง” กว่าเก่า ในห้วงการ”ส่งท้ายปีเก่า – ต้อนรับปีใหม่ ที่อาจจะมี”คาร์บอมบ์” และ”จยย.บอมบ์” เกิดขึ้นในพื้นที่”เศรษฐกิจ” และ”หน่วยงานราชการ เพราะ”แหล่งข่าว” รายงานให้ทราบถึง”ความเคลื่อนไหว”ของ”กองกำลังติดอาวุธ” ที่มีการ”ประสารงาน” กับ”แนวร่วม” ระดับ”เปอร์มูดอ “ และ”เปอร์มูดี” ในพื้นที่ เพื่อกำหนด”เป้าหมาย” ในการ”ก่อเหตุ” ซึ่ง หลังน้ำลด มีทั้งการ”เผาทำลายกล้องวงจรปิด” มีทั้งการ”เผาหลักเขต” ทางหลวงชนบท มีการ”โจมตี” ด้วย”อาวุธสงคราม” ต่อ”เป้าหมาย”ที่เป็น” เจ้าหน้าที่รัฐ…..ที่น่า”สนใจ” คือการ”โจมตี” เจ้าหน้าที่”ทหารช่าง” ในขณะที่ กำลัง”ตักทราย” และ”ขนทราย” ใน”ลำคลอง” ในพื้นที่ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เพื่อนำไป”ซ่อมแซม” บ้านเรือนประชาชนที่ “เสียหาย”จากการถูก”น้ำท่วม” ซึ่งแสดงว่า”บีอาร์เอ็น” ไม่ได้ให้ความ”เป็นห่วง”กับความเป็นอยู่ของ”ประชาชน” ที่”ประสบภัยน้ำท่วม” ประเด็นนี้” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้อง”ขยายผล” ให้”ประชาชน” และ”สังคมโลก” เห็นถึงความ”โหดร้าย”ของ”บีอาร์เอ็น” ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความ”เดือดร้อน” ของ”ประชาชน  เช่นเดียวกับ”ภาคประชาสังคม,เอ็นจีโอ” และ”กลุ่มสิทธิมนุษย์ชน” ที่ไม่ให้ความ”สนใจ” กับการ”โจมตี” เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เป็นหน่วย”ช่วยเหลือประชาชน” ไม่มี”แถลงการณ์” เพื่อ”ประณาม”การกระทำของ”บีอาร์เอ็น” แม้แต่องค์กรเดียว ผิดกับการ”ตาย”ของ”ฆาตกร” ที่”ฆ่าคน,วางเพลิง” ที่ถูกเจ้าหน้าที่”วิสามัญฆาตกรรม” ที่”กลุ่มคนเหล่านี้”ต่างออกมา”แถลงการณ์” ด้วยความ”เป็นห่วงเป็นใย” เอ๊ะ อะไรเกิดขึ้นกับ สังคมของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ทำไม”โจร”จึง”สำคัญ”กว่า”เจ้าหน้าที่รัฐ….

