ตอนแถลงผลงานครบ 3 เดือน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” นั้น นายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ที่เพิ่งได้รับการจัดอันดับจาก นิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็น ผู้ทรงอิทธิพล ของโลกลำดับที่ 29 หลุดตอนหนึ่งว่า “การทลายทุนผูกขาดเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการผูกขาดจากภาครัฐหรือเอกชน เช่น เรื่องการส่งออกข้าว มีระเบียบควบคุมมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใครจะส่งออกข้าวต้องมีที่เก็บข้าว 500 ตัน อย่างนี้ เกษตรกรที่เป็น SME จะไม่มีสิทธิเลย เราจะปลดล็อกให้เกษตรกรส่งออกเองได้” แล้วก็จบห้วน ๆ ต่อด้วย จะมีการลดค่าไฟ ค่าพลังงาน ในปีหน้า
อ้าว แล้วอะไร คือ ทลายทุนผูกขาด ธุรกิจไหน ขั้นตอนมีอะไร 12345 แล้วทุนพลังงานที่ถูกกล่าวหาหนักหน่วง เป็นอีกทุนผูกขาด อยู่ในข่ายด้วยหรือไม่ เชื่อเถอะ นายทุนเค้าพร้อมปรับตัวได้ ขอ “กติกา” ชัด-ชัด เท่านั้น
คำว่า ทลายทุนผูกขาด อยู่ในนโยบายหาเสียงของ พรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน) นโยบายนี้เคยสร้างความหวาดหวั่นให้เหล่าเจ้าสัวที่ถูกมองผูกขาดมาแล้ว จนถูกตั้งป้อมต่อต้านหนัก เมื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเอามาพูดซ้ำ เลยน่าตื่นเต้นดี แต่ แล้วไงต่อ นั่นสิ…
ที่น่าแปลก คือ นายกฯ อิ๊งค์ กลับไม่ลืมย้ำหนักแน่นว่า “เพื่อไทยไม่มีเจตนาแทรกแซงกองทัพเลย” เป็นขณะเดียวกับที่ 20 สส.เพื่อไทย นำโดย ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เสนอ พ.ร.บ.แก้ระเบียบสภากลาโหมป้องกันรัฐประหาร แล้วถูกพรรคร่วม ภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ รุมสวนกลับ ไม่เอาด้วยทันที อ้างแทรกแซงกองทัพ จนอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต้องออกมา “ตีปาก” ว่าหล่อเร็วเกินไป ขอให้หล่อช้าๆ หน่อย อารมณ์ค้างไปถึงงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน อดีตนายกฯ ฟาดซ้ำ พรรคร่วมไม่เลือดสุพรรณ เป็นอีแอบ หนีประชุม ครม.วาระเคาะกฎหมายกำหนดภาษีตาม OECD ครั้งหน้า ควรพก “ใบลาออก” มาด้วยเลย
เล่นเอาการเมืองร้อนส่งท้ายปี แต่ก็จะไม่มีอะไรในกอไผ่ กอดคอเป็นรัฐบาลกันต่อไป
กลับมาที่ทุนผูกขาดกับการไม่แทรกแซงกองทัพ การเมืองระบบอุปถัมภ์ อำนาจอนุรักษ์จารีตแบบไทย ๆ นายทุน ขุนศึก-ศักดินา เป็นสองเสาหลักที่พึ่งพิงกันและไม่เคยถูกกระทบ นับแต่ปี 2500 ไม่มีพรรคไหนกล้าทลายการผูกขาด 2 เสาหลักนี้ ทุนผูกขาด ทำให้ปัจจุบันบริษัทขนาดใหญ่ 5% ทำรายได้ถึง 85% ของรายได้ของบริษัททั้งหมด และครอบครองกำไรถึง 60% ของกำไรธุรกิจทั้งหมด นี่คือความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจ ส่งผลต่อเนื่องให้ช่องว่างคนรวยกับคนจนของไทย “ถ่าง” มาก จนแทบจะมากสุดในโลกเป็นทศวรรษแล้ว คนจนไม่มีสิทธิโงหัวได้
ขณะการผูกขาดความรักชาติและการเมืองของกองทัพ ก่อวงจรอุบาทว์ มีปฏิวัติแทบทุก 5 ปี แล้วฉีกรัฐธรรมนูญเขียนใหม่มาแล้ว 20 ฉบับ ถึงฉบับอัปยศ 2560 ก็ไร้วี่แววจะแก้ไขได้ เพราะมี “องค์กรอิสระ” สืบทอดอำนาจต่อ พ.ร.บ.แก้ไขระเบียบสภากลาโหมถูกถอนไปเรียบร้อย อ้างจะเอาไปแก้ใหม่ 10 จุด แก้อะไร เมื่อเนื้อหาธรรมดามาก แต่งตั้งนายพลให้ ครม.ทบทวนได้, นายกฯสั่งพักงานทหารที่คิดยึดอำนาจได้, ลดจำนวนทหารในซูเปอร์บอร์ด, นายกฯเป็นประธานสภากลาโหม, สภากลาโหมเลิกผูกขาดทำนโยบายและจำนวนนายพล ประเทศประชาธิปไตยที่ไหน นี่คือ เรื่องปกติ แทรกแซงกองทัพตรงไหน มีแต่กองทัพแทรกแซงการเมือง โดยนักการเมืองไทยได้แต่ แบ๊ะ-แบ๊ะ กลัวขี้หดตดหาย โผล่อีกทีตอนเลือกตั้ง เรื่องน่าเศร้า นักการเมืองไทย
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ “ลองดี” ประกาศใช้กฎอัยการศึก แค่ 3 ชั่วโมง ถูกสภาถอดถอนไปเรียบร้อย รอศาลรัฐธรรมนูญรับรองมติ และมีหวังถูกคดี “กบฏ” ตามมาอีก รมว.กลาโหมที่ลาออกก่อนหน้า ถูกจับเข้าคุก พยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ แล้วทหารไทยที่ยึดอำนาจซ้ำซาก ไม่มีอะไรระคายผิว แต่ละคนรวยร้อยล้านพันล้าน มันใช่หรือ?!?
น่าเสียดายที่พรรคเพื่อไทยแค่เสนอกฎหมาย ยังไม่กล้า ถูกสะกิดนิดเดียว ถอยกรูดสุดซอย ไร้ความกล้าหาญทางการเมือง ทั้งที่เคยประกาศ ต้องปฏิรูปกองทัพ จึงไม่ต้องพูดถึงการทลายทุนผูกขาด ปฏิรูปเศรษฐกิจเลย
ก็คงเป็นแค่นายกฯอิ๊งค์ เธอคงเผลอพูด “ผิด ๆ” อีก… เท่านั้นเอง.
……………………………………..
ดาวประกายพรึก