ถ้าอยู่ในสภาพปกติทั่วไป การชนะลาว เป็นเรื่องที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว แต่จากผลงานนัดแรกที่เสมอ มองโกเลีย ทำให้มีความไม่มั่นใจมาแทรก

หวั่นว่าความกดดัน จะทำให้แข้งขาตึง เล่นกันไม่ได้ดีอย่างที่ควร

จริงๆ ก็เกือบจะเป็นเช่นนั้น แต่มาได้ประตูถูกที่ถูกเวลา ในท้ายครึ่งแรก “เจ้าซัน” กรวิชญ์ ทะสา โดนเตะล้ม แล้ว “กัปตันกัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ยิงไม่พลาด

ถ้า 0-0 คงเครียดหนัก

พอ 1-0 หลังจบครึ่งแรก ก็เลยดูรีแล็กซ์ เหมือนฟ้ากับเหวไปเลย

ไทยเล่นง่ายขึ้น สบายขึ้น และได้ประตูตามเนื้อผ้าจาก “จีโอ้” จักรกฤช พาละพล และ กรวิชญ์ ทะสา ที่ล้วนเป็นความสามารถเฉพาะตัว

ก่อนลงสนาม เราได้ทราบผลคู่แรก ที่ มาเลเซีย ชนะ มองโกเลีย 1-0 ซึ่งเหมือนดาบสองคม

ข้อดีคือ ตัดมองโกเลียไปเลย หากเราชนะลาวได้ ก็ไปชี้ชะตากับ เสือเหลือง

ส่วนข้อเสียคือหากเราไม่ชนะลาว ก็เท่ากับชวดแชมป์กลุ่มแน่นอน

แต่สุดท้ายแล้ว ทีมชาติไทยชนะลาวได้ ก็หมายความว่า นัดสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค. จะเป็นเกมแย่งแชมป์กลุ่ม และแย่งตั๋วเข้ารอบแบบอัตโนมัติทันที

โจทย์ของไทยคือ ต้องชนะ

โจทย์ของมาเลเซียคือ แค่เสมอ

แม้ไม่ได้ตัวที่ดีที่สุด ยังเชื่อว่า ศักยภาพของทีมชาติไทย ดีกว่าคู่แข่งทุกทีมในกลุ่ม ยิ่งการได้ “กัน” ธนวัฒน์ มาเสริมแกร่ง เสียดายที่ เบนจามิน เจมส์ เดวิส เจ็บซะก่อน ไม่รู้จะลงนัดสุดท้ายได้หรือไม่

บวกกับชัยชนะวันนี้ ไม่ว่าใครจะค่อนขอดว่าดีใจทำไมกับการชนะทีมลาว แต่แม้จะเป็นชัยชนะเล็กๆ ของใครหลายคน ทว่ามันส่งผลถึงสภาพจิตใจของทีม

สภาพจิตใจที่กดดันมาโดยตลอด จากข้อกังขาจากรอบด้าน ว่าชุดนี้ “จะไหวหรือ” กับสารพันปัญหา

อย่างที่เคยว่า สมรภูมิมองโกเลีย ช้างศึกจะไม่สามารถเผด็จศึกโดยง่าย จะเป็นศึกยืดเยื้อต้องสู้ถึงนาทีสุดท้าย

ตอนนี้เรามาถึงจุดนั้นแล้วจริงๆ

มาเลเซียที่ว่าเป็นคู่แข่งที่แกร่งสุด กับไพ่ที่เหนือกว่า ผลเสมอก็พอ

แต่การเล่นให้เสมอ เขาว่ายากกว่าเล่นให้ชนะ

ช้างศึกในวันที่ปลดปล่อยพันธนาการความตึงเครียด ไม่มีอะไรให้คิดมาก นอกจากเดินหน้าลุย

ชัยชนะเท่านั้นที่ต้องการ

ไม่มีที่ว่างให้กับความติดขัดใดๆ อีกแล้ว

10 โมงเช้าวันหยุด วันอาทิตย์นี้ วันฮาโลวีน

รอลุ้นรอเชียร์กัน.

*** วุฒินล ***