@ตายแล้ว 1 ศพ กับ”มาตรการ”ปิด”ท่าข้าม 7 ท่า” ซึ่งเป็น”ท่าผ่อนปรน” ในการ”เข้าเมือง” โดยต้องใช้”หลักฐาน” ระหว่าง”คนไทย”กับ”คนมาเลเซีย”ด้านของ”รัฐกลันตัน”ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่ง”หัวหน้าที่ตำรวจรัฐกลันตัน” ประกาศ”จับจริง” และ”ดำเนินคดีกับ” ผู้ที่”ข้ามชายแดน” ใน 7 ท่าข้ามของ”แม่น้ำสุไหงโก-ลก ทำให้มีผู้”ลักลอบเข้าเมือง” ถูก”ไล่ยิง” และ”ว่ายน้ำหลบหนี” จนเสียชีวิต รวมทั้งมี”คนไทย” ถูก”จับกุม”ไปดำเนินคดีแล้ว จำนวนหนึ่ง เรื่องทั้งหมด”หน่วยงานของรัฐ” ไม่มี”หน่วยไหน” เปิดเผยข้อเท็จจริง รวมทั้งจะให้การ”ช่วยเหลือ” คนไทยที่ถูก”จับกุม” อย่างไรบ้าง นี่แสดงว่าเราไม่มี”เจ้าภาพ” ในเรื่อง”ระหว่างประเทศ” อย่างนั้น ใช่หรือไม่…..เมื่อ”สถานการณ์”ของ”ไฟใต้” ใน”สายตา”ของ”รัฐบาลเพื่อไทย” ยังเห็นว่าเป็นเรื่อง”ปกติ” และไม่มีการ”ปรับเปลี่ยน” นโยบายในการ”ดับไฟใต้” เพราะมีความเห็นว่า” สถานการณ์ดีขึ้น” ความ”รุนแรงลดลง”การ”ดับไฟใต้” ไม่ต้องใช้”ยาแรง” และ”รัฐบาล” ยัง”มุ่งเน้น”ไปยังเรื่องของ”เศรษฐกิจ” เรื่องการ”พัฒนาพื้นที่” เพื่อแก้ปัญหา”ความยากจน” และการ”ว่างงาน” ดังนั้นการเดินทางไป”เยือนประเทศมาเลเซีย” ของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และคณะ เพื่อพบปะหารือกับ” อันวาร์ อิบราฮิบ” นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย “กรอบการเจรจา” จึงอยู่ที่”ความร่วมมือ” ในด้าน”การค้า เศรษฐกิจ สังคม” เพื่อการ”เพิ่มมูลค่า” การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับที่”เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งพ้นตำแหน่ง เคยไปเยือน และ “เจรจาความเมือง”กับ”อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนรีของประเทศมาเลเซียมาแล้ว และก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น….

@วันนี้ปัญหาของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ไม่ใช่เรื่องของ”เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน”  แต่เป็นเรื่องของ”ความไม่สงบ” เมื่อ” รัฐบาลเพื่อไทย” ไม่เข้าใจ”โจทย์” ที่”แท้จริง” จึง”ตีโจทย์ผิด” ไป”เจรจาความเมือง” ในเรื่อง” เศรษฐกิจ-การลงทุน” แทนที่จะไป”เจรจา”เรื่องการ”ดับไฟใต้” ซึ่งต้องขอให้”อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรี”ของ”ประเทศมาเลเซีย” บอกให้” มุขมนตรีรัฐกลันตัน” และ”พรรคพาส” หยุดการ”สนับสนุน” ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” หยุดการใช้”บีอาร์เอ็น” ใช้”ฐานที่มั่น” เพื่อการ”ฝึกอาวุธ” และ”ส่งกำลังบำรุง และส่ง”อาวุธยุทโธปกรณ์” จาก”รัฐกลันตัน”มาเพื่อ”ก่อการร้าย”ใน “จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่”ต่างหาก” คือเรื่องที่”แพทองธาร” ชินวัตร” และ”สหายใหญ่” อย่าง”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ”เสนาบดีกระทรวงกลาโหม” ควรทำ เพื่อหยุดการ”โหมไฟใต้” จาก”ขบวนการบีอาร์เอ็น” เชื่อ เถอะ การที่”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี นำคณะ ในพบกับ”อันวาร์ อิบราฮิบ” นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ครั้งนี้จึง”สูญเปล่า” ทั้ง”งบประมาณ” และ”เวลา” สู้เอา”เวลา” ลงพื้นที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อพบปะ”ประชาชน” และ”ติดตามสถานการณ์” ทั้งเรื่อง”การฟื้นฟูน้ำท่วม” และ”สถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อลบคำ”ครหา” จาก”ประชาชน” ในพื้นที่ ว่า”นายกรัฐมนตรี” อ้าง”ไม่มีเวลา” ในการมา”ตรวจราชการ” ในขณะที่เกิด”อุทกภัย” เป็นเรื่อง”ไม่จริง” ยังจะดีกว่า….. และ สิ่งที่ “ติดตามมา”ที่เป็น”ประเด็นทางการเมือง” ในวันที่”นายกรัฐมนตรี” และคณะไปเยือน ประเทศมาเลเซีย คือการ”เรียกร้อง”ของ”คณะโฆษก”ของ”บีอาร์เอ็น” ที่”เร่งเร้า” ให้”รัฐบาล” เร่งดำเนินการ”เจรจาสันติภาพ” ตามกรอบของ”ข้อตกลง JCPP” โดยเร็ว โดยมีการ”ข่มขู่”ว่า หาก”รัฐบาล”ไม่ ดำเนินการ “บีอาร์เอ็น” ถือว่า”รัฐบาล”ไม่มีความ”จริงใจ” ในการแก้ปัญหา”ความขัดแย้ง” ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ อาจจะมีการ”ก่อเหตุความรุนแรง”เพิ่มขึ้น เอ๊ะ นี้”บีอาร์เอ็น” กำแหง ถึงขึ้นการ”ข่มขู่ รัฐบาล แล้ว หรือนี่…..

@ที่สำคัญคำว่า” สถานการณ์”ความไม่สงบ”ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่”รัฐบาล”บอกว่า”ดีขึ้น” ดีตรงไหน ดีจริงหรือ  “กระทรวงกลาโหม,กระทรวงมหาดไทย ผบ.ทบ. ,ผบ.ตร.” ไม่ลองถาม”ผู้ว่าราชการจังหวัด” ที่”กล้าพูดความจริง” เหมือนกับ”พูดกับผู้เขียน” เพื่อให้”เห็นภาพ” ของ”ฝ่ายการเมือง”ของ”บีอาร์เอ็น” ในห้วงที่เกิด”อุทกภัย” ซึ่ง”ฝ่ายความมั่นคง” และ”ฝ่ายปกครอง” ต้องสู้กับ” ขบวนการบีอาร์เอ็น” ในการ” แย่งชิงมวลชน” ทุกรูปแบบ ตั้งการการ”รับบริจาค” เพื่อช่วยเหลือ”มวลชน” ของ”บีอาร์เอ็น” การ”ช่วยเหลือหลังน้ำลด” และ”อื่นๆ ที่”ฝ่ายการเมือง” ของ”บีอาร์เอ็น” ทำกันอย่างเป็น”ขบวนการ” ดังนั้น” สถานการณ์”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ดีขึ้น”จริงหรือไม่ ไม่ใช่วัดกันที่เรื่อง”การก่อเหตุ” แต่วัดกันที่เรื่องของ”การเมือง” เรื่องนี้คือเรื่องสำคัญที่”เสนาบดี”ในกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้อง”รับรู้” และต้อง”รู้จริง”…..การ”รู้ไม่จริง” และ”เชื่อว่า” สถานการณ์ของ”ไฟใต้” ลดลง นำไปสู่การ”ตัดงบประมาณ” ของ”หน่วยงานความมั่นคง” ลงปีละ 10 % หลายหน่วยงาน  โดยเฉพาะ”ตำรวจ” ที่มีหน้าที่ในการต้องมี”เครื่องไม้ เครื่องมือ” ต้องมี”กำลังพล”ที่เพิ่มขึ้น และต้อง”พัฒนาประสิทธิภาพ” ของหน่วย เพื่อให้มีความ”เท่ากัน” กับการ”พัฒนาการ”ของ”กองกำลังขบวนการแบ่งแยกดินแดน”  หน่วยงานเหล่านี้คือ “หน่วยงาน”ที่ได้รับ”ผลกระทบ” จากการ”รู้ไม่จริง” และเชื่อว่า” สถานการณ์”ของ”ไฟใต้”ลดความรุนแรงลง และ นี้คือ”กับดัก” ที่”บีอาร์เอ็น” วางไว้ นั่นเอง…..

@ติดตามดูการทำงานของ”โชตินรินทร์ เกิดสม “ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่”รับมือ” กับปัญหา”น้ำท่วม” ได้อย่างมี”ประสิทธิภาพ” และ”รวดเร็ว” รวมทั้งการได้ “รอง ผวจ.” อย่าง “วิทยา จันทน์เสนะ” และ “คณิตา ราษฎร์นุ้ย” ที่เป็น”คนรุ่นใหม่” และที่ สำคัญมี”เศวต เพชรนุ้ย” รองผู้ว่าฯ ผู้มีความรู้ในเรื่อง”ความมั่นคง” อยู่ด้วย ก็น่าที่จะทำให้การ “พัฒนา” และการ”แก้ปัญหา”ของ”จังหวัดสงขลา” เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะเรื่องของ”โพงพาง” ที่”รุกร่องน้ำการเดินเรือ” และเป็นเครื่องมือ”ประมงผิดกฎหมาย” ที่”หมักหมม”มานานเป็น 10 ปี  คงจะได้มีการ”แก้ไข” สมัยของ”โชตินรินทร์ เกิดสม เพื่อให้”คนสงขลา” ได้มีความ”เชื่อมั่น” ว่า”นักปกครอง”ที่ไม่ตกอยู่ใต้”อิทธิพล”ของ”นักการเมือง”และ”นักเลง” ยังมีอยู่ใน”กระทรวงมหาดไทย….. แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

ไชยยงค์ มณีพิลึก

—————————————————————–

ต้อนรับ,    พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ บาร์นาเบ้ เรโอด์ หัวหน้าคณะทำงาน ICRC ภาคใต้ ประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางการพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ของพระราชทาน.   พาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี ลงพื้นที่มอบสิ่งของพระราชทาน ของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี จำนวน 485 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยมี วันสุกรี แวะมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการ เข้าร่วมอย่างอบอุ่น ณ มัสยิดนูรุลอิฮซาน หมู่ที่ 7 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี

สั่งการ.   พล.อ,พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ,ลงพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามการปฏิบัติการและ สั่งการ ให้บูรณาการ ช่วยผู้ประสพภัยน้ำท่วม และ รักษาความปลอดภัยใน เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับบีใหม่ โดยมี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ,กอ.รมน.ภาค 4 และคณะให้การต้อนรับ ณ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ,ยะรัง จ.ปัตตานี

เปิดงาน.    โชตินรินทร์ เกิดสม ผวจ.สงขลา และ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมเปิดงาน สงขลาบาลานซ์ไบก์ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 4 เดอะคาร์นิวัล ณ.หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา

หยุดความรุนแรง.  โยฮัน เบญฮาวัน นายอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส ,อับดุลอาซิ บาโด ประธานชมรมอิหม่าม อ.จะแนะ นำกลุ่มมวลชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมต่อต้านความรุนแรง ณ หอประชุม อ,จะแนะ จ.นราธวาส หลังจาก ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น โจมตี เจ้หน้าที่ทหารช่าง ที่ลงพื้นที่ซ่อมบ้านเรือนประชาชนที่ประสพภัยน้ำท่วม ทำให้กำลังพล เสียชีวิต และ บาดเจ็บ

แสดงความยินดี.   ร.ต.อ.ฉลอง ทองนะ ,ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล วุฒิสมาชิก รัฐสภา และคณะ แสดงความยินดีกับ พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กรุงเทพฯ

เยียวยา.   ธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผอ.กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง(กสม.)และคณะเยียวยา เคารพศพ อส.ทพ.วุฒิชัย ไทยประดิษฐ์ ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของ แนวร่วม บีอาร์เอ็น พร้อมมอบเงินเยียวยาใหกับครอบครัว ณ วัดสุวรรณากร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

มอบสิ่งของ.    พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)มอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้  อับดุลบาซิ เจ๊ะมะ ประธานกรรมการอิสลาม จ.ยะลา เพื่อนำไปช่วยผู้ประสพภัยน้ำท่วม ณ ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา

แข่งฟุตซอล.   ชุลีกร ทองด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตซอล นักเรียนรุ่น 10 ปี ของกลุ่มนักเรียนในสังกัด สพป. ตรัง เขต 1 โดยมี อาคม บริสุทธิ์ ประธานกลุ่มโรงเรียนสุโสะ-บ้านนา กล่าวรายงาน มีโรงเรียนและกลุ่มโรงเรียนจำนวน 15 กลุ่ม ผลของการแข่งขัน ชนะเลิศเป็นของโรงเรียนอนุบาลตรัง รองอันดับ 1 เป็นของโรงเรียนบ้านย่านตาขาว ส่วนรองอันดับ 2 เป็นของกลุ่มนาโยง ณ สนามโรงเรียนบ้านห้วยม่วง อ.ปะเหลียน จ,ตรัง

ปลูกกินเอง.  ณ อาคารอเนกประสงค์ หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง สมคิด ส่งศรี รอง นายกเทศบาลตำบลท่าพญา เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการอาหารปลูกผักกินเอง สร่งความมั่นคงด้านอาหาร เหลือจำน่าย สร้างรายได้กับผู้สูงวัย หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา โดยมีวิทยากร จากเกษตรอำเภอปะเหลียน จ.ตรัง ประชุม ให้ความรู้ทางด้านต่างๆ กับสมาชิกกลุ่มผู้สูงวัย ระหว่างวันที่ 16-17 ธ.ค.67 โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 20  คน

เยี่ยมชม.   ที่คลินิกแพทย์แผนไทยชีวาเวช  วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรจังหวัดตรัง  สุนทร  ปราบเขต  ผอ.วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรจังหวัดตรัง  พร้อมด้วย รอง อาจารย์และ  แพทย์แผนไทย นำผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมคลินิกแพทย์แผนไทยชีวาเวช  ที่เปิดให้บริการนวดแผนไทยให้กับประชาชน โดยมีการนวดหลากหลายรูปแบบ เช่น การนวดเพื่อการบำบัดรักษาโรค   นวดเพื่อการบำบัดรักษาโรค+ประคบสมุนไพร นวดน้ำมัน นวดผ่อนคลายเพื่อสุขภาพ  อบซาวน่า  อบสมุนไพรและอีกหลากหลาย  ในราคาที่ไม่แพง

ปัญหายาเสพติด.   นิวัตน์ สุนทรนนท์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง  เป็นประธานในการประชุม ในการประชุม คณะกรรมการชุมชนในเขตเทศบาล ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ปลัดและเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเข้าร่วม ในการแก้ปัญหายาเสพติด และกลุ่มเยาวชนลักเล็กขโมยน้อย ภายในเขตเทศบางพร้อมทั้ง ติดตามความคืบหน้าของคดีที่ได้แจ้งความในก่อนหน้านี้หลายคดี แต่คดียังไม่คีบ  ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลย่าสนตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

รับมอบ.   มูฮัมมัด ศานติภิมุข รอง ผวจ.ยะลา พร้อมด้วย จามรี อนุรัตน์  ปชส.ยะลา , หัวหน้าส่วนราชการ และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับมอบ ข้าวสาร อาหารแห้ง  น้ำดื่ม เสื้อผ้า เครื่องใช้สำหรับเด็ก และผู้ใหญ่ “น้ำใจจากชาวภูเก็ต ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ยะลา“ จาก ทินกร จอมเมือง ผู้จัดการใหญ่ บริษัทปางช้างนพรัตจำกัด จังหวัดภูเก็ต  ณ หน้าศาลากลางจังหวัดยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

ถุงยังชีพ. ว่าที่ ร.ต. ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส พร้อมด้วย สังคม เกิดก่อ ปลัดจังหวัด  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอสุไหงโก-ลก ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพและน้ำดื่ม จำนวน 200 ชุด จากกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และน้ำดื่ม ที่ชาว จ.ระนอง ได้ร่วมกันบริจาคส่งมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส  ณ บ้านปูโป๊ะ ต,มูโนะ อ,สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

กีฬาสัมพันธ์.  อมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง จ.ยะลา เปิดการแข่งขันกีฬาสัมพันธ์ตำบลธารน้ำทิพย์ ต้านภัยยาเสพติด ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ประชาชน ได้เล่นกีฬา โดยไม่พึ่งพาสิ่งเสพติด และเพื่อส่งเสริมสุขภาพ พลานามัยแก่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ให้เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  โดยมี  สมัคร นอระพา นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ เจ้าหน้าที่ตำบลธารน้ำทิพย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วม ณ สนามกีฬากลาง ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา

ลงเสาเอก.   มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา ประธานลงเสาเอกการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ คสล. 2 ชั้น ของ อบจ.ยะลา โดยมี อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง และ อับดุลอาซิ ดือราแม นายก อบต.กาบัง ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ณ บ้านลาแล หมู่ 5 ต,กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา

ช่วยประชาชน.    พ.ต.อ.ศุภชัช (ยีหวังกอง) ณ พัทลุง ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส ,  พร้อมด้วย ชุดจิตอาสา,ชป.อัสนี และข้าราชการตำรวจ สภ.ตากใบ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสพภัยพิบัติอุทกภัย พร้อมนำเงินสดจำนวน 50,000 บาท ที่ได้รับบริจาคจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม มามอบให้กับ จุฬาลักษณ์ สะเเลเเม ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโคกมือบา เเละเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อน ประชาชนที่ได้รับความเดือน จากอัทกภัย ในพื้นที่ ต,โฆษิต อ.ตากใจ.จ.นราธิวาส